รถตู้เช่าเหมาโวยถูกจับบังคับติดจีพีเอส

กรุงเทพฯ  2 พ.ค. – รถตู้เช่าเหมาคันร้องคมนาคม ขอออกกฎหมายแยกจาก พ.ร.บ.ขนส่ง ชี้ข้อจำกัดเยอะ โวยกระทบบริการ ถูกจับปรับบังคับติดจีพีเอส ขีดเส้น 1 เดือน ขู่ปิดล้อมทำเนียบ   


นายยุทธนา อินทรายุธ  คณะทำงานแก้ไขปัญหารถตู้หมวดบริการธุรกิจและท่องเที่ยว เปิดเผยภายหลังการมายื่นหนังสือต่อกระทรวงคมนาคมว่าได้ขอให้กระทรวงคมนาคมแยกการใช้รถตู้ขนาดไม่เกิน 12 ที่นั่ง  ที่ให้บริการแบบไม่ประจำทางหมวด 30 และ 36 ซึ่งที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จัดให้รถประเภทนี้อยู่ในกลุ่มเดียวกับรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทางหมวด 3 ดังนั้น ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว จึงอยากให้กระทรวงคมนาคมและ ขบ.แยกรถตู้ขนาดไม่เกิน 12 ที่นั่งชนิดพิเศษวีไอพี เพื่อธุรกิจและการท่องเที่ยวให้มีกฎหมายและพระราชบัญญัติเป็นของรถหมวดนี้รองรับโดยเฉพาะ สำหรับสาเหตุที่อยากให้แยกหมวดรถตู้และมีกฎหมายรองรับโดยเฉพาะ เนื่องจากกฎระเบียบของรถตู้ที่วิ่งให้บริการไม่ประจำทางมีกฎระเบียบและข้อบังคับที่เป็นข้อจำกัดในการให้บริการเช่าเหมารถตู้อย่างมาก   

ทั้งนี้ หากมีการแยกหมวดรถตู้ออกมานั้น  เบื้องต้นจะต้องแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ขนส่ง พ.ศ.2522  ของ ขบ. ตามขั้นตอนต้องเร่งยกกฎหมายและเสนอผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ด้วย  ดังนั้น ตัวแทนผู้ประกอบการรถตู้ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนผ่านศูนย์ร้องเรียน 1111 ที่ทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม จากนั้นจะยื่นเรื่องไปยัง สนช.


นายยุทธนา  กล่าวว่า รถตู้ที่ให้บริการไม่ประจำทางมีป้ายทะเบียนสีฟ้าขาว ไม่อยู่ในกลุ่มที่มีการจัดระเบียบรถตู้มีทั้งสิ้นทั่วประเทศกว่า 100,000 คัน เฉพาะที่ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ 50,000 คัน ที่ประสบความเดือดร้อนครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมามีบุคคล  คณะบุคคล องค์กร หน่วยงาน ห้างร้านและบริษัทจำนวนมากเช่าเหมาคัน เพื่อเดินทางไปปฏิบัติงาน ทำธุรกิจ กิจกรรมส่วนตัว รวมทั้งการท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะและสามารถกำหนดระยะทาง เส้นทาง ระยะเวลาเดินทางได้ตามต้องการ ซึ่งเป็นที่นิยม แต่รถตู้ประเภทนี้ ขบ.จัดให้อยู่ในหมวดเดียวกับรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทาง จึงต้องปฏิบัติตามระเบียบรถโดยสาร คือ ติดจีพีเอส กำหนดชั่วโมงพนักงานขับรถ  ความเร็วของรถ การจอดรถ ซึ่งไม่เอื้อต่อการให้บริการรถตู้รับจ้างแบบเช่าเหมาคัน จึงขอให้บังคับใช้ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกแทนการใช้  พ.ร.บ. ขนส่งทางบก

นอกจากนี้ นายยุทธนา กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนเฉพาะหน้าขอให้ยกเลิกการติดตั้งอุปกรณ์ติดตามรถยนต์จีพีเอสกับรถตู้หมวดนี้ เพราะไม่ใช่รถโดยสาร แต่เป็นรถยนต์รับจ้างคล้ายแท็กซี่ลีมูซีนที่นำมาจดทะเบียนเป็นรถรับจ้าง โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องมีใบขับขี่รับจ้างสาธารณะ เนื่องจากการติดจีพีเอส ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องของความเร็ว  การติดตามรถ ทำให้ผู้ประกอบการรถตู้กลุ่มนี้ต้องประสบปัญหาถูกใบสั่งจับปรับ จึงขอให้มีการผ่อนผันการกวดขับจับกุมจนกว่าจะมีการจัดระเบียบแยกหมวดหมูที่ถูกต้อง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเจ้าของรถด้วย  

“รถตู้วีไอพีกลุ่มนี้ไม่สามารถกำหนดจำนวนชั่วโมงการขับรถเหมือนรถโดยสารประจำทางได้ เพราะระยะทางหรือเส้นทางไม่แน่นอน รวมถึงการจำกัดความเร็วต่าง ๆ ให้ยึดตาม พ.ร.บ.จราจรแทน หลังจากนี้ให้เวลา 1 เดือน จะกลับมาทวงคำตอบ ไม่เช่นนั้นคงจะต้องนำขบวนรถตู้ 1,000 คันมาจอดประท้วงแถวทำเนียบรัฐบาล” นายยุทธนา กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น