ลาตินอเมริกา

เม็กซิโกซิตี 5 ม.ค. – เม็กซิโกอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พัฒนาโดยแอสตราเซนเนกา/มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว นายอูโก โลเปซ-กาเตลล์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขของเม็กซิโก ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในระดับสูงประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า หน่วยงานกำกับดูแลยาของเม็กซิโกได้อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกา ซึ่งถือเป็นวัคซีนขนานที่สองที่ผ่านการอนุมัติในเม็กซิโก โดยที่ทางการเม็กซิโกได้ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 77.4 ล้านโดสจากแอสตราเซนเนกา วัคซีนดังกล่าวยังได้รับการอนุมัติใช้ในอังกฤษ อินเดีย และอาร์เจนตินา ในขณะเดียวกันเม็กซิโกและอาร์เจนตินาได้ทำข้อตกลงกับแอสตราเซนเนกาในการผลิตวัคซีนขนานดังกล่าวเพื่อแจกจ่ายให้แก่กลุ่มประเทศลาตินอเมริกาอีกด้วย นอกจากนี้ ทางการเม็กซิโกยังทำข้อตกลงเบื้องต้นเพื่อซื้อวัคซีนจากคังซีโนไบโอโลจิกส์ บริษัทผู้ผลิตวัคซีนของจีน และเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ที่เป็นโครงการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก รัฐบาลเม็กซิโกให้คำมั่นสัญญาว่า จะฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนทั่วประเทศเกือบ 129 ล้านคนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งถือเป็นความท้าทายด้านโลจิสติกส์ครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้ ทางการเม็กซิโกได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นกลุ่มแรกเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ เม็กซิโกมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 กว่า 127,000 คน และผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 1.4 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

บราซิเลีย 30 ธ.ค. – กลุ่มประเทศลาตินอเมริกาและแคริบเบียนมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แตะ 500,000 คน และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทะลุ 15 ล้านคนแล้ว กว่า 1 ใน 3 ของยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวอยู่ในบราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคลาตินอเมริกาและเพิ่งทำสถิติยอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขบราซิลรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 58,718 คน และผู้เสียชีวิต 1,111 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 7.6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 192,681 คน ขณะเดียวกัน กว่า 1 ใน 4 ของตัวเลขผู้เสียชีวิตในภูมิภาคอยู่ในเม็กซิโก ซึ่งประสบปัญหาคล้ายกับบราซิลในการควบคุมการระบาดระลอกใหม่ที่ทำให้โรงพยาบาลประสบภาวะตึงตัวจนกรุงเม็กซิโกซิตีและอีก 4 รัฐต้องประกาศใช้มาตรการกึ่งปิดเมือง ทางการเม็กซิโกรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 990 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันในระดับสูง และมีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 12,099 คน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 123,845 […]

ริโอเดจาเนโร 1 ส.ค.- ลาตัมกรุ๊ป กลุ่มสายการบินบราซิล-ชิลีที่เป็นสายการบินใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกาประกาศจะเลิกจ้างพนักงานอย่างน้อย 2,700 คน เพื่อรับมือกับผลกระทบร้ายแรงที่อุตสาหกรรมการบินได้รับจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ลาตัมแถลงว่า ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหภาพพนักงานการบินเรื่องลดค่าจ้าง จึงต้องเลิกจ้างนักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเพื่อให้บริษัทสามารถอยู่รอดต่อไป จำนวนพนักงานที่จะถูกเลิกจ้างคิดเป็นกว่า 1 ใน 3 ของพนักงานทั้งหมด การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นวิกฤตสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ กระทบอุตสาหกรรมการบินทั้งโลกอย่างรุนแรง บริษัทจะเปิดให้พนักงานลาออกโดยสมัครใจจนถึงวันพุธนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากนั้นจะเริ่มบังคับลาออก แถลงการณ์ระบุด้วยว่า พนักงานลาตัมได้รับค่าจ้างเฉลี่ยสูงกว่าสายการบินอื่นในภูมิภาค วิกฤตขณะนี้ทำให้การลดค่าใช้จ่ายมีความจำเป็นมากยิ่งขึ้น ลาตัมยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ในฐานะล้มละลายในสหรัฐเมื่อเดือนพฤษภาคม เนื่องจากทั่วโลกใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ทำให้การดำเนินงานของบริษัทลดลงไปถึงร้อยละ 95.-สำนักข่าวไทย