นายกฯ หารือประธานคณะมนตรียุโรป
นายกฯ หารือประธานคณะมนตรียุโรป ส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง รวมทั้งความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
นายกฯ หารือประธานคณะมนตรียุโรป ส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง รวมทั้งความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม พร้อมร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีภารกิจสำคัญในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป ที่ประเทศเบลเยียม
นายกฯ เตรียมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ที่ราชอาณาจักรเบลเยียม เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือ ภายใต้กรอบ 3 ด้าน มั่นคง เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ มีกำหนดการหารือทวิภาคีกับคณะผู้บริหารสหภาพยุโรป และผู้นำจากหลายประเทศของยุโรป มุ่งกระชับความสัมพันธ์ ส่งเสริมความร่วมมือที่ยั่งยืนและครอบคลุมทุกมิติ
เคียฟ 3 ต.ค. – บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู 9 ประเทศในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ลงนามในแถลงการณ์ร่วมเพื่อสนับสนุนให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต บรรดาผู้นำของสาธารณรัฐเช็ก เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย นอร์ทมาซิโดเนีย มอนเตเนโกร โปแลนด์ โรมาเนีย และสโลวาเกีย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกของอียูและนาโต ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมกันที่ระบุว่า บรรดาผู้นำของทั้ง 9 ประเทศขอสนับสนุนการตัดสินใจพิจารณารับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกของนาโต ในงานประชุมสุดยอดบูคาเรสต์ปี 2551 ทั้งยังประกาศว่า ชทั้ง 9 ประเทศไม่มีวันยอมรับการผนวกดินแดนใดๆ ก็ตามของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และขอให้ประเทศสมาชิกของอียูและนาโตเร่งให้ความช่วยเหลือด้านทหารแก่ยูเครนในทันที ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อช่วงคืนวันอาทิตย์ว่า เขารู้สึกยินดีต่อแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวของบรรดาผู้นำทั้ง 9 ประเทศ และหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของนาโต ก่อนหน้านี้ผู้นำยูเครนได้ประกาศสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโตเมื่อวันเสาร์ แม้มีผู้เชี่ยวชาญหลายรายออกมาเตือนว่ายูเครนอาจจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เนื่องจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของยูเครนจะต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกทั้งหมดของนาโต 30 ประเทศ. -สำนักข่าวไทย
บรัสเซลส์ 28 ก.ย. – สหภาพยุโรป หรืออียู ระบุว่า เหตุท่อก๊าซรั่วครั้งใหญ่ 2 จุดในโครงการท่อส่งก๊าซจากรัสเซียมายังทวีปยุโรปมีสาเหตุมาจากการก่อวินาศกรรม แต่ไม่ได้กล่าวหาว่ารัสเซียเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวโดยตรง นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการของอียู กล่าวว่า เหตุท่อก๊าซรั่วครั้งใหญ่ 2 จุดในโครงการท่อส่งก๊าซจากรัสเซียมายังทวีปยุโรปมีสาเหตุมาจากการก่อวินาศกรรม แต่ไม่ได้กล่าวหาว่ารัสเซียเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวโดยตรง ทั้งยังระบุว่า อียูอาจจะตอบโต้อย่างรุนแรงที่สุดต่อเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นโดยเจตนา ขณะที่นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า เหตุวินาศกรรมที่โครงการนอร์ดสตรีมของรัสเซียดูเหมือนเป็นความพยายามเดินหน้าทำลายความมั่นคงด้านพลังงานของอียู ในขณะเดียวกัน นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุว่า เขาคิดว่าเหตุก๊าซรั่วดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความยืดหยุ่นด้านพลังงานของอียู เนื่องจากท่อส่งก๊าซเหล่านี้ถูกปิดใช้งาน แม้ยังคงมีก๊าซอยู่ในท่อก็ตาม นายบลิงเคนยังกล่าวว่า แม้มีผู้จงใจก่อเหตุในครั้งนี้ แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดได้ประโยชน์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ได้กล่าวหาว่ารัสเซียเป็นผู้ก่อเหตุโดยตรง ก่อนหน้านี้ ผู้ควบคุมโครงการนอร์ดสตรีม 2 แจ้งว่า เกิดเหตุท่อก๊าซรั่วในน่านน้ำเดนมาร์กเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น จนทำให้ทางการเดนมาร์กต้องประกาศเตือนให้เรือบรรทุกสินค้าเลี่ยงเดินทางเข้าใกล้จุดก๊าซรั่วที่ตั้งอยู่ใกล้เกาะบอร์นโฮล์ม ทางทิศตะวันออกของเดนมาร์กและทางตอนใต้ของสวีเดน ขณะที่ทางการสวีเดนเตือนว่า เกิดเหตุก๊าซรั่ว 2 จุดในโครงการนอร์ดสตรีม 1 ไม่นานหลังเกิดเหตุเกิดที่นอร์ดสตรีม 2 ด้านนอร์ดสตรีม […]
ปราก 30 ส.ค. – เยอรมนีและฝรั่งเศสเตือนเรื่องคำสั่งแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซียของสหภาพยุโรป หรืออียู โดยระบุร่วมกันว่า แนวทางดังกล่าว ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากคณะกรรมการของอียู จะให้ผลลัพธ์ตรงข้ามกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ก่อนที่อียูจะเปิดฉากการประชุมคณะรัฐมนตรีของอียูในวันพุธและพฤหัสบดี สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การสั่งแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซียจะกลายเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของอียู ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่กรุงปรากของสาธารณรัฐเช็กในวันพุธและพฤหัสบดี โดยที่การประชุมในครั้งนี้จะหารือเกี่ยวกับการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่มมากขึ้นในขณะที่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนมาเป็นเวลากว่า 6 เดือน สำนักข่าวรอยเตอร์สยังรายงานอ้างเอกสารบันทึกข้อความของฝรั่งเศสและเยอรมนีที่ระบุว่า ทั้งสองประเทศขอเตือนเรื่องการใช้คำสั่งแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซียของอียู เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจลุกลามมากขึ้นต่อไปในอนาคต นโยบายด้านวีซ่าของอียูควรสะท้อนให้เห็นถึงสังคมที่สนับสนุนประชาธิปไตย และอนุญาตให้ประชาชนรัสเซียที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียได้มีโอกาสติดต่อกับประชาชนของอียู นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีกลาโหมของอียูจะประชุมร่วมกันในกรุงปรากของสาธารณรัฐเช็กด้วย และมีแนวโน้มว่าจะเห็นพ้องกับหลักการจัดภารกิจฝึกทหารร่วมกับกองทัพยูเครน.-สำนักข่าวไทย
กรีซหลุดพ้นจากมาตรการตรวจสอบเข้มงวดทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ที่ใช้มา 12 ปีแล้ว จากนี้จะกำหนดนโยบายเองได้อย่างมีอิสระมากขึ้น
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงทางโทรทัศน์เมื่อคืนนี้ว่า ยูเครนจะเพิ่มการขายกระแสไฟฟ้าให้กับสหภาพยุโรป
ปารีส 25 ก.ค. – สมาพันธ์สหภาพแรงงานแห่งยุโรป หรืออีทียูซี เรียกร้องให้สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศใช้ข้อจำกัดอุณหภูมิสูงสุดในกลุ่มแรงงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง หลังแรงงาน 3 คนเสียชีวิตขณะทำงานกลางแจ้งในสเปนเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ยุโรปเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรง รองเลขาธิการอีทียูซี เรียกร้องให้อียูประกาศใช้ข้อจำกัดอุณหภูมิสูงสุดในกลุ่มแรงงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง โดยระบุว่า แรงงานกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทุกวัน และต้องได้รับการคุ้มครองจากอันตรายที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ประเทศส่วนใหญ่ของอียูยังไม่ประกาศใช้ข้อกำหนดดังกล่าวในกลุ่มแรงงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง แต่เบลเยียม ฮังการี และลัตเวีย ได้ประกาศใช้ข้อกำหนดบางส่วนเกี่ยวกับประเด็นนี้แล้ว อีทียูซีระบุด้วยว่า ฝรั่งเศส ซึ่งยังไม่ได้ประกาศใช้ข้อจำกัดอุณหภูมิในกลุ่มแรงงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง พบแรงงานเสียชีวิตมากถึง 12 คนจากปัญหาคลื่นความร้อนในปี 2563 ก่อนหน้านี้ สเปน ซึ่งมีการใช้ข้อจำกัดอุณหภูมิในกลุ่มแรงงานบางส่วน พบแรงงาน 3 คนเสียชีวิตในช่วงที่เผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน เช่น พนักงานกวาดถนน วัย 60 ปี ที่เสียชีวิตในกรุงมาดริดเมื่อวันเสาร์ หลังมีอาการหมดสติจากโรคลมแดดขณะทำงานในวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงที่สเปนมีอุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส อีกรายเป็นพนักงานคลังสินค้า วัย 56 ปี ในย่านชานเมืองของกรุงมาดริด ที่เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์เช่นกัน หลังป่วยเป็นโรคลมแดดในขณะทำงาน ทั้งนี้ ผลสำรวจของยูโรฟาวด์ […]
บรัสเซลส์ 11 ก.ค. – ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหภาพยุโรป หรืออีซีดีซี และองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป หรืออีเอ็มเอ ประกาศคำแนะนำให้กลุ่มประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้นเข็มที่สอง หลังสหภาพยุโรป หรืออียู พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่และผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น นางสเตลลา ไคริอาคิเดส กรรมาธิการด้านสุขภาพและความปลอดภัยอาหารของสหภาพยุโรป ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคนและกลุ่มเปราะบางทุกคนจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นเข็มที่สองโดยเร็วที่สุด ขณะที่ พญ. แอนเดรีย แอมมอน ผู้อำนวยการของอีซีดีซี ระบุว่า ขณะนี้พบอัตราผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นและแนวโน้มผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผู้ป่วยติดเชื้อในแผนกผู้ป่วยหนักในหลายประเทศของอียู ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 ก่อนหน้านี้ โมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบออนเทค ระบุว่า ได้ปรับปรุงวัคซีนให้มีประสิทธิภาพต้านทานเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 และสายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่พบว่าวัคซีนเวอร์ชั่นล่าสุดกลับมีประสิทธิภาพลดลงในการต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ส่วนอีเอ็มเอ ซึ่งกำลังพิจารณาวัคซีนโควิด 2 ขนานที่พัฒนาขึ้นเพื่อต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 คาดว่าจะอนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าวได้ภายในเดือนกันยายนนี้. -สำนักข่าวไทย