บราซิเลีย 30 ธ.ค. – กลุ่มประเทศลาตินอเมริกาและแคริบเบียนมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แตะ 500,000 คน และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทะลุ 15 ล้านคนแล้ว
กว่า 1 ใน 3 ของยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวอยู่ในบราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคลาตินอเมริกาและเพิ่งทำสถิติยอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขบราซิลรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 58,718 คน และผู้เสียชีวิต 1,111 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 7.6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 192,681 คน
ขณะเดียวกัน กว่า 1 ใน 4 ของตัวเลขผู้เสียชีวิตในภูมิภาคอยู่ในเม็กซิโก ซึ่งประสบปัญหาคล้ายกับบราซิลในการควบคุมการระบาดระลอกใหม่ที่ทำให้โรงพยาบาลประสบภาวะตึงตัวจนกรุงเม็กซิโกซิตีและอีก 4 รัฐต้องประกาศใช้มาตรการกึ่งปิดเมือง ทางการเม็กซิโกรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 990 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันในระดับสูง และมีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 12,099 คน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 123,845 คน และยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 1,401,529 คน ทางการกรุงเม็กซิโกซิตีกำลังเร่งเพิ่มขีดความสามารถของโรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้ออย่างเต็มที่ โดยที่ในขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อใช้เตียงที่มีเครื่องช่วยหายใจไปแล้วร้อยละ 85 และใช้เตียงผู้ป่วยไปแล้วร้อยละ 89
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาและแคริบเบียนวิตกกังวลว่า การเฉลิมฉลองในช่วงสิ้นปีอาจส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขที่ใกล้ถึงขีดจำกัด ความพยายามในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขนานใหม่ของประเทศต่าง ๆ เช่น เม็กซิโก ชิลี และอาร์เจนตินา เริ่มมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี บราซิลและอีกหลายประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกากลับประสบปัญหาด้านความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน. -สำนักข่าวไทย