fbpx

“พิชัย”ห่วงล็อกดาวน์ทำศก.โคม่า

กรุงเทพฯ 24 ธ.ค. –“พิชัย” จี้ นายกฯ รับผิดชอบ ฝ่ายความมั่นคงล้มเหลวทำไวรัสแพร่ ห่วงล็อกดาวน์ทำเศรษฐกิจโคม่า แนะคุมแต่ละพื้นที่ ตรวจสุ่มให้ครบ เร่งนำเข้าวัคซีน


นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า รู้สึกกังวลที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะประชุมเรื่องการล็อกดาวน์ประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้(24 ธ.ค.) ซึ่งหากล็อกดาวต์ประเทศจริง เศรษฐกิจไทยที่ทรุดหนักอยู่แล้วจะยิ่งทรุดหนักลงอีก อาจจะถึงขึ้นโคม่าและไม่ฟื้นเลยก็ได้ เพราะเศรษฐกิจไทยตกต่ำมาตลอด 6 ปี จนสื่อหลักต่างประเทศอย่างเดอะ ไฟแนนเชียล ไทม์ ขนานนามประเทศไทยว่าเป็นคนป่วยแห่งเอเชีย และจะป่วยหนักขึ้น ตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสแล้ว พอมาเจอล็อกดาวน์จากวิกฤติไวรัสโควิดช่วงต้นปี เศรษฐกิจไทยที่ป่วยจริงเลยยิ่งป่วยหนัก ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการล็อกดาวน์ช่วงต้นปี ยังส่งผลกระทบอย่างหนักและยังมีผลสืบเนื่องอยู่ โดยจะมีธุรกิจที่จะต้องปิดกิจการอีกเป็นจำนวนมาก จะมีหนี้เสียพุ่งสูง โดยจะเกิดการว่างงานเพิ่มอีกมาก ซึ่งถ้าหากล็อกดาวน์อีกจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น เศรษฐกิจไทยอาจถึงขั้นโคม่าและอาจจะไม่ฟื้นเลยก็ได้

นายพิชัย กล่าวว่า มีการคาดการณ์กันว่าการกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสโควิดครั้งนี้ จะทำความเสียหายให้ประเทศอย่างน้อยวันละ 2,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 60,000 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ การที่รัฐบาลจะหวังฟื้นเศรษฐกิจจากโครงการ “คนละครึ่ง” และ “เที่ยวด้วยกัน” จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย เพราะเป็นเพียงการบรรเทาอาการชั่วคราว และการแพร่ระบาดจะทำให้ “เที่ยวด้วยกัน” ต้องล้มเหลวไปด้วย โดยรัฐบาลยังไม่มีแนวทางการแก้ไขปัญหาหลักทางเศรษฐกิจ เช่นการลงทุนและการส่งออก แต่ซ้ำเติมด้วยการจะถูกสหรัฐตัดจีเอสพีเป็นครั้งที่สองในปลายปีนี้ และหนังสือท้วงติงจากวุฒิสภาสหรัฐในเรื่องความไม่เป็นประชาธิปไตยและการดำเนินคดีผู้ชุมนุมแบบไม่ถูกต้อง รวมถึง ยูเอ็นก็ยังทักท้วง ม. 112 ที่รัฐบาลใช้จัดการกับผู้เห็นต่าง ยิ่งจะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงอีก ทั้งนี้ยังมีเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากทั้งที่เศรษฐกิจไทยทรุดหนัก พลเอกประยุทธ์ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจดูคล้ายจะไม่รู้เรื่องในปัญหาเหล่านี้เลย เหมือนจะหมดสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแล้ว


นายพิชัย กล่าวว่า สาเหตุของการแพร่ระบาดของไวรัสในครั้งนี้ ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบเต็ม ๆ คือฝ่ายความมั่นคงที่ปล่อยให้มีการลักลอบนำแรงงานเถื่อนผ่านเข้ามาในประเทศ ทั้งที่ข้อมูลการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างหนักของประชากรในประเทศเมียนมามีมาเป็นเดือนแล้ว แต่ฝ่ายความมั่นคงกลับไม่สามารถควบคุมการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาได้ ซึ่งเชื่อกันว่ามีผลประโยชน์จำนวนมหาศาลจากการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวเถื่อนเหล่านี้ อีกทั้งฝ่ายความมั่นคงยังให้ข้อมูลสับสนย้อนแย้งกันเอง คนหนึ่งอ้างว่าชายแดนมีความยาวมากไม่สามารถควบคุมได้ ส่วนคนหนึ่งกลับแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ ปฏิเสธว่าไม่มีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเถื่อนเข้ามา ซึ่งพูดเหมือนดูถูกภูมิปัญญาของประชาชนอย่างมาก

“ผู้ที่รับผิดชอบความมั่นคงก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และยังคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย จะปัดความรับผิดชอบหรือโทษคนอื่นไม่ได้เลย ซึ่งถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะตระหนักล่วงหน้า ระมัดระวัง และกำชับเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวเถื่อนเหล่านี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสอย่างรุนแรงคงไม่เกิดขึ้น จึงอยากเรียกร้องความรับผิดชอบจากพล.อ.ประยุทธ์ในความล้มเหลวครั้งนี้ ซึ่งสร้างปัญหาให้กับประเทศอย่างมากทั้งทางด้านเศรษฐกิจและด้านสุขภาพ” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน วิธีที่ดีที่สุด ถ้าพบการแพร่ระบาดและหากจำเป็นควรล็อกดาวน์เฉพาะจุด และทดสอบประชาชนในบริเวณดังกล่าวทั้งหมด ใครติดเชื้อไวรัสต้องรีบนำเข้ากักตัวและรักษา โดยไม่ควรล็อกดาวน์ทั้งประเทศเหมือนตอนต้นปี เพราะความเสียหายทางเศรษฐกิจจะมากเกินแบกรับ ประเทศที่พัฒนาแล้วและมีการแพร่ระบาดมากกว่าไทยยังไม่ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ นอกจากนี้ ประเทศสิงคโปร์และ ประเทศมาเลเซียนำเข้าวัคซีนเข้ามาฉีดป้องกันให้กับประชาชนแล้ว แต่ทำไมประเทศไทยไม่มีแนวโน้มที่จะได้วัคซีนในเวลาอันใกล้นี้เลย ซึ่งได้ยินว่าจะเป็นช่วงกลางปีหรือปลายปีหน้าเลย ดังนั้น รัฐบาลจะต้องหาทางเร่งนำวัคซีนเข้ามาให้เร็วที่สุด เพื่อฉีดให้ประชาชนทั้งหมดโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยเริ่มจากบริเวณที่แพร่ระบาดก่อน


นานพิชัย กล่าวว่า ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ ประเทศต้องการผู้นำที่มีความรู้ความสามารถ และ มีวิสัยทัศน์ โดยต้องมีทิศทางชัดเจนในการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ควบคู่ไปกับการประคองเศรษฐกิจให้สามารถดำเนินไปด้วยกัน โดยต้องหาภาวะสมดุลย์เท่าที่จะทำได้ และต้องดำเนินทั้งสองด้านให้ไปด้วยกันให้ได้ หากล้มเหลวด้านใดด้านหนึ่ง ประชาชนจะได้รับผลกระทบและจะลำบากกันอย่างมาก และ จะทนกันไม่ไหว เพราะที่ผ่านมาทนกันมามากแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร