IMF-ปากีสถานยังไม่ได้ข้อตกลงช่วยเหลือทางการเงิน

อิสลามาบัด 10 ก.พ.- คณะตัวแทนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) เดินทางออกจากปากีสถานแล้วในวันนี้ โดยที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงความช่วยเหลือทางการเงินกับรัฐบาลปากีสถานที่จะช่วยปกป้องเศรษฐกิจปากีสถานไม่ให้พังทลาย คณะตัวแทนของไอเอ็มเอฟเดินทางถึงปากีสถานเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อเดินหน้าการเจรจากับรัฐบาลที่หยุดชะงักมาหลายเดือน ไอเอ็มเอฟแถลงว่า มีความคืบหน้าพอสมควรเรื่องมาตรการเชิงนโยบายที่จะแก้ไขความไม่สมดุลภายในและภายนอกปากีสถาน ทั้ง 2 ฝ่ายจะหารือทางออนไลน์ในเร็ว ๆ นี้เพื่อให้ได้ข้อสรุปเรื่องรายละเอียดการปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้ ด้านนายอิสฮัก ดาร์ รัฐมนตรีคลังของปากีสถานแถลงหลังจากคณะตัวแทนของไอเอ็มเอฟเดินทางกลับในเช้าวันนี้ว่า การเจรจาได้ข้อสรุปด้วยดี และไอเอ็มเอฟได้นำเสนอร่างบันทึกนโยบายที่เห็นพ้องกันอย่างกว้าง ๆ ให้แก่รัฐบาลแล้ว เศรษฐกิจปากีสถานตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เนื่องจากเผชิญวิกฤตเรื่องดุลการชำระเงิน อันเป็นผลจากการที่มีหนี้ต่างประเทศในระดับสูง ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองเต็มไปด้วยวุ่นวาย และสถานการณ์ความมั่นคงเลวร้ายลง อัตราเงินเฟ้อพุ่งทะยาน เงินรูปีปากีสถานอ่อนค่า และไม่มีเงินนำเข้าสินค้าแล้ว ธนาคารกลางปากีสถานแจ้งว่า เหลือทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศเพียง 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 97,585 ล้านบาท) นับจนถึงวันศุกร์ที่แล้ว ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถานกล่าวถึงเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟในการปล่อยเงินกู้จำนวน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 40,380 ล้านบาท) ว่า ยากเกินกว่าที่จะคาดคิดได้ ซึ่งหมายถึงเรื่องที่ไอเอ็มเอฟต้องการให้ปากีสถานปรับขึ้นฐานภาษีที่ต่ำมาก ยกเลิกการยกเว้นภาษีให้ภาคการส่งออก ขึ้นราคาน้ำมัน ไฟฟ้า และก๊าซที่ต่ำกว่าความเป็นจริง คงปริมาณเงินดอลลาร์สหรัฐของธนาคารกลางให้มีความยั่งยืนด้วยการขอความสนับสนุนจากพันธมิตรอย่างซาอุดีอาระเบีย จีน […]

เตรียมฝังศพอดีตผู้นำปากีสถานวันนี้

การาจี 7 ก.พ.- พล.อ.เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ อดีตประธานาธิบดีปากีสถานที่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันอาทิตย์ จะได้รับการฝังศพในวันนี้ ทั้งนี้แม้ไม่มีการประกาศข่าวพิธีฝังศพ พล.อ.มูชาร์ราฟอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวทางการบินเผยว่า เครื่องบินบรรทุกร่างของเขาได้ลงจอดที่นครการาจีเมื่อเย็นวันจันทร์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารที่ขอสงวนนามคาดว่า พล.อ.มูชาร์ราฟจะได้รับการฝังที่นครการาจีในวันนี้ อดีตผู้นำปากีสถานถึงแก่อสัญกรรมที่นครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วยวัย 79 ปี เขาเดินทางไปรักษาตัวตั้งแต่ปี 2549 หลังจากทางการยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ครอบครัวเผยเมื่อปีที่แล้วว่า หมดหวังที่เขาจะหายจากโรคอะไมลอยด์โดสิส ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ยาก เกิดจากร่างกายสร้างโปรตีนอะมีลอยด์มากเกินไปจนไปสะสมตามเนื้อเยื่อของอวัยวะต่าง ๆ พล.อ.มูชาร์ราฟยึดอำนาจในปี 2542 ด้วยการรัฐประหารอย่างไร้การนองเลือด จากนั้นขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ผู้บัญชาการกองทัพ และหัวหน้ารัฐบาลในปี 2544 เขาเป็นพันธมิตรคนสำคัญของสหรัฐในช่วงที่สหรัฐยกกำลังบุกโค่นล้มตอลิบานในอัฟกานิสถานในปีเดียวกัน ทำให้กลุ่มติดอาวุธไม่พอใจ และพยายามลอบสังหารเขาหลายครั้ง พล.อ.มูชาร์ราฟรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศจำนวนมาก ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตและมีการปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันได้ระงับการใช้รัฐธรรมนูญถึง 2 ครั้ง ทำให้ถูกกล่าวหาว่าหาทางเพิ่มอำนาจให้ตนเอง ละเมิดสิทธิอย่างกว้างขวาง รวมถึงการกวาดล้างฝ่ายต่อต้านตลอด 9 ปีที่อยู่ในอำนาจตั้งแต่ปี 2542-2551.-สำนักข่าวไทย

“เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ” อดีตผู้นำปากีสถานถึงแก่อสัญกรรม

กองทัพปากีสถานเปิดเผยวันนี้ว่า พลเอกเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ อดีตประธานาธิบดีปากีสถานถึงแก่อสัญกรรม ที่นครดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยวัย 79 ปี จากโรคที่เขาเป็นมานานแล้ว

ปากีสถานจะขอให้ตอลิบานห้ามปรามกลุ่มติดอาวุธ

อิสลามาบัด 4 ก.พ.- ปากีสถานจะขอให้ผู้นำกลุ่มตอลิบานที่ปกครองอัฟกานิสถานอยู่ในขณะนี้ ห้ามปรามกลุ่มติดอาวุธที่เคลื่อนไหวอยู่ในปากีสถาน หลังจากเกิดเหตุระเบิดมัสยิดในสำนักงานตำรวจปากีสถานเมื่อต้นสัปดาห์ เจ้าหน้าที่สอบสวนของปากีสถานระบุว่า เหตุระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อวันจันทร์ที่มีผู้เสียชีวิต 84 คนที่มัสยิดในเมืองเปชวาร์ แคว้นไคเบอร์ปักตุนควา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานและใกล้กับพรมแดนอัฟกานิสถาน เป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธที่โยงใยกับกลุ่มตอลิบานปากีสถาน หรือเดิมเรียกว่า กลุ่มตารีค-อี-ตอลิบานปากีสถาน หรือทีทีพี (TTP) กลุ่มนี้สืบเชื้อสายและมีอุดมการณ์เดียวกับตอลิบานอัฟกานิสถาน ผู้ช่วยพิเศษของนายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟของปากีสถานเผยว่า รัฐบาลจะส่งคณะผู้แทนไปอัฟกานิสถานและอิหร่าน เพื่อขอให้ทั้ง 2 ประเทศสร้างความมั่นใจว่าจะไม่ปล่อยให้กลุ่มก่อการร้ายใช้เป็นฐานเคลื่อนไหวต่อต้านปากีสถาน ตำรวจท้องถิ่นเผยว่า คณะผู้แทนปากีสถานจะเข้าพบผู้นำตอลิบานคือนายฮิบาตุลเลาะห์ อัคฮุนด์ซาดา ด้านนายอามีร์ ข่าน มุตตากี รัฐมนตรีต่างประเทศอัฟกานิสถานเตือนเมื่อวันพุธว่า ปากีสถานไม่ควรโยนความผิดให้ประเทศอื่น และควรแก้ปัญหาภายในบ้านของตัวเอง ทั้งนี้นับตั้งแต่ตอลิบานกลับมาปกครองอัฟกานิสถานในเดือนสิงหาคม 2564 ปากีสถานเกิดเหตุโจมตีบริเวณชายแดนด้านติดกับอัฟกานิสถานเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากกลุ่มติดอาวุธอาศัยพื้นที่ทุรกันดารเป็นฐานก่อเหตุและหลบซ่อนตัว ปากีสถานเคยถูกกล่าวหาว่า สนับสนุนตอลิบานอัฟกานิสถานในช่วงที่สหรัฐเข้ามาแทรกแซงการปกครองในอัฟกานิสถานนาน 20 ปี นับตั้งแต่สหรัฐนำกองกำลังบุกโค่นตอลิบาน หลังเกิดเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544.-สำนักข่าวไทย

ปากีสถานแจ้งปรับลดยอดผู้เสียชีวิตเหตุระเบิดมัสยิดเหลือ 84

อิสลามาบัด 2 ก.พ. – ตำรวจปากีสถานแจ้งปรับตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดมัสยิดที่ตั้งอยู่ในสำนักงานตำรวจเมืองเปชวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานเมื่อวันจันทร์ ลดลงเหลือ 84 คน หลังจากที่ก่อนหน้านี้รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 101 คน หัวหน้าสำนักงานตำรวจเมืองเปชวาร์ ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคว้นไคเบอร์ปักตุนควาที่อยู่ใกล้กับพรมแดนอัฟกานิสถาน เผยว่า เหตุระเบิดมัสยิดดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 84 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากเดิมที่เคยรายงานไว้ 101 คน เนื่องจากเกิดข้อผิดพลาดและความสับสนในการลงทะเบียนซ้ำของครอบครัวผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาล ทั้งยังระบุว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิต 84 คน ประกอบด้วยตำรวจ 83 นาย และพลเรือนผู้หญิง 1 คนที่ทำงานอยู่ในมัสยิด ขณะที่หัวหน้าสำนักงานตำรวจของแคว้นไคเบอร์ปักตุนควาได้ออกมายืนยันความถูกต้องของตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวเช่นกัน ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้มีตำรวจอีกหลายนายที่มีอาการบาดเจ็บสาหัสและยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ก่อนหน้านี้ เหตุระเบิดมัสยิดดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ตำรวจหลายร้อยนายกำลังเข้าร่วมพิธีสวดมนต์ในช่วงบ่ายวันจันทร์ในเมืองเปชวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน หลังจากที่อิหม่ามเริ่มนำสวดได้เพียงไม่กี่วินาที จนทำให้หลังคามัสยิดเกือบทั้งหมดพังถล่มทับตำรวจหลายร้อยนาย.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจปากีสถานเผยมือระเบิดมัสยิดสวมชุดตำรวจ

อิสลามาบัด 2 ก.พ. – ตำรวจปากีสถานระบุว่า คนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดมัสยิดที่ตั้งอยู่ในสำนักงานตำรวจเมืองเปชวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานเมื่อวันจันทร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 101 คน เป็นผู้ที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบตำรวจในขณะก่อเหตุ หัวหน้าตำรวจของแคว้นไคเบอร์ปักตุนควา ซึ่งอยู่ใกล้กับพรมแดนของอัฟกานิสถานและมีเมืองเปชวาร์เป็นเมืองเอก แถลงวันนี้ว่า ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นไม่ได้ตรวจค้นตัวคนร้ายรายนี้ เนื่องจากเขาสวมเครื่องแบบตำรวจเหมือนกัน ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งยังระบุว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้ลงมือเพียงคนเดียว แต่มีเครือข่ายหนุนหลัง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของเมืองเปชวาร์ กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทางการท้องถิ่นกำลังสืบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่มีบุคคลอื่น ๆ ในมัสยิดรู้เห็นเป็นใจและช่วยเหลือมือระเบิดให้ก่อเหตุดังกล่าว ขณะนี้ ทางการท้องถิ่นได้ควบคุมตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างน้อย 23 คนเพื่อสอบสวนเส้นทางของระเบิดและตรวจสอบว่ามีตำรวจคนใดพัวพันกับเหตุโจมตีในครั้งนี้บ้าง เหตุระเบิดมัสยิดดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ตำรวจหลายร้อยนายกำลังเข้าร่วมพิธีสวดมนต์ในช่วงบ่ายวันจันทร์ในเมืองเปชวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน หลังจากที่อิหม่ามเริ่มนำสวดได้เพียงไม่กี่วินาที จนทำให้หลังคามัสยิดเกือบทั้งหมดพังถล่มทับตำรวจหลายร้อยนาย และมีผู้เสียชีวิต 101 คน.-สำนักข่าวไทย

ระเบิดมัสยิดปากีสถาน ตายเพิ่มเป็น 100 คน

อิสลามาบัด 1 ก.พ. – เหตุระเบิดมัสยิดที่ตั้งอยู่ในสำนักงานตำรวจเมืองเปชวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานเมื่อวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 100 คน ขณะที่ตำรวจคาดว่าเหตุดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มตอลิบานในปากีสถานที่ต้องการแก้แค้นเจ้าหน้าที่รัฐ หัวหน้าสำนักงานตำรวจเมืองเปชวาร์ ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคว้นไคเบอร์ปักตุนควาที่ใกล้กับพรมแดนของอัฟกานิสถาน กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ตำรวจเมืองเปชวาร์กำลังเดินหน้าปรามปรามกลุ่มก่อการร้ายอย่างเข้มงวด และทำให้ตกเป็นเป้าหมายโจมตีของกลุ่มนี้เพื่อทำให้ตำรวจเสียขวัญกำลังใจ ทั้งยังระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ตัดสินใจยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตแล้วเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร โดยพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 100 คนและส่งตัวผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังเข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจปากีสถานไม่เผยนามนายหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บจากอาการกระดูกเท้าหักหลังเกิดเหตุระเบิดที่มัสยิด เผยว่า เขาติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังโดยมีศพผู้เสียชีวิตทับอยู่บนตัวเขามาเป็นเวลานานถึง 7 ชั่วโมงจนไม่คิดว่าตนเองจะมีชีวิตรอด ขณะที่ตำรวจอีกนายที่รอดชีวิตจากเหตุดังกล่าวระบุว่า เขาได้ยินเสียงระเบิดดังลั่นหลังอิหม่ามเริ่มนำสวดได้เพียงไม่กี่วินาที ขณะที่หัวหน้าสำนักงานตำรวจของแคว้นไคเบอร์ปักตุนควา เผยว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายเข้ามาที่มัสยิดแห่งนี้ในฐานะผู้เยี่ยมชม โดยพกวัตถุระเบิดหนัก 10-12 กิโลกรัมติดตัวมาด้วย และเชื่อว่ากลุ่มตอลิบานในปากีสถานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ มีตำรวจราว 300-400 นายรวมตัวกันอยู่ในมัสยิดของสำนักงานตำรวจเมืองเปชวาร์เมื่อวันจันทร์ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดขึ้นจนทำให้หลังคามัสยิดเกือบทั้งหมดพังถล่มทับตำรวจหลายร้อยนาย.-สำนักข่าวไทย

ระเบิดมัสยิดปากีสถานตายเพิ่มเป็นกว่า 80 คน

เหตุระเบิดมัสยิดที่ตั้งอยู่ในสำนักงานตำรวจเมืองเปชวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานเมื่อวันจันทร์ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นมากกว่า 80 คน แล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบศพเพิ่มเติมใต้ซากอาคาร และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 150 คน

เหตุระเบิดมัสยิดในปากีสถาน ตาย 61 เจ็บกว่า 150 คน

เหตุระเบิดมัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองเปชวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน เมื่อวานนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 61 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 150 คน

ปากีสถานรถบัสตกเหว-เรือล่มในวันเดียว คร่า 51 ชีวิต

ปากีสถานเกิดเหตุโศกนากฏกรรมเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งซ้อน ภายในวันเดียวกัน ทั้งรถโดยสารพุ่งตกเหว และเรือล่ม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยถึง 51 คน

เรือล่มในปากีสถาน-เด็กเสียชีวิต 10 ราย

ตำรวจท้องถิ่นของปากีสถานกล่าวว่า เกิดเหตุเรือล่มในวันนี้ในทะเลสาบทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้เด็ก 10 คนที่โดยสารมาในเรือเสียชีวิต

1 5 6 7 8 9 40
...