กีโต 12 ม.ค.- เอกวาดอร์เดินหน้ากวาดล้างแก๊งอาชญากรทั่วประเทศ หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 60 วัน ขณะที่เปรูออกมาตรการคุมเข้มพรมแดนเพื่อเตรียมรับมือกับการเนรเทศนักโทษจากเอกวาดอร์
ตำรวจและทหารเอกวาดอร์สนธิกำลังปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งอาชญากรทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวสมาชิกแก๊งอาชญากร 14 คนที่จับกุมได้จากปฏิบัติการ 3 ครั้งในช่วงไม่กี่วันมานี้ มาแถลงข่าว นอกจากนี้ยังสามารถยึดอาวุธได้อีกหลายรายการ ปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรครั้งใหญ่มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีแดเนียล โนโบอา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วันเมื่อวันที่ 8 มกราคม จากนั้นในวันถัดมาได้ประกาศขึ้นบัญชีแก๊งอาชญากร 22 แก๊งเป็นองค์กรก่อการร้าย เพื่อเปิดทางให้กองทัพเข้ามาร่วมปราบปราม เนื่องจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงจากแก๊งอาชญากรบ่อยครั้ง ทั้งการหลบหนีออกจากเรือจำของนักโทษคนสำคัญ การก่อจลาจลในเรือนจำหลายแห่งที่มีการจับผู้คุมและเจ้าหน้าที่ 180 คนเป็นตัวประกัน และล่าสุดกลุ่มมือปืนบุกยึดห้องส่งสถานีโทรทัศน์ขณะกำลังออกอากาศรายการสดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ขณะที่เปรูซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเอกวาดอร์ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 9 มกราคม มีการเสริมกำลังทหารตามแนวพรมแดนทางเหนือที่ติดกับเอกวาดอร์ ส่งตำรวจลาดตระเวนและประจำการตำรวจที่ด่านข้ามพรมแดน เนื่องจากทั้งเปรูและเอกวาดอร์มีแผนจะเนรเทศนักโทษที่เป็นชาวต่างชาติออกนอกประเทศ ผู้นำเอกวาดอร์ประกาศเมื่อวันที่ 10 มกราคมว่า จะเริ่มเนรเทศนักโทษเหล่านี้เพื่อลดความแออัดในเรือนจำและลดค่าใช้จ่าย ปัจจุบันมีนักโทษชาวต่างชาติอยู่ในเรือนจำเอกวาดอร์หลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นชาวโคลอมเบีย ตามมาด้วยเปรูและเวเนซุเอลา.-816(814).-สำนักข่าวไทย