กทม.2 พ.ค.- กทม.เตรียมเบี่ยงการจราจรบนถนนอุดมสุขตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ รวมระยะเวลา 1ปี เพื่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน แก้ปัญหาน้ำท่วงขังฝั่งตะวันออก
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร เตรียมจัดระบบปิดเบี่ยงการจราจรบนถนนอุดมสุข (สุขุมวิท 103) ช่วงจากถนนศรีนครินทร์ถึงถนนสุขุมวิท เพื่อก่อสร้างโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายจากบึงหนองบอนน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางประมาณ 9.4 กิโลเมตร ก่อสร้าง 1,440 วัน วงเงินเกือบ 5,000 ล้านบาท
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า โครงการอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ แก้ปัญหาน้ำท่วมขังอย่างถาวร โดยสำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะมีการก่อสร้างปล่องรับน้ำบนแนวถนนอุดมสุข ช่วงจากถนนศรีนครินทร์ถึงถนนสุขุมวิท จำนวน 3 แห่ง คือ บริเวณปากซอยอุดมสุข 42 ปากซอยอุดมสุข 56 และบริเวณสะพานข้ามคลองเคล็ด ส่งผลกระทบต่อพื้นผิวจราจรบนถนนอุดมสุขในขณะดำเนินการก่อสร้าง ทำให้ต้องปิดเส้นทางจราจรจาก 4ช่องทาง เหลือ 2ช่องทาง พร้อมขยายทางเท้าบางช่วง เพื่อให้รถยนต์สามารถวิ่งสวนกันได้ในช่วงเวลาเร่งด่วน
โดยจะเริ่มปิดป้ายประกาศประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่วันพรุ่งนี้ และปิดเบี่ยงจราจรตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จนถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า รวมระยะเวลา 1ปี โดยในระหว่างนี้ที่ใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูฝน กทม.ได้เตรียมติดตั้งเครื่องสูบบริเวณนี้เพิ่มขึ้นอีก 1เท่าตัว เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วขึ้น นอกจากนี้ กทม.ได้เตรียมมาตรการเร่งระบายน้ำช่วงฤดูฝนไว้อย่างเต็มที่ ทั้งอุปกรณ์ บุคคลากร มั่นใจฝนตกปีนี้ กทม.แก้ปัญหาน้ำท่วมขังรอการระบายได้เร็วขึ้นจาก 3ชั่วโมงเหลือเพียง 1ชั่วโมง
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยานี้ เป็นอุโมงค์ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เมตร ความลึกที่ระดับ 30 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง หากก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี2562 จะเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำอยู่ที่ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รองรับปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ฝั่งตะวันออก เขตประเวศ เขตสวนหลวง เขตบางนา และเขตพระโขนง รวมพื้นที่ประมาณ 85 ตารางกิโลเมตร สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมขังได้อย่างถาวร ทั้งนี้ประชาชนควรหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณถนนอุดมสุข (สุขุมวิท103) เพื่อป้องกันรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วน สอบถามรายละเอียดเส้นทางเพิ่มเติมได้ที่ 02-0248625.-สำนักข่าวไทย