ชาวเกาหลีใต้หลายพันคนชุมนุมสนับสนุน ปธน.
ผู้สนับสนุนประธานาธิบดียุน ซ็อก ยอล ของเกาหลีใต้หลายพันคนชุมนุมในกรุงโซล ในวันนี้ เรียกร้องให้คืนอำนาจให้ประธานาธิบดี หลังจากเขาถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง
ผู้สนับสนุนประธานาธิบดียุน ซ็อก ยอล ของเกาหลีใต้หลายพันคนชุมนุมในกรุงโซล ในวันนี้ เรียกร้องให้คืนอำนาจให้ประธานาธิบดี หลังจากเขาถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง
โฆษกทำเนียบเครมลินของรัสเซีย เผยวานนี้ว่า ประธาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ยังไม่ได้รับคำเชิญอย่างเป็นทางการจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐให้เข้าร่วมในพิธีสาบานตน
พรรคประชาธิปไตย หรือ ดีพี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของเกาหลีใต้ ยื่นญัตติเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ให้ถอดถอนประธานาธิบยุน ซอก ยอล ออกจากตำแหน่ง จากการที่เขาประกาศกฎอัยการศึก
ประธานาธิบดียยุน ซอก ยอล ของเกาหลีใต้กล่าววันนี้โจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของเขาและกล่าวปกป้องการตัดสินใจประกาศใข้กฎอัยการศึก ซึ่งถูกบังคับใช้ไม่นานก่อนที่จะยกเลิกไป
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเชิญประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคมปีหน้า
โซล 11 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่สืบสวนเกาหลีใต้ได้เข้าไปตรวจค้นทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อหาหลักฐานในเช้าวันนี้ หัวหน้าหน่วยสืบสวนยืนยันว่า หากเข้าองค์ประกอบกระทำผิดก็จะจับกุมทันที นายยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างหนักให้ลาออก จากการประกาศกฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา และในช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล แต่นายยูนไม่ได้อยู่ในทำเนียบ และยังไม่มีรายละเอียดออกมา นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจค้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจนครบาล และ หน่วยตำรวจอารักขาสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย การตรวจค้นครั้งนี้ดำเนินการโดยหน่วยสืบสวนพิเศษของตำรวจ ขณะที่นาย โอ ดง-อุน ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนการทุจริตคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือซีไอโอ (CIO) ได้ให้การต่อรัฐสภา ยืนยันว่า กำลังสืบสวนอย่างรอบด้าน และจะจับกุมประธานาธิบดีอย่างแน่นอนหากพบหลักฐานรัดกุม.-812(814).-สำนักข่าวไทย
โซล 8 ธ.ค.- อัยการเกาหลีใต้จับกุมอดีตรัฐมนตรีกลาโหมในวันนี้จากการที่ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทสำคัญในเรื่องที่ประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึก ขณะที่พรรครัฐบาลแถลงว่า ประธานาธิบดีจะลงจากตำแหน่งก่อนครบวาระ สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า คณะสอบสวนพิเศษได้สอบปากคำนายคิม ยง-ฮยอนที่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยที่นายคิมเดินทางไปที่สำนักงานอัยการเขตโซลกลางด้วยความสมัครใจเมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 23.30 น.วันเสาร์ตามเวลาไทย ด้านตำรวจได้ตรวจค้นสำนักงานของนายคิมในวันนี้เพื่อหาหลักฐานประกอบการสอบสวนเรื่องประธานาธิบดีและรัฐมนตรีเป็นกบฏ พรรคฝ่ายค้านขนาดเล็ก 3 พรรคได้ยื่นเรื่องต่ออัยการ ฟ้องร้องนายยุน นายคิม และนายพัก อัน-ซู ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะผู้บัญชาการการใช้กฎอัยการศึก โดยกล่าวหาทั้ง 3 คนในข้อหากบฏ หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจะมีโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต โดยอาจถูกบังคับใช้แรงงานในเรือนจำด้วย ขณะเดียวกันนายฮัน ดง-ฮุน ประธานพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลแถลงร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮัน ด็อก-ซูในเช้าวันนี้ว่า ประธานาธิบดียุนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกิจการต่างประเทศและกิจการอื่น ๆ ของรัฐก่อนลงจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ประธานาธิบดียุนได้แถลงต่อประชาชนทั่วประเทศเมื่อวานนี้ ขออภัยที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกและจะไม่หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบทางกฎหมายและทางการเมือง แต่ไม่ได้ประกาศว่าจะลาออก หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงเขารอดพ้นจากการลงมติถอดถอนจากตำแหน่ง เนื่องจากสมาชิกสภาเกือบทั้งพรรคของพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลคว่ำบาตรการลงมติ แม้ว่าด้านนอกสมัชชาแห่งชาติมีประชาชนชุมนุมเป็นจำนวนมากก็ตาม.-814.-สำนักข่าวไทย
ฮามา 6 ธ.ค.- สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปภาพเหตุการณ์ในขณะที่รูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด บิดาของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียถูกโค่นลงจากฐานในเมืองฮามา ซึ่งเป็นเมืองที่กลุ่มกบฏบุกเข้าไปได้เมื่อวันก่อน คลิปดังกล่าวเห็นฝูงชนในเมืองฮามาตะโกนสรรเสริญพระเจ้า ในขณะที่รูปปั้นของบิดาผู้นำซีเรียถูกกลุ่มผู้ประท้วงดึงโค่นลงจากฐานเมื่อค่ำวันที่ 5 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น นายฮาเฟซ อัล-อัสซาด เป็นประธานาธิบดีซีเรียตั้งแต่ปี 2514 จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมในปี 2543 จากนั้นนายบาชาร์ อัล-อัสซาด บุตรคนที่ 3 และบุตรชายคนที่ 2 จึงสืบทอดตำแหน่งต่อ เนื่องจากนายบาสเซล อัล-อัสซาด บุตรคนที่ 2 และบุตรชายคนโตที่ถูกมองว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ได้เสียชีวิตเสียก่อนจากอุบัติเหตุรถยนต์ในปี 2537 ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันมีการเผยแพร่คลิปและภาพนิ่งกลุ่มกบฎบุกเข้าเมืองฮามาที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของซีเรีย และอยู่ห่างจากกรุงดามัสกัสขึ้นไปทางเหนือ 213 กิโลเมตร หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลุ่มกบฏสามารถบุกเข้าเมืองอาเลปโปที่อยู่ทางเหนือได้เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเมืองที่กลุ่มกบฏถูกกองทัพซีเรียร่วมกับพันธมิตรขับออกไปในปี 2559.-814.-สำนักข่าวไทย
บิตคอยน์ สกุลเงินดิจิทัลซึ่งได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก มีราคาพุ่งขึ้นเหนือ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 3.4 ล้านบาท เป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้
กลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายค้าน 6 พรรค ร่วมกันยื่นญัตติในวันนี้ เพื่อให้มีการพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ออกจากตำแหน่ง
มะนิลา 25 พ.ย.- ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ประกาศจะสู้กลับ หลังจากรองประธานาธิบดีที่มีปัญหากันกล่าวว่า เธอได้สั่งคนให้ลอบสังหารเขาหากเธอถูกสังหาร ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ วัย 67 ปี กล่าวในการบันทึกเทปถึงประชาชนทั่วประเทศอย่างแข็งกร้าวว่า ถ้อยคำที่มีผู้พูดในช่วงหลายวันมานี้กำลังก่อปัญหา เป็นการใช้คำสาบและคำขู่อย่างไร้ความยั้งคิดว่าจะสังหารคนอื่น หากการวางแผนการลอบสังหารประธานาธิบดีเป็นเรื่องง่ายดายเช่นนั้น แล้วประชาชนคนธรรมดาจะเป็นอย่างไร จึงไม่ควรมองข้ามการวางแผนก่ออาชญากรรมเช่นนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวโดยไม่ได้ระบุชื่อนางซารา ดูเตอร์เต รองประธานาธิบดีหญิงวัย 46 ปี ที่เป็นผู้สมัครคู่กับเขาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีปี 2565 และเป็นบุตรสาวคนโตของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต หลังจากที่เธอตอบคำถามระหว่างการแถลงข่าวทางออนไลน์เมื่อวันเสาร์ว่า เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ว่า เธอได้สั่งให้คนลอบสังหารนายมาร์กอส จูเนียร์ รวมถึงภรรยาของเขาและประธานสภาผู้แทนราษฎร หากเธอถูกลอบสังหาร คำตอบที่ดุดันดังกล่าวสะท้อนถึงความขัดแย้งล่าสุดระหว่างตระกูลมาร์กอสกับตระกูลดูเตอร์เตที่รุนแรงขึ้นนับตั้งแต่ความเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของทั้ง 2 ตระกูลพังลง หลังจากที่จับมือกันกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2565 ขณะเดียวกันนักเคลื่อนไหวชาวฟิลิปปินส์กลุ่มหนึ่งได้ชุมนุมเรียกร้องให้สมาชิกสภาเปิดการไต่สวนเพื่อถอดถอนนางดูเตอร์เต จากการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมและการนำงบประมาณไปใช้จ่ายอย่างไม่เหมาะสม.-814.-สำนักข่าวไทย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด