ให้รอฟังคำวินิจฉัยศาลรธน.11 มี.ค.
“วิษณุ” ปฏิเสธให้ความเห็นหลังศาลรธน.นัดวินิจฉัยอำนาจรัฐสภาแก้รัฐธรรมนูญ ให้รอฟังศาล 11 มี.ค.นี้
“วิษณุ” ปฏิเสธให้ความเห็นหลังศาลรธน.นัดวินิจฉัยอำนาจรัฐสภาแก้รัฐธรรมนูญ ให้รอฟังศาล 11 มี.ค.นี้
-ผู้นำฝ่ายค้านกังวลท่าทีส.ว.บางส่วนจะไม่ผ่านร่างรธน.วาระ3 เหน็บถ้าสภาแก้รธน.ไม่ได้ จะให้ใครแก้หรือจะรอรัฐประหาร พร้อมรับหลักฐานเอาผิดรมว.ศึกษาเตรียมยื่นป.ป.ช.
ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาอำนาจหน้าที่รัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังขอให้ผู้เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญชี้แจง
กรุงเทพฯ 1 มี.ค.- “คุณหญิงสุดารัตน์” หวั่นประชาชน ผิดหวังกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้ง หลังมีความพยายามยื่นศาล รธน.หยุดการแก้ไข ด้าน “พงศ์เทพ” ระบุ สสร.เลือกตั้ง จะยกร่างได้ดีกว่าปี 60
“ราเมศ” ย้ำมติพรรคประชาธิปัตย์ ผลักดันแก้ รัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3
รัฐสภาถกร่างแก้ รธน.วาระ 2 ไม่ห้ามแม่น้ำ 5 สาย เป็น ส.ส.ร. แต่ยังคงห้ามพระภิกษุสามเณร และให้ ส.ว. มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเหมือนเลือก ส.ส.
“สุทิน” ประธานวิปฝ่ายค้าน เผยไม่ขยายเวลาถกร่างแก้ไข รธน. วาระ2 จะกำชับให้การอภิปรายอยู่ในกรอบ
รัฐสภา 24 ก.พ.- ภูมิใจไทยจับมือฝ่ายค้านวัดพลังพปชร. ขอเลื่อนร่างแก้รธน.ขึ้นมาพิจารณาก่อน หวั่นโดนยื้อ สุดท้ายพ่ายเหตุส.ว.ยืนข้างรัฐบาล ด้านประธานวิปรัฐบาลการันตีพิจารณาวาระ2 ได้ยาวจนปิดสมัยประชุม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้(24 ก.พ.)มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเป็นประธานการประชุม โดยทันทีที่เปิดประชุมนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐเสนอให้เลื่อนวาระการประชุมโดยให้นำร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ซึ่งยังพิจารณาไม่เสร็จขึ้นมาพิจารณาก่อน ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อจากพรรคภูมิใจไทยพร้อมด้วยส.ส.พรรคภูมิใจไทยต่างลุกขึ้นยืนยันว่าควรพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามวาระก่อน และเป็นที่สังเกตว่าวันนี้ส.ส.พรรคภูมิใจไทยมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อยืนยันให้เป็นไปตามระเบียบวาระ ขณะที่นายชวน กล่าวว่าในการหารือกันภายนอกได้มีการตกลงกัน 3 ฝ่ายคือฝ่ายค้าน รัฐบาลและทางสภา เห็นตรงกันว่าวาระเรื่องด่วนค้างมาจากครั้งที่แล้วและจะใช้เวลาพิจารณา 5 ชั่วโมง ครั้งที่แล้วใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง 37 นาทีดังนั้นหากเป็นไปได้คิดว่าจะใช้เวลาไม่นานนัก มีผู้อภิปรายที่ค้างอยู่ 15 คน หากผ่านไปได้จะได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาในช่วงปิดสมัยประชุมจากนั้นจะเป็นร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยนวัตกรรมซึ่งเชื่อว่าไม่เสียเวลามากนัก และจะกลับไปสู่การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ คลิปจากพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่าไม่ทราบรายละเอียดในการหารือกันของ 3ฝ่าย แต่ขอให้ลงมติจะดีกว่า ทำให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าสิ่งที่ได้ตกลงกันในวันนั้นประธานเรียกเร่งด่วน ดังนั้นในส่วนของฝ่ายรัฐบาลมีตนและนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ […]
“สุทิน” ติดใจบรรยากาศแก้ รธน. เปรียบเหมือนไก่ ไม่รู้ถูกเชือดเมื่อไหร่ อัดรัฐบาลไม่จริงใจอยากแก้รายมาตรา
วิปฝ่ายค้านทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญวอนฟังความเห็นเพิ่มเติมจากฝ่ายอื่นก่อนวินิจฉัยร่างแก้รธน. ห่วงตัดสินทางลบทำสังคมระแวง สถานการณ์บานปลาย พร้อมเดินหน้าค้านใช้โหวตเสียง 2 ใน 3 แก้รธน.
ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง ขอวินิจฉัยว่ารัฐสภามีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่ พร้อมให้ผู้เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2560 แจงเพื่อประกอบการพิจารณา
พรรคประชาธิปัตย์ 10 ก.พ.-“ปชป.”ย้ำไม่เห็นด้วย “พปชร.”ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความแก้รัฐธรรมนูญ ชี้ร่างของส.ส.มีความชอบธรรมแล้ว และกระบวนการในสภายังเดินหน้าต่อ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกรัฐสภา 366 เสียง ได้ลงมติให้ส่งร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยความชอบว่ารัฐสภามีสิทธิแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ ส.ส. ของพรรคได้ลงชื่อไปนั้นมีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และกระบวนการตรวจสอบโดยกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ถึงเวลา เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดให้สามารถตรวจสอบได้หลังจากผ่านวาระที่ 3 จึงเป็นเหตุผลที่พรรคมีจุดยืนมาโดยตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับญัตติของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่จะให้มีการส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพราะสังคมจะเคลือบแคลงสงสัยได้ว่ามีกระบวนการที่ทำให้ทอดช่วงเวลาในการแก้รัฐธรรมนูญออกไปอีก “แต่เมื่อขณะนี้เรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ต้องให้ความเคารพศาล เมื่อศาลมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางใดพรรคน้อมรับ ส่วนร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการและกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่3 ก็ต้องว่ากันตามกระบวนการ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งหรือคำวินิจฉัยออกมา ทั้งนี้พรรคได้ดำเนินการในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้นอย่างเต็มที่”.- สำนักข่าวไทย