หนีออกจากบ้าน

สำนักข่าวไทย 9 เม.ย.-อธิบดีกรมกิจการเด็ก เผยข้อสรุปการหารือระหว่างพ่อแม่เด็กลูกครึ่งไทย-สวิตฯ เด็กจะเลือกอยู่กับใครขึ้นอยู่กับความต้องการของเด็ก แต่แพทย์ขอประเมินบุคคลแวดล้อมเด็กก่อนส่งตัวคืน คาดก่อนเปิดเทอมนี้ นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยถึงกรณีการหารือร่วมกับพ่อและแม่เด็ก 2 พี่น้องลูกครึ่งไทยสวิตเซอร์แลนด์ หลังเด็กทั้งคู่หนีออกจากบ้านย่านรามคำแหง โดยอ้างว่าถูกแม่ทำร้ายร่างกายและร้องขอไปอยู่กับพ่อที่ต่างประเทศ ว่า เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ แพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาและตำรวจ ได้ร่วมเก็บข้อมูลพูดคุยกับพ่อแม่และเด็กลูกครึ่งทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นการพูดคุยกัน  โดยไม่ได้ให้ทั้ง 3 คน มาเผชิญหน้ากัน ได้ข้อสรุปว่าเด็กสามารถอยู่กับพ่อหรือแม่ได้ ตามความต้องการของเด็ก โดยคำนึงถึงประโยชน์ของเด็กเป็นสำคัญ  อย่างไรก็ตามแพทย์ขอประเมินบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเด็กทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งพ่อ แม่ ตาและยายของเด็กว่ามีความเหมาะสมในการดูแลเด็กหรือไม่ ซึ่งแพทย์กำหนดกรอบเวลาจะประเมินให้เสร็จโดยเร็วที่สุดในช่วงก่อนเปิดเทอมนี้  ในระหว่างนี้เด็กจะต้องอยู่ในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไปก่อน ส่วนการแบ่งเวลาในการจะอยู่กับพ่อหรือแม่มากกว่ากันนั้น  ขึ้นอยู่กับความต้องการของเด็กเป็นตัวตั้งอย่างเดียว ซึ่งขณะนี้เด็กทั้งคู่ก็มีสภาพจิตใจดี.-สำนักข่าวไทย

เลื่อนการเจรจาปมเลี้ยงดูลูก 2 คนที่หนีออกจากบ้านย่านรามคำแหง หลังอ้างถูกแม่ทำร้าย เบื้องต้นคาด 10 เม.ย.นี้ ได้หารือกัน

สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ห่วงการนำเสนอข่าว เด็ก 14 ปี ถูกล่อลวง หลังประเด็นการนำเสนอเปลี่ยน เกรงกระทบอนาคตเด็ก

จิตแพทย์ แนะพ่อแม่เข้าใจธรรมชาติเด็กวัยรุ่น กรณี14ปีหนีไปเชียงใหม่ พ่อแม่รุ่นใหม่ต้องหมั่นสังเกต และสอนลูกรู้จักปฏิเสธ แม้คนสนิทไว้ใจ หากชวนในทางที่ไม่ควร