กทม.5 พ.ค.-กทม.ลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงน้ำท่วมขัง พบสามารถเร่งระบายเร็วขึ้นกว่าปีก่อน ร้อยละ50 หลังเมื่อคืนนี้ ฝนตกหนักสะสมกว่า 120 มิลลิเมตร
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ และคณะผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ ตรวจพื้นที่น้ำท่วมบริเวณซอยฉิมพลี 28 และถนนเลียบทางรถไฟสายใต้ เขตตลิ่งชัน และซอยเพชรเกษม 37 และคลองยายเพียร เขตภาษีเจริญ หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. อย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบาย และมีปริมาณน้ำฝนสะสมในหลายพื้นที่ โดยมีปริมาณฝนสะสมสูงสุดบริเวณสถานีสูบน้ำคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน 121.5 มิลลิเมตร และที่สถานีวัดระดับน้ำ-น้ำฝน คลองภาษีเจริญ ตอนคลองราชมนตรี เขตบางแค 105.5 มิลลิเมตร สถานีวัดระดับน้ำ-น้ำฝนคลองสนามชัย ตอนคลองบางขุนเทียน เขตจอมทอง 105 มิลลิเมตร
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ถนนเลียบทางรถไฟสายใต้ ระบบป้องกันน้ำท่วมทำงานได้ดี แต่จะมีปัญหาในช่วงพื้นที่ของการรถไฟฯ จึงให้เขตและสำนักการระบายน้ำ สำรวจพื้นที่เพื่อหาทางระบายน้ำพร้อมทั้งประสานความร่วมมือจากการรถไฟ โดยมีแนวคิด ดังนี้ 1. ดึงน้ำออกถนนบรมราชชนนี. 2. ตั้งเครื่องปั๊มน้ำชนิดเคลื่อนที่ เพื่อดึงน้ำออกคลองบางกอกน้อย คลองยายเพียร เชื่อมกับคลองภาษีเจริญ และคลองภาษีเจริญเชื่อมกับคลองบางกอกใหญ่ สำหรับซอยเพชรเกษม 37 เขตภาษีเจริญ ให้เขตตั้งเครื่องสูบน้ำดีเซล ขนาด 10 นิ้ว พร้อมทั้งขอมิเตอร์ไฟฟ้า เมื่อได้แล้วให้สำนักการระบายน้ำนำเครื่องสูบน้ำชนิดไฟฟ้าไปตั้ง ส่วนคลองยายเพียร ให้ สำนักการระบายน้ำวางแผนระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างถาวร ในภาพรวมระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานครสามารถระบายน้ำได้เร็วขึ้นประมาณ 50% จากปี 2559 เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำฝน 121.5 มิลลิเมตรในระดับเดียวกันของปีนี้ ทั้งนี้จุดที่มีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ขณะนี้น้ำแห้งเป็นปกติ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสัญจร .-สำนักข่าวไทย