ผู้สูญหาย

ธากา 27 ก.ย. – เรือข้ามฟากบรรทุกผู้โดยสารล่มกลางแม่น้ำในบังกลาเทศเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 61 คน และยังคงมีผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมาก สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างคำพูดผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เรือล่มกลางแม่น้ำในเขตปัญจครห์ ทางตอนเหนือของบังกลาเทศว่า ครอบครัวและญาติของผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มยังคงรวมตัวกันอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งค้นหาร่างผู้โดยสาร ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเขตปัญจครห์เผยวันนี้ว่า ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 61 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิง 28 คน และเด็ก 18 คน นักประดาน้ำกำลังงมหาร่างผู้โดยสารในขณะที่ยังคงมีผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมาก เรือข้ามฟากลำนี้ได้บรรทุกผู้แสวงบุญชาวฮินดูเดินทางไปยังวัดฮินดูแห่งหนึ่งเพื่อทำบุญให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ทั้งยังระบุว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุทางน้ำในครั้งนี้เมื่อวันอาทิตย์ แต่คาดว่าสาเหตุที่ทำให้เรือล่มเกิดจากการบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าอัตราที่กำหนดเกือบ 3 เท่า ในขณะเดียวกัน ตำรวจของบังกลาเทศระบุว่า ขณะเกิดเหตุเรือล่มกลางแม่น้ำ มีผู้โดยสารจำนวนหนึ่งว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งหรือได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และมีผู้สูญหายอีกราว 10 คน ด้านผู้โดยสารที่รอดชีวิตจากเหตุดังกล่าวเผยว่า เรือลำดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารกว่า 80 คน เหตุเรือล่มในครั้งนี้นับเป็นหายนะทางน้ำครั้งใหญ่ที่สุดของบังกลาเทศ นับตั้งแต่เกิดเหตุเรือข้ามฟากบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าอัตราที่กำหนดชนกับเรือบรรทุกสินค้าในปี 2558 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 78 คน.-สำนักข่าวไทย

พนมเปญ 23 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยของกัมพูชาเร่งค้นหาผู้สูญหายชาวจีน 23 คน หลังเกิดเหตุเรือล่มนอกชายฝั่งเมืองพระสีหนุ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ กำปงโสม เมื่อช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี เมืองพระสีหนุ หรือสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นแหล่งกาสิโนและเมืองชายทะเลยอดนิยมของกัมพูชา เผยวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งออกค้นหาผู้สูญหายชาวจีน 23 คน หลังเกิดเหตุเรือล่มนอกชายฝั่งเมืองพระสีหนุ เมื่อช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี ขณะนี้สามารถช่วยชีวิตผู้โดยสารจากเหตุเรือล่มได้แล้ว 18 คน แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เรือล่ม เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนผู้รอดชีวิตอยู่ที่อีกเกาะหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ทางการท้องถิ่นเมืองพระสีหนุไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อของชาวจีนที่อยู่บนเรือ และไม่ทราบแน่ชัดว่ามีชาวกัมพูชาอยู่ในกลุ่มผู้ที่ได้รับการช่วยชีวิตหรือผู้สูญหายหรือไม่ แต่มีผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง วัย 27 ปี ที่เป็นชาวเมืองเฉินกุ้ยเชิงในมณฑลฝูเจี้ยน ระบุว่าเรือลำนี้บรรทุกผู้โดยสาร 41 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิง 3 คน ทั้งนี้ ตำรวจชายแดนของกัมพูชาได้เริ่มปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตในเบื้องต้น และขอความร่วมมือจากเรือประมงกัมพูชาให้ช่วยกันค้นหาผู้รอดชีวิต โดยประกาศมอบเงินรางวัล 2 ล้านเรียลกัมพูชา (ราว 18,000 บาท) ให้แก่ชาวประมงที่พบผู้รอดชีวิต.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 4 ส.ค. – เกิดเหตุฝนตกหนักในหลายจังหวัดทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ทำให้เกิดน้ำท่วมถนน น้ำล้นตลิ่งแม่น้ำ มีผู้สูญหาย 3 คน และต้องอพยพคนมากถึง 500,000 คนออกจากหลายพื้นที่ในวันนี้ บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า พื้นที่ในจังหวัดนีงาตะมีปริมาณฝนสูงถึง 500 มิลลิเมตรในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานับถึงเวลา 13.00 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ทางการท้องถิ่นต้องประกาศเตือนภัยพิบัติระดับสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ผ่านโทรทัศน์แสดงให้เห็นภาพสะพานหลายแห่งถูกตัดขาด น้ำท่วมท้องถนน รวมถึงการสั่งระงับเดินรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นในบางเส้นทางเป็นการชั่วคราว สำนักงานบริหารจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติของญี่ปุ่น ระบุว่า ขณะนี้ ทางการท้องถิ่นได้สั่งอพยพประชาชนราว 500,000 คนออกจากพื้นที่ของจังหวัดนีงาตะ อิชิกาวะ และยามากาตะ แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แม้พื้นที่ส่วนใหญ่ที่เผชิญกับอุทกภัยครั้งนี้เป็นพื้นที่ชนบท แต่ก็เป็นที่ตั้งของหลายโรงงานจำนวนมาก เช่น โรงงานผลิตชิปของบริษัทเรเนซัส อิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป ที่สั่งหยุดการผลิตที่โรงงานในจังหวัดยามากาตะ หลังทางการท้องถิ่นประกาศแจ้งเตือนภัยฝนตกหนักในช่วงเย็นวันพุธ แต่กระบวนการผลิตส่วนใหญ่กลับมาเริ่มดำเนินงานได้ตามปกติแล้ว. -สำนักข่าวไทย

ข้อมูลจากรัฐบาลเม็กซิโก ระบุว่า จำนวนผู้สูญหายในเม็กซิโกเพิ่มขึ้นกว่า 100,000 คน ขณะที่ครอบครัวผู้สูญหายเรียกร้องให้ทางการดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อค้นหาเหยื่อจากอาชญากรรม

หน่วยกู้ภัยจีนเร่งค้นหาผู้สูญหายที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง จากเหตุอาคารสูง 8 ชั้น พังถล่มโดยไม่ทราบสาเหตุ

บริสเบน 23 ก.พ. – เหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันในรัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกของออสเตรเลีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้สูญหาย 10 คน นางแอนนาสตาเซีย พาลาสซ์ซุก มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งมีนครบริสเบนเป็นเมืองเอก แจ้งในที่ประชุมรัฐสภาวันนี้ว่า รัฐควีนส์แลนด์พบร่างผู้เสียชีวิต วัย 60 ปี ติดอยู่ในรถยนต์ที่จมน้ำท่วมหลังเกิดเหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทางการต้องสั่งปิดถนนและการสัญจรจนทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่ว รัฐควีนส์แลนด์อาจยังคงมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่และมีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันสูงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากเขื่อน 15 แห่งในรัฐควีนส์แลนด์มีระดับน้ำใกล้เต็มความจุแล้ว ในขณะเดียวกัน หน่วยงานรับมือภาวะฉุกเฉินหลายแห่งในรัฐควีนส์แลนด์ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือหลายร้อยครั้งจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในสถานการณ์น้ำท่วม และเร่งส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำเข้าไปช่วยอพยพประชาชนหลายสิบคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เหตุฝนตกและน้ำท่วมยังทำให้รถไฟขนส่งสินค้าตกรางพลิกคว่ำในย่านชนบทของรัฐควีนส์แลนด์ โดยที่คนขับรถไฟมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ด้านสื่อท้องถิ่นของออสเตรเลียรายงานอ้างคำพูดของตำรวจท้องถิ่นที่ระบุว่า มีผู้สูญหาย 10 คนจากเหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน พร้อมประกาศเตือนผู้ขับขี่ยานยนต์ให้หลีกเลี่ยงการขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมและไม่ควรเดินทางออกนอกบ้านในช่วงนี้.-สำนักข่าวไทย

ย่างกุ้ง 23 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเมียนมาพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รายจากเหตุดินถล่มเหมืองหยกผิดกฎหมายในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมียนมาเมื่อวันพุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 3 ราย และสูญหายอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเมียนมาพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รายในทะเลสาบที่อยู่ใกล้เหมืองหยกดังกล่าวในวันนี้ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3 ราย หลังจากที่เมื่อวานนี้พบผู้เสียชีวิต 1 ราย แต่ต้องยุติปฏิบัติการค้นหา เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศที่มีหมอกหนาจัดและฝนตกในช่วงกลางคืน ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยคาดว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 70 คนหลังเกิดเหตุดินถล่มเหมืองหยกเมื่อช่วงเช้ามืดวันพุธ แต่ระบุในเวลาต่อมาว่ายังไม่ทราบตัวเลขผู้สูญหายที่แน่ชัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยขององค์กรกู้ภัยเมียนมาร์ กล่าวว่า สภาพอากาศในวันนี้แจ่มใส และมีทีมกู้ภัย 6 ทีมที่กำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ทั้งยังระบุว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้มีสาเหตุจากกองดินและหินที่กวาดแรงงานตกลงไปในทะเลสาบที่ตั้งอยู่ใกล้เหมืองหยก. -สำนักข่าวไทย

เนปิดอว์ 22 ธ.ค. – เกิดเหตุดินถล่มที่เหมืองหยกแห่งหนึ่งในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมียนมาในช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าอาจมีผู้สูญหายมากถึง 80 คน แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่มูลนิธิเครือข่ายข่าวคะฉิ่นเพื่อการพัฒนาเผยว่า เกิดเหตุดินถล่มที่เหมืองหยกแห่งหนึ่งในเมืองพากันของรัฐคะฉิ่นเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าเหตุดังกล่าวอาจทำให้แรงงานราว 80 คนถูกเศษซากจากการทำเหมืองกวาดตกลงไปในทะเลสาบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินทางถึงที่เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. และกำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต แต่ยังคงไม่พบผู้เสียชีวิตในขณะนี้ ในขณะเดียวกัน เว็บไซต์ข่าวมิซซิมา และสำนักข่าวขิต ทิต ของเมียนมา รายงานว่า มีผู้สูญหายหลายสิบรายจากเหตุดินถล่มที่เหมืองหยกดังกล่าว ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหยกแบบลับ ๆ ของเมียนมา ก่อนหน้านี้ เพิ่งเกิดเหตุดินถล่มที่เหมืองอีกแห่งในเมียนมาเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย ทั้งนี้ เหมืองหลายแห่งที่ขาดการควบคุมอย่างเคร่งครัดของเมืองพากันมักเกิดเหตุดินถล่มและอุบัติเหตุอื่น ๆ อยู่เป็นประจำ โดยมีแรงงานยากจนจากทั่วประเทศแห่เข้ามาทำงานในเหมืองเพื่อขุดหาหยกส่งออกไปยังจีน. -สำนักข่าวไทย

กัวลาลัมเปอร์ 20 ธ.ค. – เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 100 ปีของมาเลเซียช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายในรัฐสลังงอร์และรัฐปะหังของมาเลเซีย และมีผู้สูญหาย 8 คน ตำรวจของนครชาห์อาลัม ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐสลังงอร์ เผยวันนี้ว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม 3 รายที่นครชาห์อาลัม ขณะที่สำนักข่าวแห่งชาติมาเลเซีย หรือเบอร์นามา รายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 1 รายที่นครกวนตันในรัฐปะหัง และอีก 1 รายที่เมืองกัมปุงเจมปากาของรัฐสลังงอร์ นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งว่ามีผู้สูญหายอีก 8 คนในรัฐปะหัง โดยคาดว่าทั้งหมดถูกกระแสน้ำพัดหาย สำนักข่าวเบอร์นามารายงานอ้างคำพูดของเลขาธิการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำของมาเลเซียว่า ปกติกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียมีปริมาณน้ำฝนต่อปีที่ 2,400 มม. แต่ปริมาณน้ำฝนเมื่อวันศุกร์วันเดียวกลับสูงกว่าค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำฝนต่อเดือน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกินคาดหมายและมักเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 100 ปี นอกจากนี้ เหตุน้ำท่วมในครั้งนี้ยังทำให้ประชาชนกว่า 41,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว และมีหลายคนที่ติดอยู่ในรถยนต์และที่อยู่อาศัย ขณะที่สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของมาเลเซียระบุว่า มี 7 รัฐ และ 1 ดินแดนที่รัฐบาลกลางปกครองโดยตรงที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ ได้แก่ รัฐกลันตัน […]

มะนิลา 20 ธ.ค.- สื่อฟิลิปปินส์รายงานอ้างตำรวจว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นราอี (Rai) พัดถล่มเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 208 คน บาดเจ็บ 239 คน และสูญหายอยู่ 52 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยบรรยาสภาพพื้นที่ประสบภัยว่า เสียหายยับเยิน แต่ยังไม่ทราบขอบเขตความเสียหายที่แท้จริงเพราะหลายพื้นที่ถูกตัดขาดการสื่อสาร คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกเพราะมีน้ำท่วมและดินถล่มในวงกว้าง สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศได้ขอความช่วยเหลือฉุกเฉินมูลค่า 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 737 ล้านบาท) เพื่อใช้ในการบรรเทาทุกข์ระยะยาว ขณะที่ทางการฟิลิปปินส์ส่งทหาร หน่วยยามฝั่ง และนักดับเพลิงลงพื้นที่เพื่อค้นหาและกู้ภัยแล้ว ด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตออกสำรวจความเสียหายทางอากาศ คนสนิทของเขาโพสต์ภาพมุมสูงเห็นความเสียหายในวงกว้างทีจังหวัดซีอาร์เกา ดินากัต และมินดาเนา สำนักงานบริการด้านบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์ของฟิลิปปินส์หรือปากาซา (PAGASA) จัดให้ราอีเป็นไต้ฝุ่น เพราะมีความเร็วลมขณะขึ้นฝั่ง 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่สื่อตะวันตกหลายแห่งรายงานว่าเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นที่เป็นพายุรุนแรงที่สุดที่กระหน่ำฟิลิปปินส์ในปีนี้ บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ระบุว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นราอีเกิดขึ้นช้ากว่าปกติ เพราะฤดูไต้ฝุ่นในภูมิภาคมักเกิดขึ้นช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม นักวิทยาศาสตร์เตือนมานานแล้วว่า อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากกิจกรรมส่วนใหญ่ของคน กำลังทำให้ไต้ฝุ่นมีความรุนแรงมากขึ้นและทวีกำลังเร็วยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย