โจมตี

คลังน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ที่ถูกฝ่ายกบฏฮูธีของเยเมน ยิงขีปนาวุธโจมตีจนเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ขณะนี้เพลิงยังไม่สงบ

นายดิมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียและรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซียกล่าววันนี้ว่า เป็นเรื่องโง่เขลาที่จะเชื่อว่า มาตรการลงโทษของชาติตะวันตกที่มีต่อภาคธุรกิจของรัสเซียจะส่งผลกระทบใด ๆ กับรัฐบาลรัสเซีย

รัสเซียยังโหมโจมตียูเครนในหลายแนวรบ โดยเฉพาะเมืองมาริอูโปล เมืองยุทธศาสตร์ทางตะวันออก และเมืองมิโคไลอีฟ ทางตอนใต้ และตรึงกำลังล้อมกรอบกรุงเคียฟ

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าววันนี้ว่า กองทัพรัสเซียโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธร่อนที่ยิงจากเรือรบที่อยู่ในทะลดำและทะเลแคสเปียน นอกจากนั้น ยังปล่อยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง หรือ ไฮเปอร์โซนิกเพื่อโจมตียูเครนจากน่านฟ้าเหนือคาบสมุทรไครเมียด้วย

เคียฟ 15 มี.ค.- ผู้นำ 3 ชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต จะเดินทางเยือนกรุงเคียฟของยูเครนที่กำลังถูกกองกำลังรัสเซียโจมตีและเคลื่อนทัพเข้ามาใกล้ นายกรัฐมนตรีเปเตอร์ ฟิยาลาของสาธารณรัฐเช็กทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาและนายกรัฐมนตรีสโลวีเนีย นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีโปแลนด์จะเดินทางไปกรุงเคียฟในวันอังคารนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสหภาพยุโรปหรืออียูให้การสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อประเทศยูเครน เสรีภาพ และเอกราชของยูเครน ผู้นำ 3 ชาตินี้ ซึ่งเป็นสมาชิกนาโตด้วย จะเยือนกรุงเคียฟที่วันนี้เต็มไปด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง ทางการยูเครนระบุว่า เป็นการโจมตีด้วยปืนใหญ่ ทำให้อาคารที่พักอาศัยสูง 15 ชั้นหลังหนึ่งเกิดไฟไหม้ใหญ่ มีคนเสียชีวิตแล้ว 1 คน และติดอยู่ในอาคารอีกเป็นจำนวนมาก คลื่นเสียงจากแรงระเบิดยังทำให้ทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งที่ใช้เป็นสถานที่หลบภัยพังเสียหาย ทำให้รถไฟไม่สามารถจอดที่สถานีนี้ได้อีก เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐที่ขอสวงนนามเผยเมื่อวันจันทร์ว่า กองกำลังรัสเซียยังคงปักหลักอยู่ห่างจากในกลางกรุงเคียฟราว 15 กิโลเมตร และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากองกำลังรัสเซียทั้งหมดไม่สามารถรุกคืบในยูเครนได้มากนัก รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มยูเครนแล้วไม่ต่ำกว่า 900 ลูก แต่ยังไม่สามารถยึดครองน่านฟ้ายูเครนได้.-สำนักข่าวไทย

เมืองมิกโคลาอิฟทางตอนใต้ของยูเครนเตรียมพร้อมรับการโจมตีจากรัสเซีย ขณะที่วานนี้ รัสเซียและยูเครน เปิดการเจรจารอบใหม่

เจนีวา 14 มี.ค.- หน่วยงานของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ร่วมกันเรียกร้องให้หยุดยิงโดยทันทีและยุติการโจมตีบุคลากรและสถานพยาบาลในยูเครน โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนเป็น “ความโหดร้ายที่ไร้จิตสำนึก” ระบบเฝ้าระวังการโจมตีการดูแลสุขภาพหรือเอสเอสเอ (SSA) ขององค์การอนามัยโลกเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมที่ลงนามโดยผู้อำนวยการองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟ กองทุนประชากรยูเอ็น และองค์การอนามัยโลกว่า นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์มีการโจมตีการดูแลสุขภาพแล้วทั้งหมด 31 ครั้ง การโจมตีกลุ่มผู้เปราะบางที่สุดที่ประกอบด้วยทารก เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงชีวิตตนเองเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่น ถือเป็นการกระทำที่โหดร้ายอย่างไร้จิตสำนึก การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 12 คน บาดเจ็บ 34 คน แถลงการณ์เรียกร้องให้หยุดยิงโดยทันที เพราะบุคลากรทางการแพทย์จะต้องสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย ทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และโปลิโอ การให้ยาช่วยชีวิตแก่พลเรือนทั่วยูเครนและผู้ลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แถลงการณ์ระบุว่า ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยุเครน มีการคลอดไม่ต่ำกว่า 4,300 ครั้ง คาดว่าสตรียูเครนประมาณ 80,000 คนจะคลอดในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ขณะนี้ออกซิเจนและยา รวมถึงการจัดการกรณีเกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์กำลังเหลือน้อยถึงระดับที่เป็นอันตราย ระบบสาธารณสุขในยูเครนกำลังตึงตัวอย่างยิ่ง หากระบบล้มเหลวจะกลายเป็นหายนะ จึงต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ขอเรียกร้องให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและการเปิดทางให้ผู้เดือดร้อนได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทางออกสันติเพื่อยุติสงครามในยูเครนยังคงเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้.-สำนักข่าวไทย

ลวีฟ 13 มี.ค.- เจ้าหน้าที่เมืองลวีฟที่อยู่ทางตะวันตกของยูเครนแจ้งว่า รัสเซียได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกับฐานทัพยูเครนในเมืองยาโวรีฟที่มีพรมแดนติดกับโปแลนด์และใกล้กับเมืองลวีฟ หลังจากเมื่อวันศุกร์ได้โจมตีท่าอากาศยาน 2 แห่งทางตะวันตกไกลของยูเครน กองกำลังภูมิภาคลวีฟแจ้งว่า รัสเซียใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกับศูนย์สากลเพื่อการรักษาสันติภาพและความมั่นคงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีการยิงจรวดทั้งหมด 8 ลูก ด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ยูเครนรายงานอ้างโฆษกโรงเรียนเตรียมทหารกองทัพบกยูเครนว่า เป้าหมายการโจมตีคือหน่วยทหารหน่วยหนึ่งที่ศูนย์ดังกล่าว ซึ่งเป็นฐานทัพทางทหารขนาดใหญ่ที่มีศูนย์ฝึกทหารรวมอยู่ด้วย ภารกิจหลักคือการรักษาสันติภาพ เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่กำลังยืนยันข้อมูลผู้บาดเจ็บอยู่ ศูนย์แห่งนี้อยู่ห่างจากพรมแดนโปแลนด์ไม่ถึง 25 กิโลเมตร ทีมข่าวซีเอ็นเอ็นในพื้นที่รายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังหลายครั้งตั้งแต่ก่อนเวลา 06:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เมืองลวีฟเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของยูเครน พื้นที่ใจกลางเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก เป็นเมืองใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกของยูเครน และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 6 ของประเทศ รับผู้ลี้ภัยหนีการโจมตีของรัสเซียจากเมืองต่าง ๆ ในยูเครน รวมทั้งเป็นเส้นทางที่ผู้ลี้ภัยใช้เดินทางต่อไปยังโปแลนด์ที่อยู่ห่างออกไป 70 กิโลเมตร.-สำนักข่าวไทย