ปากีสถาน 30 ม.ค.- ปากีสถานเกิดเหตุโศกนากฏกรรมเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งซ้อน ภายในวันเดียวกัน ทั้งรถโดยสารพุ่งตกเหว และเรือล่ม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยถึง 51 คน
เหตุการณ์แรกเป็นอุบัติเหตุรถบัสพุ่งตกเหว เกิดขึ้นในจังหวัดบาลูจิสถาน ทางภาคตะวันตก ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 41 คน เวลานี้สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถได้แล้ว 40 ศพ หลายศพถูกไฟคลอกจนจำสภาพไม่ได้ ขณะที่พบผู้รอดชีวิต 3 คน ทั้งหมดอาการสาหัส และ 1 ใน 3 คน เสียชีวิตในเวลาต่อมา
หัวหน้าทีมกู้ภัยเปิดเผยว่า บนรถโดยสารคันดังกล่าว มีการบรรทุกถังน้ำมันมาด้วย ทำให้เกิดการระเบิด และไฟลุกท่วมอย่างรุนแรง จนไม่สามารถควบคุมได้ หลังจากที่รถพุ่งตกลงไปในเหว มีรายงานว่าบนรถบัสมีผู้โดยสาร 48 คน ขณะที่รถพุ่งเข้าชนเสาสะพานจนกระทั่งเสียหลักพุ่งตกลงไปในเหวเบื้องล่าง สันนิษฐานว่าคนขับอาจจะหลับใน และรถอาจจะแล่นมาด้วยความเร็ว เพราะเป็นรถโดยสารทางไกลที่เดินทางระหว่างเมืองเกตตาในจังหวัดบาลูจิสถาน กับเมืองท่าการาจี ทางภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป
ต่อมาในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เกิดเหตุเรือโดยสารรับ-ส่งนักเรียนล่มในทะเลสาบแทนดาในจังหวัดไคเบอร์ ปัคตุนควาห์ ทำให้นักเรียนเสียชีวิตไป 10 คน เป็นเด็กอายุระหว่าง 7-10 ขวบ และมีผู้รอดชีวิต 17 คน จนถึงขณะนี้ยังมีนักเรียนสูญหายอีก 3 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหา เหตุการณ์เรือล่มเกิดขึ้นในระหว่างที่เด็กๆ กำลังออกไปทัศนศึกษา จนถึงขณะนี้พบข้อมูลว่าเรือลำที่ประสบเหตุมีสภาพเก่าทรุดโทรม นอกจากนี้ ยังมีการบรรทุกเกินน้ำหนักอีกด้วย
ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า เมื่อปี 2561 ปากีสถานมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติทางรถกว่า 27,000 คน สาเหตุมาจากความประมาท และขาดมาตรการด้านความปลอดภัยที่เหมาะสม ขณะที่เหตุการณ์เรือล่มจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งเช่นกัน สาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากเรือมีสภาพเก่าชำรุด และบรรทุกน้ำหนักเกิน.-สำนักข่าวไทย