fbpx

ลูกชาย “บูบู้” โชว์ใบเกิด อยากได้อ้อมกอดจากพ่อเท่านั้น


ชุมพร 10 เม.ย.-ลูกชาย “บูบู้” โชว์ใบเกิด อยากได้อ้อมกอดจากพ่อเท่านั้น เมียเก่ายันไม่เคยคิดทำลายชื่อเสียง ด้านบูบู้รับเด็กเป็นลูกจริง และรับผิดชอบมานานแล้ว

จากกรณีเพจ แหม่ม โพธิ์ดำ โพสต์ข้อความแฉ หนุ่มอ้างเป็นลูก ของ “บูบู้” สามีดาวตลกดังหลังจากที่ตกเป็นข่าวใหญ่ในโลกโซเชียล กรณีที่ภรรยาเก่าและลูกของ บูบู้ กำธร สามีของ ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ หรือตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน ออกมาเรียกร้องให้ บูบู้ รับผิดชอบส่งเสียเลี้ยงดูลูกบ้าง


เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 10 เมย.60 ที่บ้านในตลาด หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นางชนิษฐา ดีสมศักดิ์ อายุ34 ปี ได้เปิดเผยพร้อมนำสูติบัตรของนายบี (นามสมมติ) ลูกชายมาให้ผู้สื่อข่าวดู โดย ด.ช.บี เกิดวันที่ 28 มกราคม 2543 สถานที่เกิดโรงพยาบาลกลาง 514 ถ.หลวง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ชื่อมารดาคือ นางชนิษฐา ชื่อบิดาคือนายกำธร โพธิ์น้ำคำ ซึ่งการที่ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาใดๆ หรือที่จะทำลายครอบครัวของบูบู้ หรือตุ๊กกี้ เพราะตนเองกับบูบู้ได้เลิกรากันมาหลายปี และไม่อยากให้สื่อมวลชนไปโจมตีบูบู้ หรือตุ๊กกี้ เพราะต่างคนต่างมีครอบครัวใหม่กันหมดแล้ว และตนเองได้เก็บความลับนี้มาโดยตลอด พร้อมเผยต่อไปว่าสมัยช่วงที่วัยรุ่นอายุประมาณ 17 ปี ได้อยู่กินกับบูบู้ ที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวตน กระทั่งคลอดลูกออกมาได้ 3 เดือนก็ต้องเลิกรากัน เพราะความเป็นวัยรุ่นของทั้งสองฝ่าย จนเมื่อลูกชายอายุได้ 2 ปี ตนเองก็มีครอบครัวใหม่ และย้ายมาอยู่ที่อำเภอหลังสวน จ.ชุมพร โดยยึดอาชีพค้าขายเสื้อผ้า และขายปลา ในตลาดหลังสวน โดยที่ไม่มีใครรู้เรื่องดังกล่าว 

จนกระทั่งเมื่อลูกไปทำบัตรประชาชนซึ่งขณะนั้นลูกชายอายุ 13 ปี ความเลยแตกเมื่อปรากฏว่าลูกชายทราบว่าพ่อที่อยู่ด้วยกันไม่ใช่พ่อแท้ๆ จึงยอมเปิดเผยเรื่องจริงให้ลูกฟังทั้งหมด ที่ผ่านมายอมรับว่าในบางครั้งก็มีโอกาสได้เจอกับบูบู้บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะติดต่อผ่านเลขาของบูบู้ เพื่อขอให้ช่วยเซ็นเอกสารเกี่ยวกับเรื่องเรียนของลูกชายและบูบู้เองก็ได้เซ็นให้ และช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ลูกเดือนละ 3,000 บาท มาต่อเนื่อง 4 ปี จนพักหลังประมาณ 3-4 เดือนไม่สามารถติดต่อบูบู้ได้ แต่ลูกคงอยากเจอหน้าพ่อและอาจน้อยใจที่ไม่สามารถติดต่อพ่อได้ ก็เลยโพสต์ขอความช่วยเหลือในเพจดัง จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตดังกล่าว และในครั้งนี้ก็เพียงอยากได้ความรักจากพ่อบ้าง อยากได้อ้อมกอดจากพ่อ และอยากได้เงินเพียง ไม่เกินเดือนละ 5000 บาท เท่านั้น และเมื่อสามารถสู้ชีวิตตัวเองและแม่ได้ต่อไปก็ จะไม่รบกวนอะไรอีกแล้ว 


ล่าสุด “บูบู้” ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก ผ่านทางรายการบรรจงชงข่าว โดยระบุว่า “รู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวาน ตื่นเช้ามาก็เต็มเฟซไปหมด ส่วนที่เรารับผิดชอบ รับผิดชอบมานานแล้ว แต่เราไม่มีโอกาสได้พูด ตัวเด็กก็เป็นลูกผมจริงๆ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ผมอายุ 15-16 เป็นเรื่องอดีตที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ ตรงนี้พร้อมรับผิดชอบ เต็มใจรับผิดชอบเด็กคนนี้ ส่วนเรื่องค่าเลี้ยงดู ล่าสุดเพิ่งโอนไป ตกลงกับแม่ของเด็กเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ผมไม่รู้ว่าเขาได้มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว แต่เมื่อเด็กบอกว่าเป็นลูกผม มาบอกผู้ใหญ่ที่บริษัท ก็ให้พี่เขาติดต่อว่าอะไรยังไง มีข้อตกลงว่า 1 เดือนต้องจ่ายค่าเลี้ยงดู 3,000 บาท ค่าเทอมส่วนหนึ่งออกคนละครึ่งกับแม่ของเด็ก และค่าพยาบาลผมรับผิดชอบกับแม่ของเด็กคนละครึ่ง ไม่เคยขาด”

“ที่น้องบอกว่าผมขาดการติดต่อ ค่อนข้างจะไม่ใช่ การที่ผมบล็อคเฟซปัญหาคือ คนเข้ามาเยอะมาก ไม่ว่าจะอินบอกซ์ หากสังเกตหน้าเฟซผมดีๆ จะบอกว่าไม่รู้จักอย่าอินบอกซ์ผมมาเลย มีทักมายืมเงิน ส่วนมาก ผมจะซีเรียสที่จะคุยกับใครในอินบอกซ์การบล็อค ผมไม่ได้บล็อคเฉพาะน้อง ไม่ได้บล็อคเพื่อหนี แต่ผมบล็อคทุกคน ผมไม่ชอบคุยอินบล็อคกับใครอยู่แล้วครับ ส่วนตุ๊กกี้รู้เรื่องนี้ครับ บอกให้ไปทำให้ถูกต้อง เป็นเรื่องที่ผิดพลาดในอดีต และต้องรับผิดชอบในส่วนที่เรารับผิดชอบ ตุ๊กกี้ให้กำลังใจทั้งสองฝ่าย ให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ ผมปรึกษาเขาทุกเรื่อง ให้เขารับรู้ทุกๆ เรื่องครับ” บูบู้กล่าว 

ด้านตุ๊กกี้ เปิดเผยว่า “หนูสบายมาก ไม่ได้เครียด หนูไม่ได้ช็อกเลยนะคะ (หัวเราะ) (เราทราบมั้ยกับเรื่องที่ บูบู้เขาเคยมีลูก) เอาเป็นว่าหนูกับบูบู้เราคบกันมา 13 ปี เราบอกกันทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้หนูพูดได้ไม่มาก ให้บูบู้เขาพูดเองดีกว่า เดี๋ยวเขาก็แถลงข่าว นี่หนูก็เพิ่งไปทำบุญสร้างวัดที่ลอนดอนมา ชิลๆ สบายมากค่ะ”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้