วัคซีน

โตเกียว 20 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น สั่งการให้ผู้เชี่ยวชาญกระทรวงสาธารณสุขหารือเรื่องการลดระดับสถานะทางกฎหมายของโรคโควิด-19 ให้เป็นระดับเดียวกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในฤดูใบไม้ผลินี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะเผยกับสื่อในวันนี้ว่า นอกจากสั่งการให้ลดระดับสถานะทางกฎหมายของโควิดแล้ว รัฐบาลยังจะพิจารณาทบทวนระเบียบการสวมหน้ากากอนามัยและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอื่น ๆ แต่จะยังเปิดโครงการฉีดวัคซีนต่อไป ปัจจุบันญี่ปุ่นกำหนดให้โควิดเป็นโรคประเภท 2 เป็นสถานะทางกฎหมายเดียวกับวัณโรคและไข้หวัดนก จึงต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่ครอบคลุม เช่น จำกัดการเดินทางของผู้ติดเชื้อและผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด การลดสถานะทางกฎหมายจากโรคประเภท 2 เป็นโรคประเภท 5 ตามกฎหมายโรคติดต่อจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในการทำให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในญี่ปุ่นกลับมาเป็นปกติ และอาจเปิดทางให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องมีผลตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR) หรือถูกกักตัว จากปัจจุบันที่ต้องกักตัว 7 วันสำหรับผู้ติดเชื้อ และ 5 วันสำหรับผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด ขณะเดียวกันจะทำให้รัฐบาลไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลและการรักษาตัวในโรงพยาบาลให้แก่ผู้ติดเชื้อ และจะไม่ใช้มาตรการควบคุมอีกแม้ยอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 30 ธ.ค.- อินโดนีเซียยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เหลืออยู่ทั้งหมด โดยให้มีผลทันทีในวันนี้ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียแถลงข่าววันนี้ว่า เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ของอินโดนีเซียมีภูมิต้านทานโรคโควิด-19 แล้ว ดังนั้นจึงจะไม่มีมาตรการจำกัดการรวมตัวและการเดินทางอีกต่อไป การตัดสินใจนี้มีขึ้นตามที่ได้พิจารณาตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดแล้ว อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชนยังคงใช้ความระมัดระวัง เช่น สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่ปิดและสถานที่แออัด ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียได้ยกเลิกมาตรการจำกัดส่วนใหญ่กับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 3 เข็ม แต่ยังคงให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ปิด และใช้แอปพลิเคชันติดตามโควิดเมื่อเข้าสถานที่สาธารณะส่วนใหญ่ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอินโดนีเซียลดลงเหลือไม่ถึงวันละ 1,000 คนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนยอดติดเชื้อสะสมตั้งแต่พบการระบาดมีมากกว่า 6 ล้าน 7 แสนคน เสียชีวิตรวม 160,583 คน ประชากรวัย 6 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้ว 174 ล้าน 7 แสนคน คิดเป็นเกือบร้อยละ 75 และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วอย่างน้อย 1 เข็มราว 68 ล้าน 5 แสนคน.-สำนักข่าวไทย

วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ของบริษัทไบออนเทค สำหรับฉีดให้แก่ชาวเยอรมนีที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ส่งถึงสถานทูตเยอรมนีในกรุงปักกิ่งของจีนแล้ววันนี้

ปักกิ่ง 18 ธ.ค.- ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาในจีนระบุว่า จีนกำลังเผชิญกับโรคโควิด-19 ระบาดระลอกแรกจากทั้งหมด 3 ระลอกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในฤดูหนาวนี้ ดร.อู๋ จุนโหย่ว หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดวิทยา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนกล่าวในการประชุมที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ว่า การระบาดในขณะนี้จะสูงสุดในฤดูหนาวนี้ โดยจะเกิดขึ้นติดต่อกัน 3 ระลอกเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน ระลอกแรกเกิดขึ้นราวกลางเดือนธันวาคมไปจนถึงกลางเดือนมกราคม ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเขตเมือง ระลอกที่ 2 จะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือนมกราคมไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ อันเนื่องจากการที่คนแห่เดินทางกลับบ้านก่อนหยุดยาว 1 สัปดาห์ในวันตรุษจีนที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม และระลอกที่ 3 จะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนมีนาคม อันเนื่องจากคนเดินทางกลับมาทำงานอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ดร.อู๋ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงในจีนได้ลดลงมากแล้ว และการฉีดวัคซีนได้ให้ผลในระดับหนึ่ง ขอให้ประชาชนรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง จีนยังไม่ได้แจ้งอย่างเป็นทางการว่า มีผู้เสียชีวิตรายใหม่จากโควิดนับตั้งแต่ยุติมาตรการจำกัดเข้มงวดอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม หลังจากมีการประท้วงไม่พอใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ดี บรรยากาศตามท้องถนนในเมืองใหญ่ของจีนวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ประชาชนส่วนใหญ่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากตามเขตเมืองตั้งแต่เหนือจรดใต้มีผู้ติดโควิดเพิ่มขึ้น ธุรกิจหลายอย่างในกรุงปักกิ่งที่มีประชากร 22 ล้านคนได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ขณะที่รถไฟใต้ดินในเมืองซีอานว่างโล่ง เช่นเดียวกับถนนท้องในเมืองเฉิงตู ด้านนครเซี่ยงไฮ้ขอให้โรงเรียนส่วนใหญ่เปลี่ยนไปเรียนออนไลน์ตั้งแต่วันจันทร์ ส่วนเมืองหางโจวขอให้โรงเรียนส่วนใหญ่เร่งปิดภาคการศึกษาฤดูหนาวให้เร็วขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ชาวจีนต่อแถวยาวหน้าร้านขายยา เพื่อรอซื้อยาและลงทะเบียนฉีดวัคซีน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วประเทศ