รัสเซียประท้วงระดมกำลังพลสำรอง
ผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านคำสั่งเกณฑ์กำลังพลสำรอง เพื่อร่วมปฏิบัติการทางทหารในยูเครนของรัฐบาลรัสเซีย
ผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านคำสั่งเกณฑ์กำลังพลสำรอง เพื่อร่วมปฏิบัติการทางทหารในยูเครนของรัฐบาลรัสเซีย
รัสเซียอ้างทหารรัสเซียสังหารทหารรับจ้างยูเครนได้กว่า 100 นาย ขณะที่ยูเครนอ้างทำลายโดรนของรัสเซียได้เป็นจำนวนมาก แต่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยปืนใหญ่ของรัสเซียเพียงเล็กน้อย
ผู้นำยูเครน ประณามการหยั่งประชามติของรัสเซียในดินแดนของยูเครน รวมถึงการระดมพลออกมาสู้รบ ขณะที่ชาติตะวันตกพากันตำหนิว่าเป็นสิ่งที่น่าละอาย
โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐ ประณามการหยั่งประชามติของรัสเซียในดินแดนยูเครน พร้อมเผยสหรัฐและชาติพันธมิตรเตรียมเพิ่มการคว่ำบาตรให้เข้มข้นขึ้น
เคียฟ 23 ก.ย. – ดินแดน 4 แห่งของยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียเริ่มเปิดลงประชามติเพื่อผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้วในวันนี้ และจะปิดการลงประชามติในวันอังคารหน้า โดยคาดว่าจะประกาศผลการลงประชามติอย่างเป็นทางการไม่นานหลังจากนั้น นายเลโอนิด ปาเซชนิก หัวหน้าแคว้นลูฮันสก์ที่มีรัสเซียหนุนหลัง กล่าวว่า ประชาชนในแคว้นลูฮันสก์ตั้งตารอการเปิดลงประชามติเพื่อผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียมานานถึง 8 ปี และตอนนี้ก็ถือว่าแคว้นลูฮันสก์เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว ขณะที่นายเดนิส ปูชิลิน หัวหน้าแคว้นโดเนตสก์ที่มีรัสเซียหนุนหลัง ระบุว่า ประชาชนแคว้นโดเนตสก์กำลังจะได้เดินทางกลับบ้าน เพราะภูมิภาคดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ ก็คือส่วนหนึ่งของรัสเซีย สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ส่งสัญญาณว่า เขาจะผนวกดินแดนต่าง ๆ ของยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียเข้ากับรัสเซีย หากประชาชนในพื้นที่เหล่านี้ออกเสียงลงประชามติเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว หลังรัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนมาเป็นเวลาเกือบ 7 เดือน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคนและทำให้หลายเมืองทางตะวันออกของยูเครนกลายสภาพเป็นเมืองร้าง ขณะที่ชาติตะวันตกส่วนใหญ่ต่างออกมาประณามการลงประชามติดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้สงครามยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น.-สำนักข่าวไทย
ดินแดน 4 แห่งของยูเครน ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียและกองกำลังที่สนับสนุนรัสเซีย เตรียมจัดการลงประชามติในวันนี้ว่า จะเข้าร่วมเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียหรือไม่ ซึ่งเป็นแผนการลงประชามติที่ถูกประณามจากชาติตะวันตกส่วนใหญ่ที่มองว่าผิดทำนองคลองธรรมและเป็นการปูทางเพื่อการผนวกดินแดนอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
มอสโก 23 ก.ย. – ชายรัสเซียจำนวนมากแห่เดินทางออกนอกประเทศ จนทำให้มีแถวรถยนต์ต่อคิวยาวเหยียดหลายกิโลเมตรบริเวณพรมแดนของจอร์เจียที่ติดกับรัสเซีย หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งระดมพลรัสเซียครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันพุธ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานอ้างคำพูดของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บริเวณพรมแดนของจอร์เจียว่า แถวรถยนต์ที่จะเดินทางข้ามพรมแดนทางบกที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองแห่งหนึ่งมีความยาวถึง 5 กิโลเมตร และมีบางส่วนระบุว่า ต้องใช้เวลารอนานถึง 7 ชั่วโมงถึงจะข้ามพรมแดนเข้ามายังจอร์เจียได้ ขณะที่ภาพจากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่ามีคนขับรถยนต์จำนวนหนึ่งเดินออกจากรถยนต์หรือรถกระบะชั่วคราวท่ามกลางสภาพการจราจรที่หยุดนิ่ง ด้านชายรัสเซียไม่เผยนามคนหนึ่งระบุว่า เขารีบตัดสินใจหยิบหนังสือเดินทางและมุ่งหน้าสู่พรมแดนจอร์เจียในทันทีหลังทราบข่าวประธานาธิบดีปูตินสั่งระดมพลรัสเซีย เนื่องจากเขาเข้าข่ายที่อาจถูกเกณฑ์ไปเข้าร่วมสงคราม บีบีซียังระบุว่า จอร์เจียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซียที่อนุญาตให้ชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ขณะที่ฟินแลนด์ ซึ่งมีพรมแดนติดรัสเซียยาว 1,300 กิโลเมตร กำหนดให้ชาวรัสเซียต้องขอวีซ่าก่อนเดินทางเข้าประเทศ และรายงานว่ามีชาวรัสเซียเดินทางเข้าฟินแลนด์ผ่านพรมแดนทางบกมากขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ขณะที่ราคาตั๋วเครื่องบินจากรัสเซียไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ เช่น เมืองอิสตันบูลของตุรกี กรุงเบลเกรดของเซอร์เบีย และนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี มีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหรือขายหมดเกลี้ยงหลังผู้นำรัสเซียสั่งระดมพลเมื่อวันพุธ.-สำนักข่าวไทย
ชาวยูเครนและชาวต่างชาติกว่า 200 คน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ในการแลกเปลี่ยนเชลยครั้งใหญ่ที่สุดกับรัสเซีย ขณะที่กระแสตื่นกลัวการถูกบังคับให้ออกรบ ทำให้ชาวรัสเซียประท้วงและหนีออกนอกประเทศจำนวนมาก
เฮลซิงกิ 22 ก.ย. – ฟินแลนด์เผยว่าการจราจรทางถนนบนเส้นทางเชื่อมชายแดนติดรัสเซีย มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงคืนวันพุธ หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศคำสั่งระดมพลรัสเซียครั้งแรก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สำนักงานความมั่นคงชายแดนฟินแลนด์ เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สในวันนี้ว่าการจราจรทางถนนบนเส้นทางเชื่อมชายแดนติดรัสเซีย ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของฟินแลนด์ มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงคืนวันพุธ แต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยมีชาวรัสเซียเดินทางข้ามพรมแดนเข้ามา 4,824 คน น้อยกว่าที่เข้ามาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มากกว่าวันพุธก่อนที่เข้ามา 3,133 คน นายแอนติ ไคโคเนน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของฟินแลนด์ เผยเมื่อวันพุธว่า ฟินแลนด์กำลังเฝ้าระวังสถานการณ์ที่พรมแดนติดรัสเซีย หลังประธานาธิบดีปูตินสั่งระดมพลรัสเซียไปเข้าร่วมสงครามยูเครนเมื่อวานนี้ ขณะที่นายเปกกา ฮาวิสโต รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของฟินแลนด์ กล่าวในระหว่างเดินทางเยือนนครนิวยอร์กของสหรัฐ เมื่อคืนวันพุธว่าฟินแลนด์กำลังพิจารณาจำกัดจำนวนชาวรัสเซียที่เดินทางข้ามพรมแดนทางบกจากรัสเซีย ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู ที่ยังคงเปิดพรมแดนต้อนรับชาวรัสเซีย หลังจากชาติตะวันตกได้ประกาศใช้มาตรการปิดพรมแดนทั้งทางบกและทางอากาศไม่ให้ชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศ เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียรุกรานยูเครน ล่าสุดสมาชิกอียูที่มีพรมแดนติดรัสเซียอย่างเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์ เริ่มไม่อนุญาตให้ชาวรัสเซียข้ามพรมแดนเข้ามาตั้งแต่เที่ยงคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าชาวรัสเซียไม่ควรเดินทางในขณะที่ประเทศกำลังทำสงครามกับยูเครน. -สำนักข่าวไทย
ตั๋วเครื่องบินโดยสารออกจากกรัสเซีย ราคาพุ่งและถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว หลัง “ปูติน” มีคำสั่งระดมกำลังทหารกองหนุนอีก 3 แสนนาย ชายชาวรัสเซียเกรงไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกประเทศ
ทาชเคนต์ 22 ก.ย.- อุซเบกิสถานเตือนประชาชนไม่ให้ไปเข้าร่วมกับกองทัพต่างชาติ หลังจากรัสเซียเสนอให้สัญชาติแบบรวดเร็วแก่ผู้ที่ลงชื่อร่วมรบกับรัสเซีย สำนักงานอัยการใหญ่อุซเบกิสถานแถลงเมื่อวานนี้ว่า ผู้ไปร่วมรบในต่างประเทศจะถูกดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายของอุซเบกิสถาน หลังจากเมื่อต้นเดือนนี้สื่อสังคมออนไลน์ของยูเครนเผยแพร่คลิปชาวอุซเบก 2 คน ถูกจับขณะร่วมกับกองกำลังรัสเซียรบกับยูเครน ทั้งคู่อ้างว่าไปสมัครรบที่กรุงมอสโกของรัสเซีย ด้านรัฐสภารัสเซียผ่านร่างกฎหมายเมื่อไม่กี่วันก่อน เสนอให้สัญชาติอย่างรวดเร็วแก่ชาวต่างชาติที่เข้าร่วมกับกองทัพรัสเซีย ปกติแล้วมีชาวอุซเบกจำนวนมากพำนักอยู่หรือเดินทางไปรัสเซียเพื่อหางานทำ บางคนทำงานอย่างผิดกฎหมายและเสี่ยงถูกเนรเทศออกจากรัสเซีย อุซเบกิสถานมีประชากร 35 ล้านคน เป็นประเทศอดีตบริวารสหภาพโซเวียตที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 รองจากรัสเซียและยูเครน ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว และหลายคนใช้ภาษารัสเซียได้อย่างคล่องแคล่ว.-สำนักข่าวไทย
เปียงยาง 22 ก.ย. – เกาหลีเหนือยืนยันว่า ไม่เคยส่งอาวุธหรือกระสุนให้รัสเซีย และไม่มีแผนที่จะทำเช่นนั้น พร้อมทั้งเตือนสหรัฐให้หยุดพูดและหยุดปล่อยข่าวลือเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของเกาหลีเหนือ สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานอ้างคำพูดของรองผู้อำนวยการของสำนักงานยุทโธปกรณ์สังกัดกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือโดยไม่เผยนามว่า เมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐและกลุ่มที่เป็นปรปักษ์ต่อเกาหลีเหนือได้พูดถึงการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี และเผยแพร่ข่าวลือเรื่องเกาหลีเหนือและรัสเซียทำข้อตกลงด้านอาวุธ เกาหลีเหนือขอยืนยันว่าไม่เคยส่งอาวุธหรือกระสุนให้แก่รัสเซีย และไม่มีแผนที่จะทำเช่นนั้น สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายเวแดนต์ พาเทล รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนว่า รัสเซียกำลังเจรจาซื้อจรวดและกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากจากเกาหลีเหนือเพื่อนำไปใช้โจมตียูเครน ขณะที่นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวสหรัฐ ระบุในเวลาต่อมาว่า ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่ารัสเซียซื้ออาวุธจากเกาหลีเหนือโดยเสร็จสมบูรณ์ และไม่มีข้อบ่งชี้ว่าอาวุธเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในยูเครน นอกจากนี้ สหรัฐยังกล่าวหาอิหร่านว่าส่งโดรนให้แก่รัสเซียเพื่อนำไปใช้ในสงครามยูเครน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัฐบาลอิหร่านปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ด้านรัสเซียก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐ และเรียกร้องให้สหรัฐเปิดเผยหลักฐานเพื่อยืนยันข้อกล่าวหาเหล่านี้. -สำนักข่าวไทย