4 วันสงกรานต์ คสช.ยึดรถดื่มแล้วขับแล้ว 5,212 คัน

กรุงเทพฯ 16 เม.ย.- สรุป 4 วันสงกรานต์ คสช.ยึดรถดื่มแล้วขับแล้ว 5,212 คัน – ยันดูแลรถที่ควบคุมไว้เป็นอย่างดี 


พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ ประชาชนจำนวนมากได้ทยอยเดินทางกลับจากการเฉลิมฉลองและท่องเที่ยวสงกรานต์ ทำให้การสัญจรในเส้นทางต่างๆ เริ่มหนาแน่นเป็นระยะ และคาดว่าจะหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ คสช.ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปรับการอำนวยการจราจรให้สะดวกที่สุดและทันต่อสภาพการใช้รถใช้ถนน ทั้งในสายหลัก สายรอง และทางลัด มีการเปิดพื้นที่ผิวการจราจรเพิ่มช่องทางพิเศษ เพื่อเร่งระบายการจราจรตามเส้นทางให้คล่องตัวที่สุด ควบคู่ไปกับการดูแลและอำนวยความสะดวกประชาชนด้านต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง และยังคงเข้มงวดในมาตรการสร้างความปลอดภัย “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ”

รองโฆษก คสช. กล่าวว่า สำหรับสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 15 เมษายน 2560 มีดังนี้ ในส่วนรถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 88,715 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดไว้ 1,336  คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 53,758 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 87,685 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 1,107 คน ยึดรถยนต์ 416  คัน ส่งผู้กระทำความผิด
ดำเนินคดี 45,144 คน


“ตลอด 4 วันที่ผ่านมา วันที่ 12-15 เมษายน เจ้าหน้าที่ตรวจพบการกระทำความผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 240,004  ครั้ง รถโดยสารสาธารณะ / รถยนต์ 216,590 ครั้ง  เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการ ดื่มไม่ขับไว้แล้ว 5,212 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 3,969 คัน และรถยนต์ 1,243 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 164,584 คน  รถโดยสารสาธารณะ / รถยนต์ส่วนบุคล 136,841 คน โดยรถที่ถูกควบคุมไว้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ดูแลและจัดหาสถานที่เก็บรักษาไว้อย่างเหมาะสม ซึ่งเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้ตามเวลาที่กำหนด” พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า  คสช.ขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับได้เตรียมความพร้อมด้านสุขภาพ  ตรวจสอบยานพาหนะ มีสมาธิในการขับขี่ ปฏิบัติตามกฎจราจร และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ รวมถึงแบ่งปันเส้นทางให้กับผู้ใช้ถนน เพื่อความปลอดภัย ตลอดการเดินทาง ของทุกคน.- สำนักข่าวไทย    


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่