สุโขทัย 4 พ.ย.- ชาวปกาเกอะญอบ้านแม่สาน นามสกุลพระราชทาน “ค้างคีรี” ทั้งหมู่บ้านซาบซึ้งใจมาตลอด 40 ปี ในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เมื่อครั้งเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรและทรงรับสั่งให้สร้างโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร พร้อมอนุรักษ์โรงเรียนไว้เป็นอนุสรณ์แห่งความจงรักภักดี
นายทวี ยงญาติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เปิดเผยถึงเรื่องราวของความซาบซึ้งใจเกิดขึ้นในพื้นที่ว่า หมู่บ้านแม่สานเป็นพื้นที่ทุรกันดาร การคมนาคมไม่สะดวก มีประชากรทั้งหมด 505 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากระเหรี่ยงปกาเกอะญอ ปัจจุบันพัฒนาอาชีพตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียง และรู้จักเก็บออม สามารถส่งลูกหลานไปเรียนในเมือง นามสกุลของชาวบ้านใช้เหมือนกันทั้งหมู่บ้าน คือ “ค้างคีรี” ซึ่งเป็นนามสกุลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ด้านนายติ๊บแก้ว ค้างคีรี อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านแม่สาน ต.แม่สำ เล่าเพิ่มเติมว่า วันนั้น ชาวกระเหรี่ยงปกาเกอะญอบ้านแม่สานยังปลาบปลื้มไม่เคยลืม คือ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2519 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร พร้อมคณะแพทย์หลวงและสิ่งของพระราชทาน ขณะนั้นมีราษฎรเจ็บป่วย พระองค์ทรงพระกรุณาให้เฮลิคอปเตอร์นำผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลศรีสังวร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย หลังจากทอดพระเนตรสภาพพื้นที่แล้วทรงมีกระแสรับสั่งให้ตั้งโรงเรียนจัดหาครูมาทำการเรียนการสอน และเปิดสอนในวันที่ 10 กรกฏาคม 2519 นำความปลาบปลื้มและความเป็นสิริมงคลมาชาวบ้านแม่สานอย่างหาที่สุดมิได้ และได้ร่วมกันอนุรักษ์โรงเรียนบ้านแม่สานแห่งนี้ไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความจงรักภักดี
นายวิชัย นมเนย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่สาน กล่าวว่า แม้เพิ่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ได้ 3 เดือน แต่รับรู้ถึงความภาคภูมิใจที่ชุมชนมีต่อโรงเรียนแห่งนี้ ทำให้เกิดความปลาบปลื้มด้วยเช่นกัน ซึ่งจะดูแลรักษาสถานที่ของโรงเรียนไว้เหมือนเดิมที่สุด เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรหมู่บ้านชาวปกาเกอะญอได้อาศัยอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารอย่างร่มเย็นเป็นสุข.-สำนักข่าวไทย