ผู้นำไต้หวันโต้หลัง “สี จิ้นผิง” พูดเรื่องรวมชาติ
ไทเป 1 ม.ค.- ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวันชี้ว่า ความสัมพันธ์กับจีนต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน และสันติภาพต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความมีเกียรติ หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนกล่าวว่า การรวมชาติกับไต้หวันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ประธานาธิบดีไช่ตอบข้อถามเรื่องประธานาธิบดีสีกล่าวสุนทรพจน์ในวันส่งท้ายปีเก่าที่มีน้ำเสียงแข็งกร้าวกว่าปีก่อนหน้าที่กล่าวเพียงว่าจีนและไต้หวันเป็นคนในครอบครัวเดียวกันว่า ประชาธิปไตยคือหลักการสำคัญที่สุดว่าไต้หวันจะดำเนินการเรื่องความสัมพันธ์กับจีนอย่างไร เป็นการตัดสินใจโดยคำนึงถึงเจตนารมณ์ร่วมกันของประชาชนชาวไต้หวัน เพราะไต้หวันเป็นประเทศประชาธิปไตย จีนควรเคารพผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกสภาของไต้หวันที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 มกราคม และทั้ง 2 ฝ่ายมีหน้าที่รับผิดชอบในการคงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ประธานาธิบดีไช่ วัย 67 ปี ซึ่งไม่สามารถลงเลือกตั้งเนื่องจากดำรงตำแหน่งมา 2 สมัยติดต่อกันตั้งแต่ปี 2559 กล่าวด้วยว่า ทุกบ้านล็อคกุญแจ ไม่ใช่เพื่อยั่วยุเพื่อนบ้าน แต่เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันประเทศชาติ ประชาชนชาวไต้หวันต้องการสันติภาพ และเป็นสันติภาพที่ได้รับการให้เกียรติ นางไช่จะลงจากตำแหน่งเมื่อประธานาธิบดีคนใหม่สาบานตนรับตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือดีพีพี (DPP) ที่เป็นพรรคเดียวกันกับเธอ และผู้สมัครจากพรรคก๊กมินตั๋งที่เป็นฝ่ายค้านประกาศไว้ว่า ชาวไต้หวันเท่านั้นที่จะสามารถตัดสินอนาคตของตนเอง.-814.-สำนักข่าวไทย