ปาฏิหาริย์ชีวิต…สาวเชียงใหม่รอดตายจากหัวใจวายกลางหิมะที่ญี่ปุ่น ตอน 1

เชียงใหม่ 17 พ.ค.-คงยังจำกันได้ถึงเรื่องราวของสาวชาวเชียงใหม่ ที่ไปหัวใจวายฉับพลันกลางหิมะที่ญี่ปุ่น เมื่อช่วงต้นปี โดยหมดสติไปนานกว่า 20 วัน โอกาสรอดชีวิตไม่ถึง 1% แต่ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์และปาฏิหาริย์ของชีวิต ทำให้เธอรอดตายมาได้ พร้อมกับค่ารักษาพยาบาลที่สูงเกือบ 6 ล้านบาท และบทเรียนชีวิตมากมาย โดยเฉพาะคนที่ไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ติดตามจากรายงานปาฏิหาริย์ชีวิต วันนี้เสนอเป็นตอนแรก


จุ๊บจิ๊บ สาววัย 27 ปี ที่กลับมาพักรักษาตัวที่เชียงใหม่บ้านเกิด รู้สึกเหมือนกับเกิดใหม่อีกครั้ง หลังรอดตายจากหัวใจวายฉับพลันกลางหิมะในสวนสาธารณะที่ญี่ปุ่น ขณะไปเที่ยวกับเพื่อนเมื่อ 20 มกราคม 2560 ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยของญี่ปุ่นปั๊มหัวใจและส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลโตเกียว เมดิคอล แพทย์ระบุหัวใจวายฉับพลันจากหินปูนเกาะเส้นเลือดหัวใจถึง 3 เส้น เมื่อเจออากาศหนาวจัดเส้นเลือดหดตัว ทำให้หัวใจขาดเลือด สมองขาดอากาศ โอกาสรอดชีวิตมีไม่ถึง 1%


เหมือนปาฏิหาริย์ จุ๊บจิ๊บ ที่แทบจะหมดโอกาสรอด หมดสตินานถึง 26 วัน ผ่าตัดทำบายพาสเส้นเลือดหัวใจทั้ง 3 เส้น ฟื้นกลับมาอีกครั้งท่ามกลางความดีใจของคนรอบข้าง แม้แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจยังมองว่า เป็นปาฏิหาริย์ชีวิตและเป็นโชคดีในโชคร้ายที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีการกู้ภัยและมีระบบช่วยชีวิตที่ดี


จุ๊บจิ๊บอาการดีขึ้น และเดินทางกลับบ้านที่เชียงใหม่เมื่อต้นเมษายน หลังรักษาตัวที่ญี่ปุ่นกว่า 2 เดือน แต่มาพร้อมค่ารักษาเกือบ 6 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินสูงมากสำหรับครอบครัวเธอที่เป็นพนักงานบริษัท พ่อและแม่ที่เป็นช่างแกะสลักไม้ โดยสถานเอกอัครราชทูตไทยที่ญี่ปุ่นสำรองจ่ายไปกว่า 2 ล้านบาท ที่เหลือขอผ่อนจ่ายกับโรงพยาบาล

หัวใจของจุ๊บจิ๊บกลับมาเต้นได้อีกครั้ง แต่ต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าไปตลอดชีวิต พร้อมกับกับบทเรียนชีวิตมากมายทั้งการท่องเที่ยวต่างประเทศที่สุขภาพต้องพร้อม ทำประกันภัยการเดินทาง พบสัจจธรรมชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ที่สำคัญเรื่องของเธอทำให้เห็นความรักของแม่คนหนึ่ง ที่จบเพียง ป.4 แต่ทำทุกวิถีทางที่ไปดูแลลูกถึงญี่ปุ่นนานกว่า 2 เดือน แม้จะยากลำบากเพียงใดก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง