ชาวฮ่องกงแห่ฉีดวัคซีนโควิดก่อนจีนเปิดพรมแดน

ฮ่องกง 5 ม.ค. – ชาวฮ่องกงต่างพากันไปเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามคลินิกหลายแห่งจนคิวเต็ม หลังมีประชาชนหลายคนรู้สึกวิตกกังวลว่าการเปิดพรมแดนของจีนตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. จะทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิดเพิ่มขึ้นในฮ่องกง ข้อมูลของรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิดหลายแห่งที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิดของไบออนเทค บริษัทเวชภัณฑ์ของเยอรมนี ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีประชาชนเข้าไปจองคิวจนเกือบเต็มทั้งหมดแล้วในเดือนนี้ ขณะที่ศูนย์ฉีดวัคซีนบางแห่งมีคิวเต็มไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างจากช่วงหลายสัปดาห์ก่อนที่มีชาวฮ่องกงไปฉีดวัคซีนกันอย่างบางตา ชาวฮ่องกงไม่เผยนามคนหนึ่งเผยว่า เมื่อฮ่องกงเปิดพรมแดน ก็จะมีผู้ป่วยโควิดเดินปะปนอยู่บนท้องถนนเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจไปเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มสี่เมื่อต้นสัปดาห์เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด ก่อนหน้านี้ รัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศวางแผนกลับมาเปิดพรมแดนและยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังจีนประกาศยกเลิกใช้นโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์และจะยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. เป็นต้นไป ทั้งนี้ ข้อมูลของรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า ขณะนี้มีชาวฮ่องกงกว่าร้อยละ 83 ฉีดวัคซีนโควิดของไบออนเทคหรือซิโนแวคแล้วอย่างน้อย 3 เข็ม ส่วนยอดผู้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัวจากสัปดาห์ก่อน. -สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเผยยังไม่พบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ในจีน

เจนีวา 5 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า ยังไม่มีรายงานพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ในจีน แต่ระบุว่าจีนรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 น้อยเกินจริงทั้งที่กำลังเผชิญกับการระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อโควิด นพ. ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก เผยเมื่อวันพุธตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า ข้อมูลจากจีนชี้ว่ายังไม่พบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ในจีน และคิดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันจากโรคโควิดที่จีนรายงานนั้นเป็นจำนวนที่น้อยเกินจริงทั้งที่จีนกำลังเผชิญกับการระบาดอย่างรวดเร็วของโรคโควิดจนทำให้มีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและแผนกผู้ป่วยหนักเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า องค์การอนามัยโลกรู้สึกวิตกกังวลถึงความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคโควิดในจีน และได้เน้นย้ำกับจีนถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ซึ่งรวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันอัตราผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง และผู้เสียชีวิต ทั้งยังระบุว่า องค์การอนามัยโลกจะเร่งประสานงานกับจีนเพื่อสืบค้นข้อมูลผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดให้ได้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอมากขึ้น ก่อนหน้านี้ หลายประเทศทั่วโลกออกมาแสดงความวิตกกังวลถึงความโปร่งใสของจีนในการรายงานตัวเลขและสถานการณ์ของโรคโควิดในประเทศ เช่น ยอดผู้เสียชีวิตที่เป็นเลขตัวเดียว ทั้งที่มีรายงานว่าโรงพยาบาลกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัวและมีการจัดงานศพที่คาดว่าเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดมากขึ้นนับตั้งแต่จีนยกเลิกนโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์. -สำนักข่าวไทย

นิวซีแลนด์จะไม่บังคับนักเดินทางจีนแสดงผลตรวจโควิด

เวลลิงตัน 4 ม.ค. – นิวซีแลนด์จะไม่กำหนดให้นักเดินทางจากจีนแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่แตกต่างจากอีกหลายประเทศที่กำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศหลังมีข้อกังวลเรื่องยอดผู้ป่วยโควิดที่พุ่งสูงขึ้นในจีน พญ. อาเยชา เวอร์รัล รัฐมนตรีกำกับดูแลเรื่องโรคโควิดของนิวซีแลนด์ ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า หน่วยงานประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของนิวซีแลนด์ได้ข้อสรุปว่า นักเดินทางจากจีนไม่ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิดในนิวซีแลนด์อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการจำกัดการเดินทางเข้านิวซีแลนด์จึงไม่จำเป็นหรือชอบธรรม อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะขอให้นักเดินทางจากจีนบางส่วนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยความสมัครใจเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคโควิด ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับข้อกังวลขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับการที่จีนไม่ยอมแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดในประเทศ ทั้งยังระบุว่า นิวซีแลนด์กำลังวางแผนเริ่มตรวจน้ำเสียจากเที่ยวบินระหว่างประเทศเพื่อหาเชื้อโควิด หากแนวทางนี้ประสบผลสำเร็จ ก็จะนำมาใช้แทนการตรวจหาเชื้อโควิดอย่างเจาะจงและสมัครใจกับนักเดินทางเป็นรายบุคคล ก่อนหน้านี้ หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐ และญี่ปุ่น ได้ประกาศข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับการระบาดอย่างรุนแรงและการเปิดเผยข้อมูลด้านสาธารณสุขของจีน ขณะที่จีนออกมาตำหนิว่าข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติกับชาวจีน. -สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้เร่งตามหาชาวจีนติดโควิดหายตัวจาก รร. กักตัว

โซล 4 ม.ค. – เกาหลีใต้เร่งตามหานักเดินทางชาวจีนรายหนึ่งที่มีผลตรวจติดเชื้อโควิดเมื่อเดินทางถึงเกาหลีใต้ แต่กลับหายตัวไปในขณะที่กำลังรอเข้าที่พักในโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเกาหลีใต้เผยวันนี้ว่า นักเดินทางชาวจีนไม่เผยนามรายหนึ่งมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกหลังเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินชอนของเกาหลีใต้เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร และถูกส่งตัวไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้สนามบินเพื่อรอคิวกักตัว อย่างไรก็ดี ชาวจีนคนนี้กลับหายตัวไปโดยไม่ได้บอกกล่าว ขณะนี้ ตำรวจเกาหลีใต้ได้ออกประกาศจับชาวจีนคนดังกล่าวแล้ว ซึ่งอาจทำให้บุคคลนี้ได้รับโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือโทษปรับเงินสูงสุด 10 ล้านวอน (ราว 269,000 บาท) หากพบว่ามีความผิดฐานละเมิดกฎหมายป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อของเกาหลีใต้จริง นอกจากนี้ ชาวจีนคนนี้อาจถูกเนรเทศและถูกสั่งห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้เป็นระยะเวลาหนึ่ง นับตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.จนขณะนี้มีนักเดินทางจากจีนเข้าเกาหลีใต้แล้วทั้งหมด 2,189 คน สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ หรือเคดีซีเอ รายงานวันนี้ว่า ผลการตรวจนักเดินทางจากจีน 590 คนพบว่าติดเชื้อโควิด 136 คน หรือร้อยละ 23 เฉพาะวันอังคารวันเดียวพบนักเดินทางจากจีนติดเชื้อโควิดร้อยละ 26 จากทั้งหมด 281 คน เกาหลีใต้ได้ประกาศเมื่อวันอังคารเรื่องกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าประเทศ โดยจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์เมื่อเดินทางถึงเกาหลีใต้ และสามารถยื่นผลตรวจโควิดแบบพีซีอาร์เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง หรือยื่นผลชุดตรวจโควิดด้วยตนเองเป็นลบภายใน 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางจากจีนได้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. […]

ออสเตรเลียยันให้นักเดินทางจีนตรวจโควิดไม่เกี่ยวการเมือง

ซิดนีย์ 4 ม.ค. – ออสเตรเลียระบุว่า จีนขาดความโปร่งใสเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 พร้อมแย้งว่า การประกาศใช้ข้อกำหนดตรวจโควิดในกลุ่มนักเดินทางจากจีนไม่ได้เกิดขึ้นจากแรงจูงใจทางการเมือง นายจิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย เผยกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลียในวันนี้ว่า รัฐบาลออสเตรเลียตัดสินใจประกาศใช้ข้อกำหนดตรวจหาเชื้อโควิดในกลุ่มนักเดินทางจากจีน เนื่องจากต้องระมัดระวังเรื่องความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการระบาดของโรคโควิดในจีน ซึ่งออสเตรเลียรู้สึกกังวลเรื่องความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลโรคโควิด ทั้งยังระบุว่า ข้อกำหนดดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจากแรงจูงใจทางการเมืองอย่างแน่นอน รัฐบาลออสเตรเลียประกาศใช้ข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าออสเตรเลีย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. เป็นต้นไป แม้ว่านายพอล เคลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของออสเตรเลีย ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 แนะให้รัฐบาลออสเตรเลียยกเลิกการใช้ข้อกำหนดดังกล่าวในกลุ่มนักเดินทางจากจีน เนื่องจากขาดข้อมูลยืนยันด้านสาธารณสุข ขัดแย้งกับนโยบายด้านโควิดของออสเตรเลียที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และยังไม่เห็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคโควิด ก่อนหน้านี้ จีนได้ออกมาตำหนิการเพิ่มข้อกำหนดด้านโควิดต่อนักเดินทางจากจีนว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมขู่ว่าจะตอบโต้ประเทศที่ใช้ข้อกำหนดดังกล่าว หลังมีหลายประเทศ เช่น สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ที่ประกาศใช้ข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจโควิดก่อนเดินทางเข้าประเทศเมื่อไม่นานมานี้. -สำนักข่าวไทย

อังกฤษไร้แผนบังคับนักเดินทางจีนตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ

ลอนดอน 29 ธ.ค. – อังกฤษระบุว่ายังไม่มีแผนที่จะกลับไปใช้ข้อกำหนดให้นักเดินทางจากต่างประเทศต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าอังกฤษ ซึ่งเป็นแนวทางที่ตรงข้ามกับอีกหลายประเทศ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น และอิตาลี ที่ประกาศข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ โฆษกรัฐบาลอังกฤษเผยกับหนังสือพิมพ์เทเลกราฟของอังกฤษว่า อังกฤษยังไม่มีแผนที่จะกลับไปใช้ข้อกำหนดให้นักเดินทางจากต่างประเทศต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าอังกฤษ ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลอังกฤษจะพิจารณาว่า ควรจะใช้มาตรการควบคุมโรคโควิดในกลุ่มนักเดินทางชาวจีนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เทเลกราฟยังระบุว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ จะประชุมร่วมกันเพื่อตัดสินใจว่าจะใช้ข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจโควิดก่อนเดินทางเข้าอังกฤษเหมือนกับอีกหลายประเทศที่ประกาศใช้มาตรการนี้ไปก่อนแล้วหรือไม่ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ขณะนี้ มีหลายประเทศ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น และอิตาลี ที่ประกาศข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่พุ่งสูงขึ้นหลังจีนประกาศยกเลิกใช้นโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์แล้ว.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐกำหนดให้นักเดินทางจากจีนตรวจโควิดก่อนขึ้นเครื่องบิน

วอชิงตัน 29 ธ.ค. – สหรัฐจะออกข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบินเข้าสหรัฐ ขณะที่ออสเตรเลียระบุว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในกลุ่มนักเดินทางจีน เจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐเผยว่า นักเดินทางจากจีนที่ต้องการเดินทางเข้าสหรัฐจะต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง และต้องแสดงหลักฐานดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่สายการบินก่อนขึ้นเครื่องบิน โดยสามารถแสดงหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิดได้ทั้งแบบพีซีอาร์ (PCR) และชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง ข้อกำหนดใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ครอบคลุมไปถึงผู้โดยสารทุกคนที่ขึ้นเที่ยวบินตรงจากจีนมายังสหรัฐ รวมถึงผู้โดยสารจากจีนที่ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานในประเทศอื่น ๆ เช่น กรุงโซลของเกาหลีใต้ เมืองโทรอนโตและเมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดา โดยจะเริ่มใช้ข้อกำหนดใหม่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. เป็นต้นไป ทั้งนี้ สหรัฐถือเป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศเพิ่มมาตรการโควิดต่อนักเดินทางจากจีน หลังมีหลายประเทศ เช่น อินเดียและญี่ปุ่น ที่ประกาศใช้ข้อกำหนดดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย เผยว่า ออสเตรเลียจะไม่เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเกี่ยวกับโรคโควิดในกลุ่มนักเดินทางจีนที่ต้องการเดินทางจากจีนมายังออสเตรเลีย แม้มีบางประเทศได้ปรับนโยบายในการให้นักเดินทางจีนเข้าประเทศแล้วก็ตาม ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ระบาดของโรคโควิดในจีนต่อไปเพื่อระมัดระวังเรื่องผลกระทบต่อออสเตรเลีย รวมถึงการรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของออสเตรเลียเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์ยันไม่เปลี่ยนมาตรการโควิดต่อนักเดินทางจีน

สิงคโปร์ 28 ธ.ค. – สิงคโปร์จะไม่เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในกลุ่มนักเดินทางจากจีน โดยจะยังคงใช้ข้อกำหนดเดิมที่มีอยู่ต่อไป หลังจีนเตรียมกลับมาเปิดพรมแดนอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ปีหน้า กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า ผู้เดินทางเข้าสิงคโปร์ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบโดสตามคำจำกัดความขององค์การอนามัยโลกจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าสิงคโปร์ ส่วนผู้ที่ต้องการเดินทางมาพำนักในสิงคโปร์ระยะสั้นจะต้องซื้อประกันสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิดเอง ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ สิงคโปร์ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเกี่ยวกับโรคโควิดในกลุ่มนักเดินทางและชาวจีนที่เดินทางมาทำงานในสิงคโปร์ กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ยังระบุว่า สิงคโปร์ยังคงติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ระบาดของโรคโควิดในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และจะปรับเปลี่ยนมาตรการควบคุมพรมแดนอย่างเหมาะสมในกรณีที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น แถลงการณ์ดังกล่าวของสิงคโปร์มีขึ้นหลังจากที่จีนประกาศเมื่อคืนวันจันทร์ว่า จะยกเลิกมาตรการกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศมายังจีนตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 ในขณะที่จีนกำลังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจและการประท้วงมาตรการโควิดที่เข้มงวดทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันจะตรวจหาเชื้อโควิดในผู้เดินทางจากจีนตั้งแต่ 1 ม.ค.

ไทเป 28 ธ.ค. – ไต้หวันจะเริ่มตรวจหาเชื้อโควิดในกลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากจีนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า เพื่อรับมือกับสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนที่ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ศูนย์บัญชาการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมายังไต้หวันด้วยเที่ยวบินตรงและเรือโดยสารจากจีนจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธีเก็บสารคัดหลั่งทางเดินหายใจส่วนบนเข้าตรวจในห้องปฏิบัติการ หรือพีซีอาร์ (PCR) เมื่อเดินทางถึงไต้หวัน แต่มาตรการนี้ ซึ่งมีผลบังคับใช้จนถึงสิ้นเดือน ม.ค. จะไม่รวมผู้ที่เดินทางมาจากฮ่องกงและมาเก๊า ทั้งยังระบุว่า ผู้ที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกจะได้รับอนุญาตให้กักตัวที่บ้านได้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อชาวไต้หวันที่อาศัยและทำงานอยู่ในจีนเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากรัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปเที่ยวไต้หวันมาตั้งแต่ปี 2562 ทั้งยังระบุว่า ชาวไต้หวันส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในจีนมักเดินทางกลับไต้หวันในช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือนหน้า ทั้งนี้ การปรับแนวทางควบคุมโรคโควิดของไต้หวันมีขึ้นหลังจากที่จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิดเกือบทั้งหมดในเดือนนี้เพื่อเตรียมกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งในปีหน้า.-สำนักข่าวไทย

รพ. ในจีนตึงตัวอย่างหนักหลังยอดป่วยโควิดพุ่ง

เฉิงตู 28 ธ.ค. – โรงพยาบาลหลายแห่งในจีนกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัวอย่างหนักเมื่อวันพุธ ในขณะที่จีนพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เกือบทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหัวซี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในนครเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ระบุว่า เจ้าหน้าที่หลายคนต้องทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิดนับตั้งแต่ทางการจีนเริ่มประกาศผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. พนักงานขับรถพยาบาลที่ไม่เผยนามคนหนึ่งระบุว่า โรงพยาบาลหัวซีกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่เขาเริ่มทำงานนี้มาเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่เภสัชกรรมของแผนกฉุกเฉินเผยว่า ผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเกือบทั้งหมด ตอนนี้โรงพยาบาลกำลังขาดแคลนยาต้านเชื้อโควิด และทำได้เพียงแค่จ่ายยารักษาตามอาการ เช่น เจ็บคอ ให้แก่ผู้ป่วยเท่านั้น ในขณะเดียวกัน สื่อของทางการจีนรายงานอ้างคำพูดเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลปักกิ่งเฉาหยางในกรุงปักกิ่งของจีนว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยและผู้ที่มีโรคประจำตัวจนทำให้มีอาการป่วยรุนแรง ทั้งยังระบุว่า ตัวเลขผู้ป่วยโควิดที่ต้องรักษาตัวที่แผนกดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินเพิ่มขึ้นสูงถึงวันละ 450-550 คน จากเดิมที่เพิ่มขึ้นวันละ 100 คนเท่านั้น ด้านทางการจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพิ่มขึ้น 3 คนในวันอังคาร เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ที่มี 1 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยว่าน้อยกว่าความเป็นจริง ทั้งนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 10.1 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 31,500 คนนับถึงวันที่ […]

สหรัฐเล็งเพิ่มมาตรการคุมโควิดในกลุ่มนักเดินทางชาวจีน

รัฐบาลสหรัฐอาจเพิ่มข้อกำหนดใหม่เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มชาวจีนที่เดินทางจากจีนเข้ามายังสหรัฐ เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับการรายงานข้อมูลโรคโควิดที่ขาดความโปร่งใสของรัฐบาลจีน

จีนยกเลิกกักตัว-เตรียมเปิดประเทศ

ปักกิ่ง 27 ธ.ค. – จีนประกาศยกเลิกข้อกำหนดในการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ  เริ่ม 8 มกราคมปีหน้า เป็นมาตรการล่าสุดในหลายมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ที่ถูกยกเลิก หลังจีน ยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างถ้อยแถลงครั้งแรกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่ระบุว่า ประเทศเผชิญหน้ากับสถานการณ์ใหม่ ซึ่งต้องการให้มีการตอบสนองที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการในสิ่งที่เป็นไปได้ เพื่อช่วยรักษาชีวิตของประชาชน นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ผู้โดยสารและนักเดินทางต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าจีน ต้องอยู่ภายใต้การกักบริเวณที่ทางรัฐบาลกลางจัดเตรียมไว้ แต่ทางการจีนก็ลดเวลาลงเรื่อย ๆ จากเดิม 3 สัปดาห์ เหลือเพียง 5 วัน ขณะที่กฎเกณฑ์ใหม่นี้ที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 8 มกราคมปีหน้า โควิด-19 จะถูกปรับลดระดับจากโรคติดต่อ ชั้นเอ เป็นชั้นบี ซึ่งหมายความว่า การกักตัวจะไม่มีการบังคับใช้อีกต่อไปแล้ว ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีนหากมีผลตรวจเป็นลบ ก็สามารถเข้าประเทศจีนได้ทันที อย่างไรก็ดี ไม่มีการระบุว่าการผ่อนคลายมาตรการนี้จะรวมถึงการเปิดไฟเขียวให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้แล้วหรือไม่ ทั้งนี้ หลังจากทางการจีนได้ดำเนินมาตรการเข้มงวดในการป้องกันแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 แต่ตอนนี้จีนกำลังเผชิญกับการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดในโลก หลังจากผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดดังกล่าวลงอย่างกะทันหัน รายงานการศึกษาหลายชิ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ประเมินว่าจีนอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึงราว 1 ล้านคนได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า […]

1 2 3 4 11
...