ป่วนใต้! สงขลา-นราธิวาส คนร้ายพลาดระเบิดบึ้มใส่ดับ 2 กำชับเข้มหวั่นก่อเหตุซ้ำ

ภูมิภาค 20 เม.ย. – ป่วนจังหวัดชายแดนใต้ สงขลาโดน 3 จุดใน 3 อำเภอ ชาวบ้านบาดเจ็บ 1 คนร้ายโดนระเบิดเองตาย 2 ส่วนที่นราธิวาส ผู้ก่อเหตุขว้างระเบิดยิงด้วยเอ็ม 79 รวม 12 จุด ใน 7 อำเภอ 


ความคืบหน้าเหตุความไม่สงบใน จ.สงขลา คนร้ายก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน 3 จุด ใน 3 อำเภอ เมื่อช่วง 20.00 น. ที่ผ่านมา โดยมี 2 คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ขว้างระเบิดใส่ป้อมตำรวจ ตรงประตูทางเข้าหน้า สภ.จะนะ แต่พลาดเป้า ระเบิดตกบริเวณข้างป้อมทำให้ตำรวจ 2 นาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในป้อมปลอดภัย และยิงตอบโต้จนคนร้ายหนีไป 

ต่อมาเกิดเหตุคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดวิถีโค้ง เอ็ม 79 จำนวน 2 ลูก ใส่จุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย บ้านนาจวก หมู่ 2 ต.ท่าม่วง อ.เทพา ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ น.ส.คอดีเย๊าะ ชีตือโม อายุ 28 ปี ที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านจุดตรวจพอดี ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณสะโพกด้านซ้าย ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัย


และที่หนักสุด คือ อ.สะบ้าย้อย เกิดเหตุระเบิดบนถนนเส้นทางระหว่างหมู่ 5 ต.สะบ้าย้อย กับหมู่ 1 ต.ธารคีรี ห่างจากฐานชุดคุ้มครองตำบลธารคีรี ประมาณ 200 เมตร หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์แก้ไขเลขทะเบียนที่บริเวณเบาะที่นั่งฉีกขาดจากแรงระเบิด และพบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นคนร้ายที่พยายามก่อเหตุ คือ นายมะบีดี ลามะดอ อายุ 32 ปี จากการตรวจสอบประวัติ เป็นสมาชิกระดับแนวร่วมที่ผ่านการสาบานตนแล้ว ทำหน้าที่คอยจับตาความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อมูลให้แกนนำและสมาชิกระดับผู้ปฏิบัติการทราบ ส่วนอีกคนเป็นชายไม่ทราบชื่อ นั่งซ้อนท้าย สภาพศพร่างกายท่อนล่างแหลกเหลว และกระเด็นไปไกลเกือบ 10 เมตร นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนระเบิดเป็นชนิดไปป์บอมบ์ กระจายไปทั่ว มีเศษลูกปลายและเศษเหล็กเกลื่อนถนน คาดว่ามีน้ำหนักประมาณ5 กิโลกรัม 

ทั้งนี้คาดว่าทั้งสองคนกำลังนำไปบ์บอมบ์ไปขว้างใส่ อส. ที่ฐานคุ้มครองตำบล ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร โดยวางระเบิดไว้ตรงกลางระหว่างคนขับกับคนซ้อนท้าย แต่เกิดผิดพลาดระเบิดทำงานขึ้นก่อน ทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิตคาที่ 

ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ มีนายมือลี เจะมะสอง อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของ และมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ธารคีรี อ.สะบ้าย้อย รวมทั้งยังมีประวัติเป็นสมาชิกกลุ่มก่อเหตุรุนแรงระดับแนวร่วม ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวมาสอบสวน และเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ในครั้งนี้  


โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว และจะเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งในวันนี้

ส่วนที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (19 เม.ย.) คนร้ายกระจายกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะก่อเหตุหลายจุด ได้แก่ 

1. อ.ตากใบ คนร้ายได้ก่อเหตุ 3 จุด จุดที่ 1 ขว้างระเบิดใส่บ้านพักตำรวจน้ำตากใบ ต.ไพรวัน ทำให้บ้านพัก และรถยนต์เสียหาย จุดที่ 2 บ้านพักของนางบุญยงค์ จันทร์เดิม ต.ศาลาใหม่ บ้านพักเสียหาย และ 3. คนร้ายระเบิดขว้างใส่ฐานชุดคุ้มครองตำบลปูยู ต.เกาะสะท้อน

2. อ.สุไหงปาดี คนร้ายก่อเหตุ 2 จุด จุดที่ 1 นำระเบิดไปวางไว้ที่หน้าบ้านนายอารีฟ กอแด อส.ประจำที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี ทำให้ประตูบ้านเสียหาย ส่วนจุดที่ 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนซุ่มยิงนายไฟซา มะกียอ อส.ประจำที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี ขณะปฏิบัติหน้าที่ รปภ.สถานีรถไฟโต๊ะเด็ง ทำให้นายไฟซาได้รับบาดเจ็บ

3. อ.รือเสาะ คนร้ายก่อเหตุ 1 จุด ที่ฐานปฏิบัติการชุดค้มครองตำบลรือเสาะออก ตั้งอยู่บ้านปะลุกา หมู่ 1 ต.รือเสาะออก คนร้ายยิงเอ็ม 79 แต่พลาดเป้าไปตกหลังฐาน

4. อ.แว้ง คนร้ายก่อเหตุ 2 จุด จุดที่ 1 ขว้างระเบิดใส่บ้านของชาวบ้านที่บ้านสามแยก ต.กายูคละ ซึ่งเป็นบ้านของนักการภารโรงโรงเรียนบ้านสามแยก ได้รับความเสียหาย จุดที่ 2 ขว้างระเบิดใส่บ้านพักชาวบ้าน ที่บ้านกูวาแขยง ต.เอราวัณ ทำให้บ้านได้รับความเสียหายเช่นกัน

5. อ.ระแงะ คนร้ายก่อเหตุ 1 จุด โดยใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงถล่มใส่ฐานหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 22 ซึ่งตั้งอยู่ท้ายตลาดทางไปหมู่บ้านละไม เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

6. อ.ยี่งอ คนร้ายก่อเหตุ 2 จุด จุดที่ 1 คนร้ายขว้างระเบิดใส่จุดตรวจ อส.ยี่งอ อยู่หน้าสำนักงานเกษตรอำเภอยี่งอ เขตเทศบาลตำบลยี่งอ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ 2 คนร้ายขว้างระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลตะปอเยาะ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

และ 7. อ.ศรีสาคร คนร้ายก่อเหตุ 1 จุด ขว้างระเบิดใส่กองร้อย อส.ศรีสาคร แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส สั่งการไปยัง สภ.ทั้ง 19 สถานี ในพื้นที่ 13 อำเภอ ให้เพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะจุดตรวจจุดสกัดที่ตั้งในพื้นที่เสี่ยงภัย ล่อแหลมและมีกำลังพลน้อย ให้วางมาตรการตั้งรับและรับมือกับกลุ่มคนร้ายที่อาจจะแฝงตัวฉวยโอกาสเข้าก่อเหตุร้ายซ้ำ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]