กรุงเทพฯ 14 พ.ค.-สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. มั่นใจตั๋วร่วมแมงมุมพร้อมใช้ตามนโยบายรัฐบาล ดีเดย์เริ่มต้นที่รถเมล์ ขสมก.และระบบรถไฟฟ้า
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. กล่าวถึงการเร่งรัดนำระบบตั๋วร่วมมาใช้ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลจะยกเลิกการให้บริการรถเมล์-รถไฟฟรี เพื่อปรับให้โครงการดังกล่าวเข้าถึงตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการช่วยเหลือค่าครองชีพกับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้สามารถเริ่มใช้ระบบตั๋วร่วมได้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ นำร่องให้บริการรถเมล์ฟรีกับผู้มีรายได้น้อย
ผู้อำนวยการ สนข.ระบุว่า มั่นใจในการดำเนินการในส่วนของระบบตั๋วร่วมที่ใช้กับรถเมล์โดยสาร ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ หรือ ขสมก.นั้น จะทันตามกำหนดเวลาที่รัฐบาลวางไว้ ส่วนการทำระบบตั๋วร่วมให้ครอบคลุมระบบขนส่งมวลชนประเภทอื่น อาทิ รถไฟฟ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยการติดตั้งระบบจะใช้เวลาระยะหนึ่ง เนื่องจากการติดตั้งระบบของทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดินสามารถดำเนินการได้หลังหยุดให้บริการช่วงกลางคืน โดยในช่วงกลางวันก็จะเป็นช่วงที่ประชาชนใช้บริการหนาแน่น ซึ่งเอกชนผู้สัมปทานเดินรถทั้ง 2 ราย ต่างก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาล
ส่วนระบบของรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย ก็จะมีการพิจารณาดำเนินการต่อไปในอนาคต เนื่องจากการนำระบบตั๋วร่วมมาใช้จะสะดวกกับระบบขนส่งมวลชนที่มีสถานีเป็นระบบปิด มีช่องทางเข้า-ออกชัดเจน ขณะที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ ขณะนี้เป็นระบบเปิดทั้งหมด ซึ่งการดำเนินการต้องพิจารณาในแผยรายละเอียดในส่วนของการรถไฟฯ เองต่อไป
ทั้งนี้ การเริ่มใช้ระบบตั๋วร่วมกับรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ในรถที่มีการติดตั้งระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-TICKET ขณะนี้ ขสมก.อยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งระบบอ่านบัตร ขณะที่กระทรวงคมนาคมเร่งขับเคลื่อนร่างกฎหมาย 3 ฉบับ คือ 1.ร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม 2.ร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม 3.ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะทำงานจะแล้วเสร็จเดือน พ.ค.นี้ และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. จะไปรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ จากนั้นจะเปิด ใช้บริการตั๋วร่วมภายในเดือน ต.ค.นี้ โดยเริ่มใช้กับรถเมล์ ขสมก.ก่อน จากนั้นจะขยายไปยังรถไฟฟ้า .-สำนักข่าวไทย
