สถานการณ์ฉุกเฉิน

กีโต 14 ม.ค.- สำนักงานเรือนจำของเอกวาดอร์แจ้งว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำที่ถูกผู้ต้องขังควบคุมตัวไว้ตามเรือนจำหลายแห่งในช่วงที่สถานการณ์ความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ได้รับการช่วยเหลือครบหมดทุกคนแล้วภายในค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนหน้านี้สำนักงานเรือนจำแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 158 นาย และเจ้าหน้าที่ธุรการ 20 คน ในเรือนจำอย่างน้อย 7 แห่งถูกผู้ต้องขังควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม สำนักงานเรือนจำแถลงเมื่อวานนี้ว่า จะดำเนินการสอบสวนหาผู้อยู่เบื้องหลังการจับเจ้าหน้าที่เป็นตัวประกัน และว่าในวันเดียวกันเกิดเหตุยิงปะทะกับผู้ต้องขังที่เรือนจำแห่งหนึ่ง มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกสังหาร 1 นาย ด้านประธานาธิบดีแดเนียล โนโบอาโพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีกับสำนักงานเรือนจำ ตำรวจ และกองทัพที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ได้สำเร็จ เอกวาดอร์กำลังเผชิญกับวิกฤตด้านความมั่นคงที่เลวร้ายลงอีก เมื่อเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกห้องส่งสถานีโทรทัศน์ขณะที่กำลังออกอากาศเมื่อวันที่ 9 มกราคม เกิดเหตุระเบิดป่วนเมืองในหลายเมือง และมีการลักพาตัวตำรวจ ทหารและตำรวจเอกวาดอร์ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรทั่วประเทศ มีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 1,000 คนนับตั้งแต่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 8 มกราคม.-814.-สำนักข่าวไทย

กีโต 12 ม.ค.- เอกวาดอร์เดินหน้ากวาดล้างแก๊งอาชญากรทั่วประเทศ หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 60 วัน  ขณะที่เปรูออกมาตรการคุมเข้มพรมแดนเพื่อเตรียมรับมือกับการเนรเทศนักโทษจากเอกวาดอร์ ตำรวจและทหารเอกวาดอร์สนธิกำลังปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งอาชญากรทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวสมาชิกแก๊งอาชญากร 14 คนที่จับกุมได้จากปฏิบัติการ 3 ครั้งในช่วงไม่กี่วันมานี้ มาแถลงข่าว นอกจากนี้ยังสามารถยึดอาวุธได้อีกหลายรายการ ปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรครั้งใหญ่มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีแดเนียล โนโบอา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วันเมื่อวันที่ 8 มกราคม จากนั้นในวันถัดมาได้ประกาศขึ้นบัญชีแก๊งอาชญากร 22 แก๊งเป็นองค์กรก่อการร้าย เพื่อเปิดทางให้กองทัพเข้ามาร่วมปราบปราม เนื่องจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงจากแก๊งอาชญากรบ่อยครั้ง ทั้งการหลบหนีออกจากเรือจำของนักโทษคนสำคัญ  การก่อจลาจลในเรือนจำหลายแห่งที่มีการจับผู้คุมและเจ้าหน้าที่ 180 คนเป็นตัวประกัน และล่าสุดกลุ่มมือปืนบุกยึดห้องส่งสถานีโทรทัศน์ขณะกำลังออกอากาศรายการสดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่เปรูซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเอกวาดอร์ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 9 มกราคม มีการเสริมกำลังทหารตามแนวพรมแดนทางเหนือที่ติดกับเอกวาดอร์ ส่งตำรวจลาดตระเวนและประจำการตำรวจที่ด่านข้ามพรมแดน เนื่องจากทั้งเปรูและเอกวาดอร์มีแผนจะเนรเทศนักโทษที่เป็นชาวต่างชาติออกนอกประเทศ  ผู้นำเอกวาดอร์ประกาศเมื่อวันที่ 10 มกราคมว่า จะเริ่มเนรเทศนักโทษเหล่านี้เพื่อลดความแออัดในเรือนจำและลดค่าใช้จ่าย ปัจจุบันมีนักโทษชาวต่างชาติอยู่ในเรือนจำเอกวาดอร์หลายพันคน  ส่วนใหญ่เป็นชาวโคลอมเบีย ตามมาด้วยเปรูและเวเนซุเอลา.-816(814).-สำนักข่าวไทย

พอร์ตมอร์สบี 11 ม.ค.- ปาปัวนิวกินี ประเทศบนเกาะนิวกินีที่อยู่ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังจากเกิดความวุ่นวายจนเกิดจลาจลปล้นชิงข้าวของ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 คน สาเหตุของจลาจลเกิดจากการประท้วงของตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ ซึ่งไม่พอใจที่ถูกตัดลดค่าตอบแทน โดยได้ไปรวมตัวกันที่ด้านหน้าอาคารรัฐสภาในกรุงพอร์ตมอร์สบี จากนั้นมีผู้ฉวยโอกาสปล้นชิงข้าวของตามร้านค้า บางแห่งถูกจุดไฟเผาด้วย รัฐบาลจึงรับมือด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและสั่งการให้กองทัพเข้าควบคุมสถานการณ์ จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 15 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงพอร์ตมอร์สบี และอีกจำนวนหนี่งที่เมืองเล   นายกรัฐมนตรีเจมส์ มาราเปได้ชี้แจงเรื่องการตัดลดค่าตอบแทนว่า สาเหตุที่ค่าตอบแทนลดลงไปราว 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 3,500 บาท เป็นเพราะระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้อง ส่วนที่ผู้ประท้วงบางคนกล่าวหาว่า รัฐบาลกำลังเพิ่มภาษีนั้นไม่เป็นความจริง เขาโต้ว่า มีการปล่อยข่าวเท็จทางสื่อโซเชียลและตำหนิผู้ฉวยโอกาสปล้นชิงข้าวของ พร้อมกับย้ำด้วยว่ารัฐบาลจะไม่อ่อนข้อให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐที่ไร้วินัย นายกรัฐมนตรีของปาปัวนิวกินี กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ อัตราเงินเฟ้อและ การว่างงานพุ่งสูง ขณะที่ฝ่ายค้านกำลังหาทางเปิดการลงมติไม่ไว้วางใจ จึงเป็นส่วนหนี่งที่ทำให้ชาวปาปัวนิวกินีร่วมการประท้วงและก่อจลาจล.-812(814).-สำนักข่าวไทย

กลุ่มมือปืนหลายคนบุกเข้าไปถึงห้องส่งสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งในประเทศเอกวาดอร์ ขณะที่กำลังมีรายการสด ทำเอาผู้ประกาศและเจ้าหน้าที่ในห้องส่งแตกตื่นตกใจกันยกใหญ่

เอกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วัน และเคอร์ฟิวในเวลากลางคืนทั่วประเทศ หลังจากนักโทษระดับหัวหน้าแก๊งอาชญากรหายตัวไปจากเรือนจำในเมืองกัวยากิล

เรคยาวิก 12 พ.ย.- ไอซ์แลนด์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมสั่งอพยพคนในเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ หลังพบแรงสั่นสะเทือนใต้พื้นดินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เสี่ยงทำให้ภูเขาไฟในพื้นที่ปะทุใหญ่ สำนักงานคุ้มครองพลเรือนของรัฐบาลไอซ์แลนด์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศ หลังจากตรวจพบแรงสั่นสะเทือนรุนแรงหลายพันครั้ง บริเวณโดยรอบภูเขาไฟฟากราดัลส์ฟยาลล์ (Fagradalsfjall) ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้อุโมงค์แมกมาและหินหลอมเหลวจำนวนมากใต้เปลือกโลกขยายตัวขึ้นมาอยู่ใต้ภูเขาไฟ โดยล่าสุดอยู่ลึกจากพื้นดินลงไปเพียง 800 เมตรเท่านั้น เสี่ยงที่จะผลักดันให้ภูเขาไฟปะทุขึ้น สำนักงานฯ สั่งคนหลายพันคนในเมืองกรินดาวิก (Grindavik) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอพยพออกนอกพื้นที่เพื่อความปลอดภัย เพราะความเสี่ยงที่ภูเขาไฟจะปะทุได้เพิ่มขึ้นมากในช่วงเช้าวันนี้ และอาจเกิดการระเบิดได้ทุกเมื่อในช่วง 2-3 วันข้างหน้า ขณะเดียวกันแรงสั่นสะเทือนใต้พิภพที่เกิดขึ้นต่อเนื่องช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้เมืองกรินดาวิกเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ทั้งแผ่นดินแยก ถนนแตกร้าว ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีกลุ่มภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิทอยู่มากที่สุดในโลก คือกว่า 30 ลูก และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพิ่งเกิดการปะทุของภูเขาไฟลิตลี-ฮรูตู ที่อยู่บริเวณเดียวกันภูเขาไฟฟากราดาลสฟยาลล์ จนมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

บราซิเลีย 3 ต.ค.- โลมาน้ำจืดมากกว่า 100 ตัวตายในบราซิลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อาจมีโลมาตายเพิ่มอีก หากอุณหภูมิน้ำยังคงสูงต่อเนื่อง สถาบันมามีเราอา (Mamiraua Institute) กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของบราซิลแจ้งว่า พบโลมาตายอีก 2 ตัวเมื่อวันจันทร์ในพื้นที่รอบทะเลสาบเตเฟ ซึ่งมีความสำคัญต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์น้ำในพื้นที่ พร้อมกับเผยแพร่คลิปฝูงแร้งกำลังจิกกินซากโลมาริมทะเลสาบ สถาบันฯ เผยว่า มีโลมาน้ำจืดอาศัยอยู่ในทะเลสาบเตเฟประมาณ 1,400 ตัว และได้ตายไปแล้ว 120 ตัวใน 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 5-10 ของประชากรโลมาทั้งหมด สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีปลาจำนวนมากตายเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า อุณหภูมิน้ำที่สูงขึ้นน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สัตว์ในทะเลสาบตาย โดยได้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียสมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ด้านสถาบันชีโก เมนเดสเพื่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของรัฐบาลบราซิลเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ได้ส่งทีมสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมไปสอบสวนหาสาเหตุแล้ว ผู้ว่าการรัฐอามาโซนัส ทางตะวันตกเฉียงเหนือของบราซิล ซึ่งเป็นที่ตั้งของทะเลสาบเตเฟ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภัยแล้งเมื่อวันศุกร์ ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองเตเฟที่มีประชากร 60,000 คน เผยว่า ไม่สามารถนำอาหารไปยังชุมชนที่ถูกตัดขาดได้  เนื่องจากแม่น้ำหลายสายซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมเหือดแห้ง.-สำนักข่าวไทย

คะโลนา 20 ส.ค.- รัฐบริติชโคลัมเบีย ทางตะวันตกสุดของแคนาดาขอให้ประชาชนฟังคำเตือนและอพยพในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากไฟป่าเสี่ยงเป็นอันตรายต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ในหุบเขาโอคานากัน โดยเฉพาะเมืองคะโลนา เจ้าหน้าที่เหตุฉุกเฉินของรัฐแจ้งว่า สถานการณ์ในเมืองคะโลนาที่ขึ้นชื่อเรื่องการล่องเรือและเดินป่ามีความผันผวนอย่างยิ่ง ประชาชน 30,000 คนได้รับคำสั่งให้อพยพ และอีก 36,000 คนได้รับแจ้งเตือนให้พร้อมอพยพ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามเพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ไม่ใช่เฉพาะประชาชนในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ต้องกลับไปเกลี้ยกล่อมผู้ที่ยังไม่ยอมอพยพ เมืองคะโลนามีประชากร 150,000 คน เป็นเมืองล่าสุดในแคนาดาที่เผชิญไฟป่าฤดูร้อนที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ และเป็นฤดูไฟป่าร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ประเมินว่ามีพื้นที่ถูกไฟเผาแล้วมากกว่า 87.5 ล้านไร่ หรือเทียบเท่าพื้นที่ของประเทศกรีซ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาเผยว่า ได้คุยกับนายเดวิด อีบี มุขมนตรีรัฐบริติชโคลัมเบียแล้วเรื่องสถานการณ์ไฟป่าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและสร้างความเสียหายอย่างไม่น่าเชื่อ เขารับปากว่าจะจัดสรรความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ด้านนายอีบีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าพักโรงแรมและที่พักชั่วคราวในเมืองคะโลนาและอีกหลายเมืองโดยรอบ.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 1 ส.ค.- สหรัฐเผยว่า มีความกังวลอย่างยิ่งหลังจากรัฐบาลทหารเมียนมาตัดสินใจขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐว่า สหรัฐมีความกังวลอย่างยิ่งจากการที่รัฐบาลทหารพม่า (เป็นชื่อที่สหรัฐใช้เรียกเมียนมา) ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากรัฐบาลทหารได้ทำให้ประเทศตกเข้าสู่ภาวะความรุนแรงและความไร้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก โฆษกกล่าวว่า นับตั้งแต่โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยเมื่อ 2 ปี 6 เดือนที่แล้ว รัฐบาลทหารได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ เผาบ้านเรือนผู้คน และทำให้ประชาชนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นมากกว่า 1 ล้าน 6 แสนคน สหรัฐและหุ้นส่วนจะเดินหน้าใช้เครื่องมือทางการเมืองและเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลทหารต้องรับโทษ ก่อนหน้านี้สื่อทางการเมียนมารายงานว่า สภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติของเมียนมาเห็นชอบให้ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประกาศใช้ตั้งแต่ยึดอำนาจ โดยที่ประธานาธิบดีมินต์ ฉ่วยเป็นผู้ประกาศว่า จะขยายต่อไปอีก 6 เดือนนับจากวันที่ 1 สิงหาคม ขณะที่พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำสูงสุดของประเทศยอมรับว่า กองทัพยังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ทั้งหมดของประเทศได้อย่างสมบูรณ์ เพราะยังมีการสู้รบในหลายพื้นที่ ทางการต้องการเวลาในการเตรียมการอย่างเป็นระบบ จึงยังไม่ควรรีบเร่งจัดการเลือกตั้ง ซึ่งหมายถึงการเลือกตั้งภายในเดือนสิงหาคมนี้ตามที่รัฐบาลทหารเมียนมาเคยรับปากไว้.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลทหารเมียนมาแสดงท่าทีเป็นนัยว่า กองทัพอาจจะขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีกและเลื่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่สัญญาไว้ว่าจะจัดให้มีขึ้น โดยกล่าวในรายงานความเห็นของผู้นำกองทัพว่า จำเป็นต้องใช้ความพยายามอีกมากในการยุติความไม่สงบในประเทศ

นิวยอร์ก 12 ก.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่รัฐเวอร์มอนต์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ๋จากฝนตกหนัก การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปเพื่อให้รัฐบาลกลางสามารถจัดสรรงบประมาณบรรเทาทุกข์แก่ทางการท้องถิ่น โดยมีขึ้นหลังจากทางการเตือนว่า น้ำในเขื่อนไรท์สวิลล์ ใกล้เมืองมอนต์เพเลียร์ ที่เป็นเมืองเอกของรัฐใกล้จะเต็มและล้นลงสู่แม่น้ำใกล้เคียงแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่สร้างเขื่อนนี้ จึงไม่อาจทราบได้ว่าจะเกิดความเสียหายมากน้อยเพียงใด ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากฝนตกหนักที่บางพื้นที่วัดปริมาณน้ำฝนได้สูงกว่า 8 นิ้ว และมีน้ำท่วมใจกลางเมืองมอนต์เพเลียร์ที่มีประชากรทั้งหมด 8,000 คน นายฟิล สกอตต์ ผู้ว่าการรัฐเปรียบเทียบน้ำท่วมครั้งนี้ว่า ร้ายแรงพอ ๆ กับเหตุพายุโซนร้อนไอรีนพัดถล่มในปี 2554 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน หลายรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐประกอบด้วยนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ คอนเนตทิคัต เพนซิลเวเนีย แมสซาชูเซตส์ และเวอร์มอนต์ มีฝนตกหนักเมื่อวันอาทิตย์และวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น  กระแสน้ำซัดสะพานขาดและท่วมถนนจนใช้การไม่ได้ รัฐนิวยอร์กมีสตรีเสียชีวิต 1 คน ส่วนที่รัฐควิเบกของแคนาดาที่มีพรมแดนติดกัน ประชาชนมากกว่า 600 คนต้องอพยพหลังจากฝนตกหนัก.-สำนักข่าวไทย