ชี้นโยบายรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” โดนใจประชาชน

โฆษกรัฐบาลเผย นโยบายรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” โดนใจประชาชน ชี้ผลสำรวจสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุ โครงการคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการลดค่าไฟฟ้า โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด

ผู้นำฮ่องกงเผยนโยบายครั้งแรกหวังดึงคนเก่งกลับฮ่องกง

ฮ่องกง 19 ต.ค. – นายจอห์น ลี ผู้นำสูงสุดของฮ่องกง เผยนโยบายเป็นครั้งแรกในวันนี้ว่า เขาจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของฮ่องกง การดึงคนเก่งจากต่างชาติเข้ามาทำงานในฮ่องกงให้มากขึ้น และความจำเป็นในการส่งเสริมกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีนในฮ่องกง นายลีกล่าววันนี้ว่า ฮ่องกงจะส่งเสริมระบบกฎหมายและกลไกข้อบังคับเพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติจีนต่อไป กฎหมายใหม่ที่ฮ่องกงยื่นเสนอมีความครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ การระดมทุนจากประชาชน และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ทั้งยังระบุว่า ฮ่องกงจะอนุมัติวีซ่า 2 ปีให้แก่บุคคลที่มีรายได้อย่างน้อย 2.5 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 12.1 ล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา รวมถึงบุคคลที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย 100 อันดับแรกของโลกที่มีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 3 ปี โดยที่ฮ่องกงจะพยายามใช้นโยบายดึงคนเก่งที่เป็นชาวฮ่องกงและคนเก่งจากทั่วโลกเข้ามาทำงานในฮ่องกงไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ คนเก่งที่เป็นชาวต่างชาติและตัดสินใจขอมีถิ่นที่อยู่ถาวรในฮ่องกงจะได้รับการยกเว้นค่าอากรในการซื้อที่พักอาศัยหลังแรกอีกด้วย สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายลี ซึ่งไม่ค่อยมีประสบการณ์ทำงานด้านการเงิน กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักในการฟื้นฟูอนาคตของฮ่องกงให้กลับมาเป็นศูนย์กลางด้านการเงินอีกครั้ง หลังฮ่องกงต้องเผชิญกับเหตุวุ่นวายทางการเมืองจนถูกสิงคโปร์แซงหน้า รอยเตอร์สยังระบุว่า มีชาวต่างชาติและชาวฮ่องกงกว่า 200,000 คน ซึ่งรวมถึงคนวัยหนุ่มสาวที่สนับสนุนประชาธิปไตย ได้เดินทางออกจากฮ่องกงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากรู้สึกไม่สบายใจที่จีนพยายามเข้ามาควบคุมเสรีภาพทางการเมืองในฮ่องกง รวมถึงการใช้นโยบายควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดในฮ่องกงตามแนวทางของจีน.-สำนักข่าวไทย

สธ.ย้ำขับเคลื่อนนโยบายปี 66 มุ่งหน้าการบริการที่เข้าถึงง่าย

สธ.ย้ำขับเคลื่อนนโยบายปี 66 มุ่งหน้าการบริการที่เข้าถึงง่ายแก่ประชาชน ขณะที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอำลาเกษียณราชการ ขอให้ข้าราชการสาธารณสุข ยึดความสามัคคีเอาไว้ หลังที่ร่วมใจกันฝ่าวิกฤติโควิด

“แพทองธาร” เปิด 2 นโยบายแรก อาสาขนสินค้าเกษตรไปขายต่างประเทศ

“แพทองธาร” เปิด 2 นโยบายแรก “เกษตรแบบตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” – “1 ครอบครัว 1 Soft Power” อาสาขอเป็นเซลส์แมนขนสินค้าเกษตรไปขายต่างประเทศ ระบุ เลือกเพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ เอาชนะ 3 ป. ปิดสวิตซ์ ส.ว.พร้อมเดินหน้าทำงานทันที

นักเศรษฐศาสตร์เห็นต่างกันเรื่องรับมือเงินเฟ้อในเวียดนาม

ฮานอย 6 มิ.ย.- นักเศรษฐศาสตร์มีความคิดเห็นแตกต่างกันเรื่องรัฐบาลเวียดนามควรจะรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไรท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อเวียดนามช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 2.25 สูงกว่า 5 เดือนแรกของปีก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 1.29 ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) คาดการณ์เมื่อเดือนก่อนว่า เงินเฟ้อเวียดนามจะแตะร้อยละ 3.7 ในปีนี้ ต่ำกว่าที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ไม่ให้เกินร้อยละ 4 นายจั่น ดินญ์ เทียน อดีตประธานสถาบันเศรษฐศาสตร์เวียดนามชี้ว่า หากรัฐบาลชะลอการใช้จ่ายเพราะกังวลภาวะเงินเฟ้อ จะกลายเป็นการเสียโอกาส ทางการต้องคิดนอกกรอบในช่วงเวลาที่สภาพการณ์ไม่ปกติเช่นนี้ เขามองว่าเศรษฐกิจมีแรงผลักดันให้ฟื้นตัวอยู่แล้ว และถึงแม้รัฐบาลไม่อัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อก็จะสูงเกินกว่าที่รัฐบาลจะควบคุมได้ รัฐบาลจึงควรยอมรับอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าร้อยละ 4 และอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ ด้านนายหวู ทัน ตื่อ อัน มหาวิทยาลัยฟุลไบรท์เวียดนามกังวลว่า สงครามยูเครน-รัสเซียและอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐและสหภาพยุโรปหรืออียูที่สูงกว่าร้อยละ 8 จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเวียดนามสูงยิ่งขึ้นไปอีก เพราะผลกระทบในปัจจุบันยังไม่ใช่ผลที่เกิดขึ้นอย่างเต็มตัว การอัดฉีดเงินเข้าเศรษฐกิจในเวลานี้อาจทำให้เกิดผลทางลบ รัฐบาลควรดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง ขณะที่นายแอนดรู เจฟฟรีส์ ผู้อำนวยการธนาคารพัฒนาเอเชียประจำเวียดนามแนะว่า เวียดนามควรจับตาดูผลกระทบภาวะเงินเฟ้อในระดับโลกต่อไป เพราะการผ่อนคลายนโยบายการเงินของสหรัฐและอียูอาจทำให้ราคาเชื้อเพลิงปรับเพิ่มขึ้นอีก ส่วนนายฟรองซัวส์ แปงโชด์ ผู้แทนกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ประจำเวียดนามชี้ว่า เวียดนามยังไม่ควรผ่อนคลายนโยบายทางการเงินในเวลานี้ […]

“ไบเดน” ยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายไต้หวัน

โตเกียว 24 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐยืนยันว่า จะไม่เปลี่ยนแปลงการใช้นโยบาย “คลุมเครือเชิงยุทธศาสตร์” ต่อไต้หวัน หลังจากถูกวิจารณ์จากการกล่าวเมื่อวันก่อนว่า พร้อมใช้กำลังปกป้องไต้หวัน ประธานาธิบดีไบเดนตอบข้อถามผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายไต้หวันแม้แต่น้อย และได้ย้ำเรื่องนี้ไปแล้วระหว่างการแถลงเมื่อวันก่อน สื่อถามย้ำเรื่องนี้เนื่องจากไบเดนตอบข้อถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จะปกป้องไต้หวันหากถูกโจมตี สหรัฐเห็นด้วยกับนโยบายจีนเดียว โดยได้ลงนามข้อตกลงนี้และข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ความคิดที่จะใช้กำลังยึดไต้หวันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม เขาหวังว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรือมีความพยายามจะทำให้เกิดขึ้น คำตอบของไบเดนเมื่อวันจันทร์ถูกวิจารณ์ว่า พูดผิดหรือพูดเสียมารยาท เพราะถึงแม้สหรัฐมีกฎหมายกำหนดให้ต้องช่วยให้ไต้หวันสามารถปกป้องตนเอง แต่สหรัฐก็ได้ใช้นโยบาย “คลุมเครือเชิงยุทธศาสตร์” มานานเรื่องจะแทรกแซงทางทหารเพื่อปกป้องไต้หวันหรือไม่ในกรณีที่ถูกจีนรุกราน นักวิเคราะห์บางคนมองว่า แม้ไบเดนเป็นคนที่มักพูดผิดพูดถูกหลายครั้ง แต่การที่เขามีประสบการณ์ด้านการต่างประเทศมานาน อีกทั้งยังตอบคำถามระหว่างแถลงข่าวคู่กับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และหลังเกิดกรณีรัสเซียรุกรานยูเครน เขาไม่น่าจะพูดผิดโดยไม่ตั้งใจ ประเด็นไต้หวันถูกพูดถึงในที่ประชุมผู้นำกลุ่มควอด (Quad) ประกอบด้วยสหรัฐ ญี่ปุ่น ออสเตรเลียและอินเดียที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นในวันนี้แม้ว่าไม่ได้ถูกบรรจุเป็นวาระอย่างเป็นทางการ ที่ประชุมย้ำเรื่องจะทำให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเสรีและเปิดกว้างในช่วงที่จีนแสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้น แม้ว่านายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นยืนยันว่า กลุ่มควอดไม่ได้มุ่งไปที่ประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ของจีน กระทบประเทศส่งออกผลไม้

นโยบายการควบคุมการระบาดของโควิดให้เป็นศูนย์ หรือ Zero COVID ของจีน ได้ส่งผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่อุปทานด้านการเกษตรในหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

จีนเตรียมจัดการผู้วิจารณ์นโยบายโควิดเป็นศูนย์

บรรดาผู้อาศัยในกรุงปักกิ่ง นครหลวงของจีนรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจกับข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ทางการประกาศใช้เพื่อควบคุมการระบาดชองเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ในขณะเดียวกันก็กังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อ

ผู้สมัครอิสระขอโอกาสเข้ามาพัฒนา กทม.

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ถือว่ามีผู้สมัครมากที่สุดถึง 31 คน นอกจากผู้สมัครที่มีชื่อเสียง ตัวเต็งต่างๆ แล้ว วันนี้พาไปดูหลากหลายผู้สมัครในนามอิสระ ที่อาจจะไม่เป็นที่พูดถึงหรือรู้จักมากนัก ซึ่งต่างดึงกลยุทธ์หาเสียงนำเสนอนโยบายหวังได้ใจคนกรุงเทพฯ

ผู้สูงอายุใน กทม.หวังนโยบายยกระดับสังคมผู้สูงวัยทำได้จริง

ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ จากจำนวนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด พบว่า กว่าร้อยละ 20 คือ กลุ่มผู้สูงอายุ 61 ปีขึ้นไป ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญทำให้ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หลายคนนำเสนอนโยบายหวังให้ถูกใจกลุ่มผู้สูงอายุ ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายท้าทาย ในขณะที่ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์

“ศิธา ทิวารี” ชู 3 P – บำนาญประชาชน

“ศิธา ทิวารี” ชู 3 P – บำนาญประชาชน ย้ำไม่มีฮีโร่ แต่ทุกคนคือผู้สร้างเมือง ประกาศแพ็กเกจ นโยบายทางสังคม โดยคนกรุงร่วมกำหนด ปรับลด ปลด ย้าย ข้าราชการและงบประมาณ ย้ำจะทำในสิ่งที่ผู้ว่าฯ ไม่เคยทำ

เปิดสโลแกนชิงผู้ว่าฯ กทม.

สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เริ่มคึกคัก ผู้สมัครหลายคนยังใช้กลยุทธ์เคาะประตูบ้านลงพื้นที่หาเสียง เข้าไปพบปะใกล้ชิดพี่น้องประชาชนถึงบ้าน เป็นการสร้างภาพลักษณ์และสร้างคะแนนนิยมกับตัวผู้สมัคร

1 5 6 7 8 9 16
...