วอชิงตัน 9 ต.ค.- ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลที่ดำเนินมาตั้งแต่วันเสาร์อาจกระทบต่อความพยายามของสหรัฐที่ดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเงียบ ๆ กับอิหร่าน ทั้งนี้หลังจากที่อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนีอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านประกาศตัวสนับสนุนกลุ่มฮามาสอย่างเปิดเผย และยกย่องการโจมตีที่สร้างความเสียหายหนักให้แก่อิสราเอล นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวส์ (NBC News) ว่า สหรัฐไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า อิหร่านเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีอิสราเอลโดยตรง ทั้งการวางแผนหรือการลงมือ แต่กลุ่มฮามาสจะไม่ใช่กลุ่มฮามาสหากไม่ได้รับการสนับสนุนที่เคยได้รับจากอิหร่านมาหลายปี ที่ผ่านมารัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีการเจรจากับเจ้าหน้าที่อิหร่านหลายครั้ง ส่วนใหญ่ไม่ปรากฏเป็นข่าวในรัฐริมอ่าวอาหรับหรืออ่าวเปอร์เซีย และเมื่อเดือนกันยายนสหรัฐได้ทำข้อตกลงให้อิหร่านปล่อยตัวชาวอเมริกัน 5 คน แลกกับการโอนเงินจากการค้าน้ำมันของอิหร่านที่ถูกอายัดในเกาหลีใต้จำนวน 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 222,618 ล้านบาท) ไปยังบัญชีในกาตาร์ เจค ซัลลิเวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของไบเดนเผยเมื่อวันที่ 27 กันยายนว่า เหตุโจมตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านได้ยุติลงชั่วขณะในอิรัก เช่นเดียวกับสงครามกลางเมืองในเยเมนที่อิหร่านสนับสนุนกลุ่มฮูธีก็สงบศึกชั่วคราว สถานการณ์ในตะวันออกกลางเงียบสงบกว่าเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน แต่โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังคงเป็นประเด็นเรื้อรังอยู่.-สำนักข่าวไทย