ดันพระธาตุพนม ขึ้นทะเบียนมรดกโลก

กรุงเทพฯ 17 พ.ค.ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการมรดกโลก 15 ประเทศ ร่วมเวทีประชุมนานาชาติ บริหารจัดการมรดกโลกทางศาสนา ระดมความคิดเห็น องค์ความรู้ ดันพระธาตุพนม ขึ้นทะเบียนมรดกโลก


นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดการประชุมนานาชาติว่าด้วยการบริหารจัดการมรดกโลกทางศาสนาในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก จัดขึ้นระหว่างวันที่17-19 พฤษภาคม ที่กรุงเทพมหานครและจ.นครพนม โดยมีผู้เชียวชาญด้านบริหารจัดการมรดกโลกที่เกี่ยวกับศาสนาจาก15 ประเทศ  ทั้ง เมียนมาร์ ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเชีย จีน อินเดีย เนปาล ศรีลังกา ภูฏาน เป็นต้น ร่วมระดมความเห็น แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นำเสนอกรณีศึกษาเป็นเทียบเรื่องคุณค่าสากลของมรดกทางศาสนา และแนวทางการอนุรักษ์และการบริหารจัดการตามแนวทางสากลของคณะกรรมการมรดกโลกในแต่ละประเทศดันพระธาตุพนม ขึ้นเป็นมรดกโลก รวมทั้งลงพื้นที่วัดพระธาตุพนมและบริเวณโดยรอบ


โดยในพิธีเปิด มีผู้แทนจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตจากกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม  คุณใหม่ สิริกิติยา เจนเซ่น  กลุ่มงานวิชาการการอนุรักษ์ สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ผู้แทนจังหวัดนครพนม พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม เจ้าคณะจังหวัดนครพนม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยได้เสนอ โบราณสถาน แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณคดี ขึ้นสู่บัญชีมรดกโลก ซึ่งอยู่ในบัญชีเบื้องต้นถึง5 แห่ง คือ อนุสรณ์สถาน และพื้นที่ทางวัฒนธรรมในเชียงใหม่เมืองหลวงแห่งล้านนา   อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี   วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช  เส้นทางวัฒนธรรมพิมาย ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ   และพระธาตุพนม  จ.นครพนม  ซึ่งประเทศไทยถือว่าห่างเหินจากการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมานานถึง20 ปี จึงเห็นว่าน่าจะเพิ่มจำนวนมรดกโลกเพิ่มขึ้น  ข้อสำคัญอยู่ที่การเสนอ การประชุมครั้งนี้คาดหวังว่าการระดมผู้เชี่ยวชาญทางด้านมรดกโลกมาร่วมประชุม ผู้ที่มีบทบาทเสนอมรดกโลก ย่อมเป็นประโยชน์ในการเสนอ โบราณสถานของไทยเข้าสู่มรดกโลก   ซึ่งพระธาตุพนม เข้าใน3หลักเกณฑ์ที่จะเข้าสูมรดกโลก  ซึ่งโบราณสถานที่สร้างขึ้นมาใหม่ หากมีคุณค่าก็เข้าหลักเกณฑ์การเป็นมรดกโลกได้ ซึ่งพระธาตุพนมแม้จะเคยพังทลายมาก่อนและมีการสร้างขึ้นใหม่แต่มีการสร้างให้เหมือนของเดิม ศิลปะคงเดิม และค้นพบพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งตรงกับจารึกที่คนโบราณบันทึกไว้ จึงถือว่าเข้าหลัก้กณฑ์หลายอย่าง  พระธาตุพนมเป็นศูนย์กลางและศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทั้ง2 ฟากฝั่งแม่น้ำโขง ไทย ลาวญวน กัมพูชา จึงมีความสำคัญและมีคุณค่าทั้งเป็นโบราณสถานและเป็นปูชนียสถานและอนุสรณ์สถาน แห่งความทรงจำและสายสัมพันธ์ของประชาชน2 ฝั่งโขงในภูมิภาคแถบนี้ 

ครั้งนี้อาจไม่ใช่ครั้งเดียวจะมีครั้งต่อไป คาดหวังว่า ในช่วงรัฐบาลนี้เสนอเพิ่มไป3 แห่งจากของเดิม2  น่าจะได้ขึ้นปีละแห่ง ซึ่งโบราณสถานทุกที่ ที่ได้เป็นมรดกโลกจะสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก  มีการลงทุนมหาศาล ทั้งสนามบิน โรงแรม อย่าง จ.สุโขทัย สร้างรายได้ปีละ2 พันกว่าล้านคืนสู่ทีองถิ่น หากพระธาตุพนมได้เป็นมรดกโลก ล้วนเพิ่มคุณค่า และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เป็นจุดดึงดูดคนไปเที่ยวอีสานเพิ่มขึ้น 


อย่างไรก็ตาม กระทรวงวัฒนธรรมจะนำข้อมูลและข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญมาประกอบจัดทำเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับพระธาตุพนมเพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์รอบด้านที่สุด ก่อนที่จะนำเสนอต่อยูเนสโกต่อไป โดยก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ เมื่อ24 มกราคม 2560 ให้เสนอบรรจุพระาตุพนมไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น เพื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำเอกสาร โดยจังหวัดนครพนมตั้งเป้าจะเสนอขึ้นทะเบียนพระธาตุพนมเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ต่อยูเนสโก ปี 2562.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย