รองนายกฯสมคิด ดึงเอกชนร่วมส่งเสริมเอสเอ็มอีรายย่อย

ศูนย์ประชุมสิริกิติ์  5 พฤษภาคม – รองนายกฯสมคิด ดึงพันธมิตรเอกชน 60 หน่วยงาน  ร่วมส่งเสริมเอสเอ็มอี รายย่อยผ่าน 3 กองทุน และแบงก์รัฐกว่า 37,000 ล้านบาท หนุน  SMEs Start up และ Social Enterprise เสริมทุนขยายกิจการ   


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมประชุมคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs  Startup และ Social Enterprise เนื่องจากรัฐบาลต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจฐานราก ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวจึงต้องสร้างสมดุลให้เศรษฐกิจฐานราก  รัฐบาลเตรียมดึงเอกชนรายใหญ่ที่มีศักยภาพ  มาส่งเสริมเอสเอ็มอี รายย่อย และชาวบ้านในชนบท มาอบรมสอนความรู้ด้านอาชีพให้ชาวบ้านในชนบท ทั้ง รปภ. ช่างพื้นฐานทั่ว ประปา ไฟฟ้า  เพื่อรับจ้าง สร้างอาชีพเสริมในท้องถิ่นให้ชุมชนหารายได้เพิ่ม รองรับการสร้างสวัสดิการแก้ผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาลซึ่งกำลังเปิดลงทะเบียน  ทั้งนี้ยอมรับว่าขณะนี้เศรษฐกิจเร่ิมดีขึ้น เมื่อต้องการให้จีดีพีขยายตัวได้ดี จึงต้องสร้างกำลังซื้อให้ระดับชุมชนและเกษตรกร 

อีกทั้งมองว่าไม่เกิน 5 ปี ระบบฟินเทคเร่ิมเกิดขึ้นอย่างมาก  เช่น ในต่างชาติ เร่ิมให้สินเชื่อผ่านเครือข่ายตนเองผ่านฟินเทคแทนแบงก์ หากแบงก์ไม่ปรับตัวอยู่ลำบาก จึงต้องมือระหว่างรัฐเอกชน  กำชับให้สสว.จับมือร่วมกับเอสเอ็มอีแบงก์ หาทางให้สินเชื่อเข้าสู่ระบบมากขึ้น ธ.ออมสิน เร่งรัดสินเชื่อให้รายย่อย ส่วน ธ.ก.ส.ช่วยเหลือส่งเสริมอาชีพ และรัฐบาลต้องการเน้นเรื่องการเพิ่มทุนให้เพียงพอ ผ่านกองทุนร่วมลงทุน จากนั้นแบงก์รัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือสินเชื่อ เพราะขณะนี้เอสเอ็มอีต้องการทุนเพื่อขยายกิจการ รัฐบาลต้องการให้ทุกหน่วยงาน ร่วมกันสนับสนุนรากหญ้าให้มีกำลังซื้อ


รัฐมนตรีอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมได้วางกรอบการส่งเสริมและพัฒนา SMEs ปี 2560 เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือ  SMEs อย่างครบวงจรในทุกมิติ  ทั้งในด้านการช่วยเหลือทางการเงิน และการพัฒนาด้านอื่นๆ เช่น การเพิ่มผลิตภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด ในส่วนการเสริมทุนรองรับขยายกิจการ ผ่านเงินทุน 37,000 ล้านบาท ผ่านโครงการต่างๆ  เร่ิมจากการช่วยเหลือย่อย เอสเอ็มอีตัวเล็ก เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยขนาดเล็กมาก (Micro) เป็นผู้ประกอบการายเดียวมีการจ้างงานไม่เกิน 5 คน เพื่อใช้เงินจากกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีของ สสว. วงเงิน 2,000 ล้านบาท มาให้กู้ยืมแก่ Micro SME และวิสาหกิจชุมชน วงเงินรวม 500 ล้านบาท รายละไม่เกิน 2 แสนบาท  ไม่คิดดอกเบี้ย ระยะเวลากู้ 10 ปี  คาดว่าจะมีจำนวนผู้รับประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 2,500 ราย เมื่อเป็นรายย่อยโตขึ้นแต่ยังไม่จดทะเบียน ยังมีเงินกู้ ปล่อยกู้ 6 แสนบาทต่อราย คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 เป้าหมาย 1,500 ราย

เร่งรัดการปล่อยสินเชื่อจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 20,000 ล้านบาท  ขณะนี้ได้จัดทำหลักเกณฑ์เสร็จแล้ว เตรียมเริ่มปล่อยกู้ได้ในช่วงปลาย พ.ค.  คาดว่าช่วยเหลือ SMEs รายที่มีศักยภาพได้กว่า 5,000 ราย เมื่อรัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ จะเร่ิมปล่อยสินเชื่อ  เพื่อให้คณะกรรมการจังหวัดพิจารณาปล่อยสินเชื่อในอาชีพเป้าหมาย  ทั้งด้านท่องเที่ยวชุมชน สินค้าโอท็อบ หากต้องการขยายด้านเทคโนโลยี ยกระดับเอสเอ็มอี ขอสินเชื่อ SME Transformation Loan 15,000 ล้านบาท ของเอสเอ็มอีแบงก์  คาดว่าจะช่วยเหลือ SMEs ได้อีก 3,000 ราย เพื่อให้รายย่อยเข้าถึงแหล่งทุน  รัฐบาลต้องการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เช่น การพัฒนาตลาดต้องชม -รวมพล เอสเอ็มอี ทั่วประเทศ   โดย สสว.สนับสนุนสนิชเื่อรายละไม่เกิน 2 แสนบาท ต้องสร้างให้ได้จากเดิม 200 แห่ง เพิ่มอีกกว่า 100 แห่ง ทั่วประเทศ เนื่องจาก LAZADA เมื่อเข้ามาคัดสินค้าคุณภาพ เพื่อทำตลาดออกสู่ตลาดโลก โดยอาลีบาบา ให้ความสำคัญมาก 

นอกจากนี้ ยังมี โครงการยกระดับมาตรฐานสินค้าของ Micro SMEs และวิสาหกิจชุมชน ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดวงเงิน 100 ล้านบาท คาดว่าจะเข้าถึง Micro SMEs และวิสาหกิจชุมชนได้ ไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย เนื่องจากทุนเป็นกำลังหลักสำคัญในการขยายกิจการ   และในระหว่างนักลงทุนฮ่องกง มาเยือนไทยสัปดาห์หน้า ได้เตรียมจัดลงนามร่วมกันทั้ง สสว.และHKTDC ผ่านกองทุน  Matching Fund 200 ล้านบาท สร้างความร่วมมือทั้งนักลงทุนไทยและฮ่องกง หวังผลักดันให้โกอินเตอร์ไปอีกก้าวหนึ่ง   


นอกจากนี้ได้มีแผนการจัดงาน ASEAN SMEs Shift Up 2017 : CONNECTION จัดขึ้นในปลายเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อยกระดับความรู้ ความสามารถ และสร้างโอกาส SMEs ในภูมิภาคอาเซียนและสร้างเครือข่ายความเข้มแข็งและความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียนเพื่อสู้กับการแข่งขันในตลาดโลก กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ในการจัดงานครั้งนี้ประมาณ 20 ล้านคน  เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูล รวมถึงการค้าขายผ่านช่องทางต่างๆระหว่างประเทศ 3) งานแสดงสินค้า (Exhibition) จัดแสดงสินค้าที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ รวมถึงเทรนด์ใหม่ล่าสุดโดยเน้น กลุ่มอุตสาหกรรมด้าน CREATIVE อาทิ แฟชั่น สปา สินค้าตกแต่ง การจัดกิจกรรมการแลกเปลี่ยนความรู้ CLMV (CLMV Knowledge Exchange)ผลที่จะได้รับ ก่อให้เกิดธุรกิจร่วมกันในงานกว่าพันล้านบาท เพื่อสร้างให้จดจำว่าเมื่อนึกถึงเอสเอ็มอีต้องนึกถึงกาารจัดงาน ASEAN SME Shift Up  

นายสมคิด กล่าวย้ำว่า ในจันทร์สัปดาห์หน้า สภาการค้าแห่งฮ่องกง (HKTDC) เตรียมนำนักธุรกิจกว่า 60 รายเข้ามาหารือกับไทย จึงต้องการดึงเข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ภูมิภาคในประเทศไทย เนื่องจากฮ่องกงมีชื่อเสียงด้านเอสเอ็มอี จึงต้องการให้เอกชนไทยเข้ามาเจรจากับพันธมิตรฮ่องกง 

นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้เตรียมนำเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพมาพัฒนา 250 ราย เพื่อเพิ่มยอดขายร้อยเปอร์เซ็นต์จากเดิม หวังดูแลทั้งด้านตลาดอีคอมเมิชย์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นผ่านโครงการไทยเท่ เพื่อร่วมมร้างกระแส ทั้งการสวมใส่เสื้อท้องถิ่น แล้วถ่ายรูปโชว์ในโซเชียล การส่งเสริมท่องเที่ยวในประเทศ สถานที่สำคัญ การช้อบ ชิมอาหารดังในต่างจังหวัด และจัดประชุมย่อย ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทยมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]