ป่วนใต้! สงขลา-นราธิวาส คนร้ายพลาดระเบิดบึ้มใส่ดับ 2 กำชับเข้มหวั่นก่อเหตุซ้ำ

ภูมิภาค 20 เม.ย. – ป่วนจังหวัดชายแดนใต้ สงขลาโดน 3 จุดใน 3 อำเภอ ชาวบ้านบาดเจ็บ 1 คนร้ายโดนระเบิดเองตาย 2 ส่วนที่นราธิวาส ผู้ก่อเหตุขว้างระเบิดยิงด้วยเอ็ม 79 รวม 12 จุด ใน 7 อำเภอ 


ความคืบหน้าเหตุความไม่สงบใน จ.สงขลา คนร้ายก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน 3 จุด ใน 3 อำเภอ เมื่อช่วง 20.00 น. ที่ผ่านมา โดยมี 2 คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ขว้างระเบิดใส่ป้อมตำรวจ ตรงประตูทางเข้าหน้า สภ.จะนะ แต่พลาดเป้า ระเบิดตกบริเวณข้างป้อมทำให้ตำรวจ 2 นาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในป้อมปลอดภัย และยิงตอบโต้จนคนร้ายหนีไป 

ต่อมาเกิดเหตุคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดวิถีโค้ง เอ็ม 79 จำนวน 2 ลูก ใส่จุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย บ้านนาจวก หมู่ 2 ต.ท่าม่วง อ.เทพา ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ น.ส.คอดีเย๊าะ ชีตือโม อายุ 28 ปี ที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านจุดตรวจพอดี ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณสะโพกด้านซ้าย ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัย


และที่หนักสุด คือ อ.สะบ้าย้อย เกิดเหตุระเบิดบนถนนเส้นทางระหว่างหมู่ 5 ต.สะบ้าย้อย กับหมู่ 1 ต.ธารคีรี ห่างจากฐานชุดคุ้มครองตำบลธารคีรี ประมาณ 200 เมตร หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์แก้ไขเลขทะเบียนที่บริเวณเบาะที่นั่งฉีกขาดจากแรงระเบิด และพบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นคนร้ายที่พยายามก่อเหตุ คือ นายมะบีดี ลามะดอ อายุ 32 ปี จากการตรวจสอบประวัติ เป็นสมาชิกระดับแนวร่วมที่ผ่านการสาบานตนแล้ว ทำหน้าที่คอยจับตาความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อมูลให้แกนนำและสมาชิกระดับผู้ปฏิบัติการทราบ ส่วนอีกคนเป็นชายไม่ทราบชื่อ นั่งซ้อนท้าย สภาพศพร่างกายท่อนล่างแหลกเหลว และกระเด็นไปไกลเกือบ 10 เมตร นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนระเบิดเป็นชนิดไปป์บอมบ์ กระจายไปทั่ว มีเศษลูกปลายและเศษเหล็กเกลื่อนถนน คาดว่ามีน้ำหนักประมาณ5 กิโลกรัม 

ทั้งนี้คาดว่าทั้งสองคนกำลังนำไปบ์บอมบ์ไปขว้างใส่ อส. ที่ฐานคุ้มครองตำบล ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร โดยวางระเบิดไว้ตรงกลางระหว่างคนขับกับคนซ้อนท้าย แต่เกิดผิดพลาดระเบิดทำงานขึ้นก่อน ทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิตคาที่ 

ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ มีนายมือลี เจะมะสอง อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของ และมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ธารคีรี อ.สะบ้าย้อย รวมทั้งยังมีประวัติเป็นสมาชิกกลุ่มก่อเหตุรุนแรงระดับแนวร่วม ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวมาสอบสวน และเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ในครั้งนี้  


โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว และจะเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งในวันนี้

ส่วนที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (19 เม.ย.) คนร้ายกระจายกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะก่อเหตุหลายจุด ได้แก่ 

1. อ.ตากใบ คนร้ายได้ก่อเหตุ 3 จุด จุดที่ 1 ขว้างระเบิดใส่บ้านพักตำรวจน้ำตากใบ ต.ไพรวัน ทำให้บ้านพัก และรถยนต์เสียหาย จุดที่ 2 บ้านพักของนางบุญยงค์ จันทร์เดิม ต.ศาลาใหม่ บ้านพักเสียหาย และ 3. คนร้ายระเบิดขว้างใส่ฐานชุดคุ้มครองตำบลปูยู ต.เกาะสะท้อน

2. อ.สุไหงปาดี คนร้ายก่อเหตุ 2 จุด จุดที่ 1 นำระเบิดไปวางไว้ที่หน้าบ้านนายอารีฟ กอแด อส.ประจำที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี ทำให้ประตูบ้านเสียหาย ส่วนจุดที่ 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนซุ่มยิงนายไฟซา มะกียอ อส.ประจำที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี ขณะปฏิบัติหน้าที่ รปภ.สถานีรถไฟโต๊ะเด็ง ทำให้นายไฟซาได้รับบาดเจ็บ

3. อ.รือเสาะ คนร้ายก่อเหตุ 1 จุด ที่ฐานปฏิบัติการชุดค้มครองตำบลรือเสาะออก ตั้งอยู่บ้านปะลุกา หมู่ 1 ต.รือเสาะออก คนร้ายยิงเอ็ม 79 แต่พลาดเป้าไปตกหลังฐาน

4. อ.แว้ง คนร้ายก่อเหตุ 2 จุด จุดที่ 1 ขว้างระเบิดใส่บ้านของชาวบ้านที่บ้านสามแยก ต.กายูคละ ซึ่งเป็นบ้านของนักการภารโรงโรงเรียนบ้านสามแยก ได้รับความเสียหาย จุดที่ 2 ขว้างระเบิดใส่บ้านพักชาวบ้าน ที่บ้านกูวาแขยง ต.เอราวัณ ทำให้บ้านได้รับความเสียหายเช่นกัน

5. อ.ระแงะ คนร้ายก่อเหตุ 1 จุด โดยใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงถล่มใส่ฐานหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 22 ซึ่งตั้งอยู่ท้ายตลาดทางไปหมู่บ้านละไม เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

6. อ.ยี่งอ คนร้ายก่อเหตุ 2 จุด จุดที่ 1 คนร้ายขว้างระเบิดใส่จุดตรวจ อส.ยี่งอ อยู่หน้าสำนักงานเกษตรอำเภอยี่งอ เขตเทศบาลตำบลยี่งอ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ 2 คนร้ายขว้างระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลตะปอเยาะ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

และ 7. อ.ศรีสาคร คนร้ายก่อเหตุ 1 จุด ขว้างระเบิดใส่กองร้อย อส.ศรีสาคร แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส สั่งการไปยัง สภ.ทั้ง 19 สถานี ในพื้นที่ 13 อำเภอ ให้เพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะจุดตรวจจุดสกัดที่ตั้งในพื้นที่เสี่ยงภัย ล่อแหลมและมีกำลังพลน้อย ให้วางมาตรการตั้งรับและรับมือกับกลุ่มคนร้ายที่อาจจะแฝงตัวฉวยโอกาสเข้าก่อเหตุร้ายซ้ำ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน”

พญาไท 9 ก.ค. – “ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน” ยอมรับช็อกลูกสาวถูกปล่อยคลิป ชี้ไม่มีการรบ เผยผลประโยชน์สีเทาจุดแตกหัก “ฮุน เซน” เชื่อปมชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ถึงขั้นสงคราม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “55 ปี NATION : ผ่าทางตันประเทศไทย” Chapter 3 บก. ถาม “ทักษิณ ชินวัตร” ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดำเนินรายการโดย 3 บก. บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นระบุจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่ปะทุขึ้นสู่สาธารณะมาจากการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และฮุน เซน โดย ดร.ทักษิณ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เดิมทีมีการนัดหมายให้นายกฯ แพทองธาร สนทนากับฮุน เซน ผ่านการประสานงานของ “พี่ฮวด” โดยมีรัฐมนตรีคนสำคัญร่วมรับฟังด้วย ทั้งนายภูมิธรรม […]

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]

Thai police at the house of Kok An’s daughter in Bangkok

กัมพูชายืนยัน “ก๊ก อาน” ไม่เกี่ยวแก๊งฉ้อโกง

พนมเปญ 9 ก.ค. – ทางการกัมพูชาปฏิเสธว่า นายก๊ก อาน คนสนิทของนายฮุน เซน ไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกาสิโน ขณะที่นายฮุน เซน ท้าให้ทางการไทยสอบสวน “ทักษิณ” ด้วย เพราะมีความใกล้ชิดกับเขาเช่นกัน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ ไทม์ส ของกัมพูชา รายงานว่า หน่วยงานตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ในกัมพูชา ยืนยันว่า ทั้งอินเตอร์โพลและทางการกัมพูชาไม่ได้รับการแจ้งจากทางการไทยเกี่ยวกับการออกหมายจับนายก๊ก อาน สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.กัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยไทยระบุว่า นายก๊ก อาน เป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับแก๊งฉ้อโกงออนไลน์ที่ปฏิบัติการอยู่ในอาคารที่นายก๊ก อาน เป็นเจ้าของในเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย พ.ต.อ.ตู๊ด โบรา รองผู้บัญชาการอินเตอร์โพลกัมพูชา กล่าวว่า นับตั้งแต่มีรายงานของสื่อไทยเรื่องศาลไทยออกหมายจับนายก๊ก อาน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือขอความร่วมมือจากทางการไทย ทั้งที่ตามปกติแล้วเมื่อประเทศใดในภูมิภาคมีข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศอื่น หน่วยงานตำรวจสากลในประเทศนั้นจะต้องส่งหนังสือแจ้งไปยังทางการอีกประเทศหนึ่งเพื่อขอความร่วมมือในการจับกุมผู้ต้องสงสัย ดังนั้น เขาจึงไม่เชื่อรายงานข่าวดังกล่าวของสื่อไทย ด้านนายเจีย ธีริธ โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกัมพูชา ยืนยันว่า […]