
“พิชัย”ฉะอดีตสมาชิกพรรคป่วนสร้างสับสน
“พิชัย” ยืนยันเพื่อไทยเข้มแข็ง เป็นหนึ่ง ไม่แตกสาขา คุยถ้ามีเลือกตั้ง ชนะขาด เตือนคนออกจากพรรคแล้วอย่าป่วน แนะยึดหลักกตัญญูรู้คุณ มีหิริโอตตัปปะ
“พิชัย” ยืนยันเพื่อไทยเข้มแข็ง เป็นหนึ่ง ไม่แตกสาขา คุยถ้ามีเลือกตั้ง ชนะขาด เตือนคนออกจากพรรคแล้วอย่าป่วน แนะยึดหลักกตัญญูรู้คุณ มีหิริโอตตัปปะ
เพื่อไทยจี้นายกฯแจกทั่วถึง 5,000 บาท 3 เดือน 6,000 บาท 3 เดือนในพื้นที่กระทบหนัก 5 จังหวัด พร้อมเสนอมาตรการเยียวยาแรงงานนอกระบบ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ
“พิชัย” จี้ นายกฯ รับผิดชอบ ฝ่ายความมั่นคงล้มเหลวทำไวรัสแพร่ ห่วงล็อกดาวน์ทำเศรษฐกิจโคม่า แนะคุมแต่ละพื้นที่ ตรวจสุ่มให้ครบ เร่งนำเข้าวัคซีน
“การุณ” ป้อง “หญิงหน่อย” ปมพิชัยแชร์บทความพ่ายสนามเลือกตั้งท้องถิ่น อัดไม่มีสปิริต ไม่มีความรับผิดชอบในหน้าที่ บอกลาพท. ก็ไม่เคยเผาบ้านเก่า
“พิชัย เลิศพงศ์อดิศร” ประกาศชัยชนะเลือกตั้ง นายกอบจ.เชียงใหม่ คะแนนทิ้งห่าง “บุญเลิศ บูรณุปกรณ์“ อดีตนายก อบจ. 2 สมัย ยืนยันจะตั้งใจทำงานเพื่อประโยชน์ของชาวเชียงใหม่
กรุงเทพฯ 21 ต.ค.-ทนายความกลุ่มไทยภักดี ร้อง ปอท.เอาผิด “พิชัย” รอง หน.เพื่อไทย ใช้รูปม็อบฮ่องบิดเบือนว่าเป็นการดำเนินการของ จนท.ไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ต.ค.) นายธนุ สุขบำเพิง ทนายความกลุ่มไทยภักดี เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีกับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กรณีโพลต์เฟซบุ๊กนำภาพตำรวจฮ่องกงจับกุมผู้ชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 มาโพสต์ว่าเป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563 ที่มีการสลายการชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร 63 ด้วยข้อความว่า “จับนักศึกษาแบบนี้มันใช่เหรอ ไม่ละอายใจกันบ้างหรือไร พวกเขาแค่มาทวงถามอนาคต !” ซึ่งการโพสต์เช่นนี้ถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ สร้างกระแสให้คนเกลียดชังรัฐบาล เกลียดชังตำรวจในฐานะที่นายพิชัยเป็นถึงรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่มี ส.ส.มากที่สุดในสภาฯ ไม่ควรจะมุ่งแต่เรื่องการเมืองอย่างเดียว ต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ต้องดูว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำจริงหรือไม่ ซึ่งในวันนั้นได้มีการสลายม็อบเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ ถ้าหากรุนแรง ไม่เป็นไปตามหลักสากล ค่อยว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ยังพบว่านอกจากนายพิชัยเป็นผู้โพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวแล้วยังมีการโพสต์และแชร์ในกลุ่มพรรคเพื่อไทย.-สำนักข่าวไทย
พิชัยจี้นายกฯรับผิดชอบด้วยการลาออก เหจุทำภาพพจน์ประเทศเสียหาย พร้อมแนะ ภท. -ปชป.ถอนตัวจากรัฐบาล เชื่อ คนรุ่นใหม่คือความหวัง
กรุงเทพฯ 2 ต.ค.- นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ดีใจที่ได้กลับมาพรรคเพื่อไทย และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถเป็นทางเลือกอันดับ 1 ให้กับประชาชนได้ โดยต้องโน้มน้าวประชาชนในกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคไหน ซึ่งจากโพลล่าสุดมีมากถึง ร้อยละ 41.5 และจะใช้ประเด็นด้านเศรษฐกิจเป็นจุดขายหลัก เพราะปัจจุบันประเทศกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างมาก และเป็นความล้มเหลวของการบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ผมได้รับมอบหมายเป็นรองหัวหน้าพรรค เพื่อมาดูเรื่องเศรษฐกิจ เชื่อว่าแนวทางเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยต่อจากนี้ จะเป็นทางออกให้กับประเทศได้ และจะสามารถโน้มน้าวให้ประชาชนมาเลือกพรรคเพื่อไทยให้มากขึ้น จนสามารถจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ พรรคเพื่อไทยทราบปัญหาดี และเชื่อว่าถ้าประชาชนให้ความมั่นใจ พรรคเพื่อไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นเศรษฐกิจช่วงหนึ่ง แต่ยืนยันฟื้นได้แน่” นายพิชัย กล่าว .- สำนักข่าวไทย
จี้นายกฯลาออก
ห่วง”ปรีดี”ลาออกกระทบเชื่อมั่นศก.
ชี้ การชุมนุมจะเพิ่มขึ้น เร่งรัฐบาลนับถอยหลัง แนะ เร่งแก้รัฐธรรมนูญ แล้วยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ทำเนียบรัฐบาล 16 ก.ค.-โฆษกรัฐบาลฯ มั่นใจนายกฯเลือกคนมีความรู้ความสามารถเป็นรัฐมนตรี ย้ำเดินสายพบหลายกลุ่มอาชีพ ไม่ใช่ความนิยมลดลง แต่ต้องการรับฟังปัญหาโดยตรงจากทุกกลุ่มเพื่อนำมาแก้ไข สะท้อนความจริงใจทำงานเพื่อประชาชน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเร่งปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายหลัง 4 รัฐมนตรียื่นหนังสือลาออก ว่า ต้องเคารพการตัดสินใจของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์และอีก 3 รัฐมนตรี ส่วนการปรับครม. นายกรัฐมนตรียืนยันแล้วว่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้ โดยจะเป็นผู้พิจารณาเอง “มั่นใจว่านายกฯ จะคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถมาทำหน้าที่ โดยเฉพาะการเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในช่วงนี้ แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก จากสถานการ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และรัฐบาลเตรียมมาตรการ รวมถึงโครงการต่าง ๆ เอาไว้แล้วเพื่อฟื้นฟูประเทศ ส่วนการปรับครม. ไม่ถือว่าเป็นการยอมรับความล้มเหลวในการบริหารประเทศทางด้านเศรษฐกิจตามที่นายพิชัย ระบุ แต่เป็นไปเพื่อความเหมาะสม ซึ่งทุกรัฐบาลรวมถึงรัฐบาลก่อนหน้านี้ก็ปรับครม.เช่นกัน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว ส่วนกรณีนายพิชัยระบุกรณีนายกรัฐมนตรีเดินสายพบปะสื่อมวลชน เพราะความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีลดลง นางนฤมล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้เดินสายพบแต่สื่อมวลชนเท่านั้น แต่ยังพบกับหลายกลุ่มอาชีพ ซึ่งถือว่าเป็นการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนโดยตรง ก่อนจะนำมาพิจารณาให้ความช่วยเหลือให้ตรงจุด และเป็นการสอบถามความร่วมมือจากประชาชนในการพัฒนาประเทศด้วย ถือว่าเป็นการใส่ใจ แสดงถึงความจริงใจของนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ […]