เบเอรี 5 ต.ค.- ชาวอิสราเอลในนิคมการเกษตรหรือคิบบุตซ์ ที่ถูกกลุ่มฮามาสข้ามพรมแดนจากกาซาเข้ามาสังหารผู้คนและทำลายบ้านเรือนเสียหาย อันเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในกาซาที่ดำเนินมาจนถึงขณะนี้ เริ่มการฟื้นฟูชุมชนเพื่อกลับมาอยู่อาศัยอีกครั้ง คิบบุตซ์เบเอรี (Be’eri) เป็นชุมชนที่สงบเงียบ บ้านเรือนส่วนใหญ่มุงหลังคาสีแดงเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ตั้งอยู่ห่างจากฉนวนกาซาเพียง 5 กิโลเมตร จึงมีชาวกาซาเข้ามาเป็นแรงงานภาคการเกษตร แต่แล้วคิบบุตซ์แห่งนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อกลุ่มฮามาสก่อเหตุสะเทือนขวัญคนทั้งโลกเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ด้วยการบุกเข้ามาสังหารผู้คนอย่างไม่เลือกหน้า ลักพาตัวคน และเผาบ้านเรือนตามคิบบุตซ์ต่าง ๆ เฉพาะคิบบุตซ์เบเอรีที่ฮามาสบุกเข้ามาเป็นแห่งแรก ๆ มีคนถูกสังหารประมาณ 100 คน จากที่อาศัยอยู่ทั้งหมด 1,000 คน และมีคนถูกลักพาตัว 10 คน กองทัพอิสราเอลเผยว่า สังหารสมาชิกฮามาสมากถึง 100 คนเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ชาวเบเอรีที่รอดชีวิตย้ายไปพำนักชั่วคราวในคิบบุตซ์ที่อยู่ห่างออกไป 29 กิโลเมตร โดยมีความตั้งใจที่จะกลับมาฟื้นฟูชุมชนของพวกเขา โดยได้เริ่มมีการรื้อถอนบ้านเรือนที่เสียหายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจะหาทางระดมเงินสนับสุนนเพื่อนำมาสมทบกับเงินที่รัฐบาลจัดสรรมาให้สร้างบ้านใหม่ เบเอรีถูกตั้งขึ้นในปี 2489 เพื่อเป็นนิคมการเกษตร รายได้หลักในปัจจุบันมาจากโรงพิมพ์ที่มีอยู่ 1 แห่ง เกษตรกรในคิบบุตซ์พยายามฟื้นฟูพืชผลที่เหลืออยู่เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อีกครั้ง.-814.-สำนักข่าวไทย