เทคโนโลยี

บรัสเซลส์ 15 ธ.ค.- แหล่งข่าวเผยว่า ร่างกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ที่จะเปิดเผยในวันนี้ อาจทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ต้องเผชิญกับค่าปรับจำนวนมหาศาล หรือถูกแบนจากตลาด หากกระทำการละเมิดกฎ คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปกำลังเตรียมเสนอร่างกฎหมายบริการดิจิทัล และกฎหมายตลาดดิจิทัล เพื่อกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตที่ทำธุรกิจใน 27 ชาติสมาชิกอียู แหล่งข่าวในอียูเปิดเผยว่า บริษัทไฮเทคอาจถูกปรับสูงสุดถึงร้อยละ 10 ของรายได้ หากกระทำผิดระเบียบด้านการแข่งขัน และบริษัทใหญ่ที่สุดในโลกบางแห่งอาจถูกแบนจากตลาดอียู หากละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรงและซ้ำซาก จนเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของพลเมืองยุโรป ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งอาจปฏิวัติวิธีการทำธุรกิจของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนไลยี มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับคำพูดที่แสดงความเกลียดชัง และการบิดเบือนข้อมูลออนไลน์ รวมทั้งยับยั้งไม่ให้บริษัทชั้นนำผูกขาดตลาด บริษัทใหญ่ๆ จะถูกกำหนดให้เป็น “ผู้เฝ้าประตู” หรือ เกตคีปเปอร์ ทางอินเทอร์เน็ต และต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับเฉพาะ เพื่อจำกัดการมีอำนาจเหนือตลาด ข้อกำหนดนี้จะครอบคลุมบริษัทยักษ์ใหญ่นับสิบแห่ง อาทิ กูเกิล เฟซบุ๊ก แอปเปิล แอมะซอน และไมโครซอฟท์ จุดประสงค์หลักของร่างกฎหมายใหม่นี้ต้องการปรับปรุงกฎหมายเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2547 ในสมัยที่บริษัทยักษ์ใหญ่ทางอินเทอร์เน็ตหลายแห่งในปัจจุบันยังไม่มีตัวตน หรือเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลจีนสั่งปรับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในประเทศ 2 ราย โดยกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด

สิงคโปร์ 12 พ.ย. – ทางการสิงคโปร์ประกาศจะอนุมัติวีซ่าทำงานประเภทใหม่ให้แก่ผู้บริหารชาวต่างประเทศที่ทำงานในบริษัทเทคโนโลยี เพื่อช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต ทางการสิงคโปร์เตรียมเปิดตัวโครงการเทคพาส (Tech.Pass) ในเดือนมกราคมปีหน้า โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 500 คนสมัครยื่นขอวีซ่าอายุ 2 ปี ซึ่งจะทำให้สามารถพำนักในสิงคโปร์เพื่อดำเนินธุรกิจ ลงทุนทางธุรกิจ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท และเป็นที่ปรึกษาให้แก่บริษัทสตาร์ทอัพได้ นายชาน ชุนซิง รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้มีพรสวรรค์ด้านเทคโนโลยีในสิงคโปร์ได้อย่างมากมาย และสร้างแรงส่งที่จะช่วยเสริมสร้างสถานภาพของสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีชั้นนำของภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผู้ที่ต้องการยื่นขอวีซ่าดังกล่าวต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น เคยได้รับเงินเดือนอย่างน้อย 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (449,120 บาท) มีประสบการณ์ทำงาน 5 ปีจากตำแหน่งระดับสูงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หรือมีประสบการณ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จ การเปิดตัวโครงการเทคพาสมีขึ้นในขณะที่ตัวเลขผู้ว่างงานในสิงคโปร์พุ่งสูงสุดในรอบ 16 ปี เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้ชาวสิงคโปร์กลัวว่าจะต้องเผชิญการแข่งขันจากชาวต่างชาติ ทางการสิงคโปร์ได้เพิ่มมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้บริษัทต่าง ๆ เลิกจ้างพนักงานต่างชาติก่อนพนักงานท้องถิ่น แต่ก็ต้องเปิดกว้างให้แก่ชาวต่างชาติที่มีความสามารถด้วย. – สำนักข่าวไทย

จีนผ่านกฎหมายฉบับใหม่ที่มีระเบียบเข้มงวดเรื่องการส่งออกสินค้าที่มีความอ่อนไหวเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มเครื่องมือทางนโยบายในการรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีที่ นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ