ศาลอนุมัติหมายจับ “ซินแสโชกุน” เจ้าตัวยันไม่ได้ฉ้อโกง

กรุงเทพฯ 13 เม.ย. – “ซินแสโชกุน” เปิดใจยืนยันไม่ได้ฉ้อโกงประชาชน เพราะไม่ได้ขายทัวร์ แค่ขายสินค้า อ้างไประนองเพื่อรวบรวมเงินคืนผู้เสียหาย ไม่ได้ตั้งใจหนี ขณะที่ศาลอนุมัติหมายจับแล้ว


เมื่อค่ำวานนี้ (12 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจควบคุมตัว น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ “ซินแสโชกุน” พร้อมพวกรวม 4 คน ซึ่งถูกจับกุมได้ที่ จ.ระนอง มายังกองบินตำรวจ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม กรณีหลอกลวงประชาชนจำนวนมากให้สมัครสมาชิกบริษัทขายอาหารเสริม แถมทริปเดินทางไปญี่ปุ่น ในราคา 10,000 บาท ระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน 2560 แต่ถูกทิ้งกลางสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 1,000 คน พร้อมทั้งทำบัญชีทรัพย์สินที่นำติดตัวมาด้วย นานกว่า 3 ชั่วโมง


จากนั้นเวลาประมาณ 00.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้คุมตัวซินแสโชกุนออกจากกองบินตำรวจไปยังกองบังคับการปราบปราม หลังศาลอนุมัติหมายจับฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งทันทีที่เดินทางถึงกองบังคับการปราบปราม ซินแสโชกุนได้แถลงเปิดใจต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก โดยยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ฉ้อโกงประชาชนตามที่เป็นข่าว เนื่องจากไม่ใช่การขายทัวร์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาด เพื่อตอบแทนผู้ที่จ่ายค่าสมัครสมาชิกมาร่วมขายอาหารเสริม โดยการพาไปเที่ยวญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยอมรับว่า มีหัวหน้าทีมบางรายไปโฆษณาว่าเป็นทริปทัวร์ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งทริปไปญี่ปุ่นที่มีกำหนดเดินทางเมื่อวันที่ 11 เมษายน เกิดปัญหาการจัดการรายชื่อที่ล่าช้า และต้องซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางแบบแยกกลุ่ม ไม่ใช่เช่าเหมาลำตามที่เข้าใจ ทำให้การคอนเฟิร์มตั๋วโดยสารจากสปอนเซอร์ที่ฮ่องกงล่าช้าไปด้วย จึงทำให้เกิดความวุ่นวาย แต่ขอยืนยันว่า ทางบริษัทติดต่อที่พักและโรงแรมที่ญี่ปุ่น เพื่อพาทุกคนเดินทางไปจริง เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงหลักฐานการจองห้องพัก ซินแสโชกุนอ้างว่า อยู่ในอีเมล ยังไม่ได้นำออกมา 

ส่วนสาเหตุที่เดินทางไป จ.ระนอง ขอยืนยันว่า ตนเองและพวกไม่ได้หนี และเป็นคนโทรหาตำรวจให้มารับตัว แต่เดินทางไปเพื่อตั้งหลัก และนำทรัพย์สินไปขายเป็นเงินสด เพื่อใช้สำหรับการประกันตัว และชดใช้ค่าเสียหายบางส่วน

ส่วนข้อสงสงสัยที่ว่า มีการเปลี่ยนชื่อเพื่อหนีคดีหรือไม่ ซินแสโชกุนบอกว่า เป็นการเปลี่ยนชื่อตามศาสตร์ความเชื่อเท่านั้น ซึ่งตำรวจก็สามารถตรวจสอบข้อมูลจากเลขบัตรประจำตัวประชาชนได้อยู่แล้ว 


และเมื่อผู้เสียหายสอบถามถึงการคืนเงิน ซึ่งซินแสโชกุนเคยระบุไว้ในคลิปว่า หากไม่ได้จ่ายเงินให้ภายในวันที่ 9 เมษายน ให้มาเหยียบหน้า และถามว่าตอนนี้เหยียบหน้าได้หรือยัง จะขอเงินคืนได้หรือไม่ ซินแสโชกุนระบุว่า เงินดังกล่าวได้ถูกจ่ายเป็นค่าสินค้าไปเกือบหมดแล้ว และหากต้องการยกเลิกธุรกิจเพื่อขอเงินคืน ให้ติดต่อกับหัวหน้าทีม เพื่อตรวจสอบเอกสารก่อน ทำให้ตัวแทนผู้เสียหายไม่พอใจ ลุกขึ้นตะโกนด่า และเดินออกจากห้องประชุมทันที เนื่องจากไม่สามารถติดต่อหัวหน้าทีมที่ชักชวนมาสมัครได้แล้ว อีกทั้งยังไม่ได้ความชัดเจนในการขอคืนเงินจากซินแสโชกุน 

ส่วนกรณีคลิปที่ซินแสโชกุนกล่าวอ้างเบื้องสูงระดับหม่อมเจ้านั้น ซินแสโชกุนอ้างว่า เป็นการอ่านตามเอกสารของออร์แกไนซ์ที่ว่าจ้างให้ดูแลงานเปิดตัวบริษัทเท่านั้น 

ขณะที่ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งคลิปเสียง และที่มีการโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 หรือไม่

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการในคดีอาญาเท่านั้น ส่วนการเรียกร้องทางแพ่งไม่อยู่ในอำนาจ จึงไม่สามารถเรียกร้องให้ได้ ผู้เสียหายต้องดำเนินการเรียกร้องเอง โดยหลังจากนี้จะควบคุมตัวซินแสโชกุนไว้ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ภายใน 48 ชั่วโมง จากนั้นจึงจะนำตัวไปฝากขังต่อไป

ขณะที่เครือข่ายของโชกุนอีก 3 ราย คือ นางจันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ มารดา น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ และนายก้องศรัณย์ แสงประภา ถูกควบคุมตัวไปที่ มทบ.11 เนื่องจากเป็นการเชิญตัวโดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 และในวันนี้ (13 เม.ย.) เครือข่ายของโชกุนจะถูกส่งตัวมาเพิ่มอีก 5 ราย คือ นางประนอม พลานุสนธิ์ นายโกวิท ช่วยสัตว์ นางณิชมน แสงประภา นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ และ น.ส.สุดารัตน์ อเนกมวล ซึ่งคาดว่าจะเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานคร ในเวลาประมาณ 09.00 น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนรถบรรทุก

แพทย์หญิงดับสลด ขับชนท้ายรถบรรทุก

แพทย์หญิง ขับรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ เสียชีวิตคาที่ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี มุ่งหน้าสะพานตากสิน ถนนกรุงธนบุรี ตรวจสอบในรถพบซองยาแก้หวัด-คัดจมูก

แสตมป์ถูกข่มขู่

โฆษก ทบ. พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​”

โฆษกกองทัพบก พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​” ถูกนายพลข่มขู่​ ขอข้อมูลเพิ่มตรวจสอบอยู่ในประจำการหรือไม่​ ลั่น​ หากยังรับราชการถือผู้วินัยร้ายแรง​แม้เป็นเรื่องส่วนตัว​

ข่าวแนะนำ

หมายจับยิงครูตชด.

ออกหมายจับ 2 ตัวการ มือวางระเบิดและยิง 2 พ่อลูก ตชด.

ออกหมายจับ 2 ตัวการ มือวางระเบิดและยิงซ้ำ 2 พ่อลูก ตชด. ก่อนหนีขึ้นเขาเมาะแต ล่าสุด ส่งทหารพรานไล่ล่า แต่ยังไม่พบตัว

แสตมป์ถูกข่มขู่

โฆษก ทบ. พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​”

โฆษกกองทัพบก พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​” ถูกนายพลข่มขู่​ ขอข้อมูลเพิ่มตรวจสอบอยู่ในประจำการหรือไม่​ ลั่น​ หากยังรับราชการถือผู้วินัยร้ายแรง​แม้เป็นเรื่องส่วนตัว​

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

“ทักษิณ” เผยเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กาสิโนแค่ 10%

“ทักษิณ” ฉายภาพเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บอกกาสิโนแค่ 10% สร้างงานมากกว่า 20,000 คน ประกันรายได้มากกว่า 20,000 บาท ยกพนันออนไลน์ขึ้นมาถูกกฎหมาย บอก “อิ๊งค์” คิด-ทำ เหมือนพ่อ ยันเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง แค่มีเงาแก่ ๆ อยู่ข้างหลัง เผยนักลงทุนเอเชียจ่อคุยหลังสหรัฐประกาศให้ความสำคัญคริปโต