สำนักข่าวไทย 19 เม.ย.- ผลสอบเหตุหมีควายตกเฮลิคอปเตอร์ที่เขาใหญ่ เพราะนักบินปลดตะขอทิ้งหมีเอง เหตุน้ำหนักเกิน แรงเครื่องตก หากไม่ปล่อยหมี เสี่ยงเครื่องตก
นายอดิศร นุชดำรงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยผลสอบข้อเท็จจริงกรณี เหตุหมีควายตกเฮลิคอปเตอร์ตายระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กำลังขนส่งเพื่อนำไปปล่อยป่าธรรมชาติในพื้นที่กลางป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงทรัพย์ฯให้สอบหาข้อเท็จจริงตามที่มีการร้องเรียนเข้ามาถึงการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้เป็นไปตามข้อกำหนดหรือระเบียบการใช้เฮลิคอปเตอร์หรือไม่ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมอุทยานฯ และสำนักการบินของกระทรวง มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งประเด็นการใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นไปตามระเบียบหรือไม่ หัวหน้าศูนย์การบิน 7 จังหวัดนครราชสีมา ได้ให้ข้อมูลว่า ได้ใช้ดุลพินิจของตัวเองในการปฎิบัติภารกิจครั้งนี้ เพราะเห็นว่าน่าจะอยู่ในแผนกู้ภัยฉุกเฉิน จึงสั่งการให้ปฏิบัติการได้ทันที โดยไม่ต้องขออนุญาตใครอีก
ส่วนประเด็นสำคัญ ว่าหมีตกลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ได้อย่างไร นักบินยอมรับว่า เป็นผู้ปลดตะขอหิ้วหมีเอง เนื่องจากระหว่างทำการบิน ผ่านป่าและหน้าผา เครื่องสั่น แรงของเครื่องตก ซึ่งไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของเครื่องยนต์เพราะนักบินและช่างเครื่องได้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ก่อนทำการบินแล้ว แต่พบว่าปัญหาเกิดจากมีน้ำหนักของหมีถ่วงอยู่ใต้เครื่อง นักบินจึงตัดสินใจปลดตะขอทิ้งหมี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และรักษาชีวิตผู้โดยสารในเครื่องทั้งหมด ไม่ใช่ตะขอหลุดเองอย่างที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้
ส่วนประเด็นเรื่องผู้โดยสารบนเฮลิคอปเตอร์ ที่มีการร้องเรียนว่ามีผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปด้วยนั้น นักบินยอมรับว่าไม่มีการเซ็นต์ชื่อผู้ที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ แต่มีผู้โดยสารขึ้นไปหลายคน โดย รู้จักเพียงเจ้าหน้าที่อุทยาน และทีมสัตวแพทย์ และไม่ได้ทักท้วงใดๆเพราะคิดว่าที่เหลือเป็นเจ้าหน้าที่ทั้งหมด แต่มารู้ภายหลังว่าในจำนวนผู้โดยสาร มี 2 คน เป็นผู้สื่อช่าวท้องถิ่น ซึ่งไม่มีภารกิจเกี่ยวข้องใดๆ
ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพย์ กล่าวต่อว่า ได้สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งข้อสังเกตทั้งหมด รายงานต่อนายวิจารณ์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพย์ฯแล้วเมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) ซึ่งปลัด จะเป็นผู้พิจารณาต่อไปว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไปหรือไม่ ย้ำว่าการสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้ เป็นเพราะมีผู้ร้องเรียนเข้ามา และสอบเพื่อหาสาเหตุหาข้อมูลจากทุกฝ่าย ไม่ได้ชี้ตัวหรือระบุว่าใครผิดใครถูก เพราะขั้นตอนนั้นอยู่ที่การตัดสินใจของผู้บังคับบัญชา .-สำนักข่าวไทย