ป่วนใต้! สงขลา-นราธิวาส คนร้ายพลาดระเบิดบึ้มใส่ดับ 2 กำชับเข้มหวั่นก่อเหตุซ้ำ

ภูมิภาค 20 เม.ย. – ป่วนจังหวัดชายแดนใต้ สงขลาโดน 3 จุดใน 3 อำเภอ ชาวบ้านบาดเจ็บ 1 คนร้ายโดนระเบิดเองตาย 2 ส่วนที่นราธิวาส ผู้ก่อเหตุขว้างระเบิดยิงด้วยเอ็ม 79 รวม 12 จุด ใน 7 อำเภอ 


ความคืบหน้าเหตุความไม่สงบใน จ.สงขลา คนร้ายก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน 3 จุด ใน 3 อำเภอ เมื่อช่วง 20.00 น. ที่ผ่านมา โดยมี 2 คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ขว้างระเบิดใส่ป้อมตำรวจ ตรงประตูทางเข้าหน้า สภ.จะนะ แต่พลาดเป้า ระเบิดตกบริเวณข้างป้อมทำให้ตำรวจ 2 นาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในป้อมปลอดภัย และยิงตอบโต้จนคนร้ายหนีไป 

ต่อมาเกิดเหตุคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดวิถีโค้ง เอ็ม 79 จำนวน 2 ลูก ใส่จุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย บ้านนาจวก หมู่ 2 ต.ท่าม่วง อ.เทพา ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ น.ส.คอดีเย๊าะ ชีตือโม อายุ 28 ปี ที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านจุดตรวจพอดี ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณสะโพกด้านซ้าย ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัย


และที่หนักสุด คือ อ.สะบ้าย้อย เกิดเหตุระเบิดบนถนนเส้นทางระหว่างหมู่ 5 ต.สะบ้าย้อย กับหมู่ 1 ต.ธารคีรี ห่างจากฐานชุดคุ้มครองตำบลธารคีรี ประมาณ 200 เมตร หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์แก้ไขเลขทะเบียนที่บริเวณเบาะที่นั่งฉีกขาดจากแรงระเบิด และพบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นคนร้ายที่พยายามก่อเหตุ คือ นายมะบีดี ลามะดอ อายุ 32 ปี จากการตรวจสอบประวัติ เป็นสมาชิกระดับแนวร่วมที่ผ่านการสาบานตนแล้ว ทำหน้าที่คอยจับตาความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อมูลให้แกนนำและสมาชิกระดับผู้ปฏิบัติการทราบ ส่วนอีกคนเป็นชายไม่ทราบชื่อ นั่งซ้อนท้าย สภาพศพร่างกายท่อนล่างแหลกเหลว และกระเด็นไปไกลเกือบ 10 เมตร นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนระเบิดเป็นชนิดไปป์บอมบ์ กระจายไปทั่ว มีเศษลูกปลายและเศษเหล็กเกลื่อนถนน คาดว่ามีน้ำหนักประมาณ5 กิโลกรัม 

ทั้งนี้คาดว่าทั้งสองคนกำลังนำไปบ์บอมบ์ไปขว้างใส่ อส. ที่ฐานคุ้มครองตำบล ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร โดยวางระเบิดไว้ตรงกลางระหว่างคนขับกับคนซ้อนท้าย แต่เกิดผิดพลาดระเบิดทำงานขึ้นก่อน ทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิตคาที่ 

ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ มีนายมือลี เจะมะสอง อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของ และมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ธารคีรี อ.สะบ้าย้อย รวมทั้งยังมีประวัติเป็นสมาชิกกลุ่มก่อเหตุรุนแรงระดับแนวร่วม ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวมาสอบสวน และเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ในครั้งนี้  


โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว และจะเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งในวันนี้

ส่วนที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (19 เม.ย.) คนร้ายกระจายกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะก่อเหตุหลายจุด ได้แก่ 

1. อ.ตากใบ คนร้ายได้ก่อเหตุ 3 จุด จุดที่ 1 ขว้างระเบิดใส่บ้านพักตำรวจน้ำตากใบ ต.ไพรวัน ทำให้บ้านพัก และรถยนต์เสียหาย จุดที่ 2 บ้านพักของนางบุญยงค์ จันทร์เดิม ต.ศาลาใหม่ บ้านพักเสียหาย และ 3. คนร้ายระเบิดขว้างใส่ฐานชุดคุ้มครองตำบลปูยู ต.เกาะสะท้อน

2. อ.สุไหงปาดี คนร้ายก่อเหตุ 2 จุด จุดที่ 1 นำระเบิดไปวางไว้ที่หน้าบ้านนายอารีฟ กอแด อส.ประจำที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี ทำให้ประตูบ้านเสียหาย ส่วนจุดที่ 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนซุ่มยิงนายไฟซา มะกียอ อส.ประจำที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี ขณะปฏิบัติหน้าที่ รปภ.สถานีรถไฟโต๊ะเด็ง ทำให้นายไฟซาได้รับบาดเจ็บ

3. อ.รือเสาะ คนร้ายก่อเหตุ 1 จุด ที่ฐานปฏิบัติการชุดค้มครองตำบลรือเสาะออก ตั้งอยู่บ้านปะลุกา หมู่ 1 ต.รือเสาะออก คนร้ายยิงเอ็ม 79 แต่พลาดเป้าไปตกหลังฐาน

4. อ.แว้ง คนร้ายก่อเหตุ 2 จุด จุดที่ 1 ขว้างระเบิดใส่บ้านของชาวบ้านที่บ้านสามแยก ต.กายูคละ ซึ่งเป็นบ้านของนักการภารโรงโรงเรียนบ้านสามแยก ได้รับความเสียหาย จุดที่ 2 ขว้างระเบิดใส่บ้านพักชาวบ้าน ที่บ้านกูวาแขยง ต.เอราวัณ ทำให้บ้านได้รับความเสียหายเช่นกัน

5. อ.ระแงะ คนร้ายก่อเหตุ 1 จุด โดยใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงถล่มใส่ฐานหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 22 ซึ่งตั้งอยู่ท้ายตลาดทางไปหมู่บ้านละไม เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

6. อ.ยี่งอ คนร้ายก่อเหตุ 2 จุด จุดที่ 1 คนร้ายขว้างระเบิดใส่จุดตรวจ อส.ยี่งอ อยู่หน้าสำนักงานเกษตรอำเภอยี่งอ เขตเทศบาลตำบลยี่งอ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ 2 คนร้ายขว้างระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลตะปอเยาะ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

และ 7. อ.ศรีสาคร คนร้ายก่อเหตุ 1 จุด ขว้างระเบิดใส่กองร้อย อส.ศรีสาคร แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส สั่งการไปยัง สภ.ทั้ง 19 สถานี ในพื้นที่ 13 อำเภอ ให้เพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะจุดตรวจจุดสกัดที่ตั้งในพื้นที่เสี่ยงภัย ล่อแหลมและมีกำลังพลน้อย ให้วางมาตรการตั้งรับและรับมือกับกลุ่มคนร้ายที่อาจจะแฝงตัวฉวยโอกาสเข้าก่อเหตุร้ายซ้ำ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ขอโทษ อ้างป้องกันตัว

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเอามีดฟัน อ้างไม่ใช่คู่กรณี แต่เห็นคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปห้าม แต่ “เป๊ก” ปรี่เข้าหา จึงชักมีดพกขึ้นมาป้องกันตัว อยากขอโทษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกมีดฟันบาดเจ็บในปั๊มน้ำมันซอยรามคำแหง 76 เขตบางกะปิ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับสายตรวจและอาสากู้ภัย พบคนเจ็บคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง ถูกมีดฟันใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือ นายชุติเทพ อายุ 21 ปี ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธมีดยาว 20 เซนติเมตร ที่ใช้ฟันเป๊ก ผลิตโชค ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นนายชุติเทพ ให้การอ้างขับรถไปรับแฟนออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะแวะปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เห็นมีคนกำลังทะเลาะกัน คล้ายมีอาการมึนเมา อยู่ท้ายรถกระบะ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเคลียร์ […]

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย