จีน

ไทเป 15 ต.ค.- เถาเป่าไต้หวัน แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ประกาศว่า จะยุติการให้บริการภายในสิ้นปีนี้ หลังจากทางการไต้หวันแจ้งให้จดทะเบียนในฐานะธุรกิจจีน เถาเป่าไต้หวันจดทะเบียนในฐานะบริษัทต่างชาติผ่านแคลดดากเวนเจอร์อินเวสต์เวนต์ที่จดทะเบียนในสหราชอาณาจักร แต่ทางการไต้หวันมองว่า แท้จริงแล้วถูกควบคุมโดยอาลีบาบา อีคอมเมิร์ซยักษ์ของจีน คณะกรรมการการลงทุนของไต้หวันสั่งปรับแคลดดาก 410,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 444,785 ล้านบาท) เมื่อเดือนสิงหาคมโทษฐานฝ่าฝืนกฎหมายท้องถิ่นว่าด้วยการลงทุนของจีน และให้เวลา 6 เดือนแก้ไขให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะต้องถอนการลงทุนออกไป คณะกรรมการเริ่มการสอบสวนหลังจากอดีตสมาชิกสภาคนหนึ่งร้องเรียนว่า เถาเป่าไต้หวันดำเนินงานอย่างผิดกฎหมายเพราะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับเถาเป่าที่เป็นของอาลีบาบา กฎหมายไต้หวันกำหนดว่า บริษัทใดก็ตามจะถือว่าเป็นบริษัทจีนหากบุคคลหรือนิติบุคคลจีนถือหุ้นกว่าร้อยละ 30 หรือมีอำนาจควบคุมการดำเนินงานอย่างเห็นผล คณะกรรมการมีมติว่า แคลดดากถูกอาลีบาบาควบคุมอย่างเห็นผลแม้ถือหุ้นไม่ถึงร้อยละ 30 ก็ตาม เอเอฟพีตั้งข้อสังเกตว่า ไต้หวันเข้มงวดการลงทุนจากจีนเมื่อเทียบกับการลงทุนจากประเทศอื่น สะท้อนถึงความเป็นปรปักษ์ที่ยังหลงเหลืออยู่หลังสงครามกลางเมืองปี 2492 ปีที่แล้วคณะกรรมการการลงทุนของไต้หวันไม่ยอมรับกลุ่มบริษัทนำโดยฮ่องกงที่เสนอประมูลการก่อสร้างอาคารระฟ้าแฝดในกรุงไทเป โดยอ้างว่ากังวลเรื่องความมั่นคงแห่งชาติเพราะบริษัทนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลจีนมากเกินไป ขณะที่จีนยังคงถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่แยกตัวออกไป และขู่จะใช้กำลังรวมชาติหากจำเป็น.-สำนักข่าวไทย

แหล่งข่าวเผยว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเสนอให้รัฐบาลขึ้นบัญชีดำแอนต์กรุ๊ป บริษัทฟินเทคในเครืออาลีบาบากรุ๊ปของจีน ก่อนที่แอนต์กรุ๊ปจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

จีนระบุว่า สหรัฐกำลังทำลายสันติภาพ และเสถียรภาพ ในช่องแคบไต้หวัน หลังกองทัพเรือสหรัฐส่งจากเรือพิฆาตแล่นผ่านช่องแคบ

จีนเปิดกลยุทธ์ใหม่ในการกดดันไต้หวัน ด้วยการกล่าวหาว่าไต้หวันกระทำการสอดแนม และนำสายลับมาสารภาพออกโทรทัศน์ของรัฐ

นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าววันนี้เรียกร้องให้ประเทศในเอเชียมีความระแวดระวังเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจากยุทธศาสตร์ของสหรัฐที่ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันในทางภูมิรัฐศาสตร์ในทะเลจีนใต้และส่วนอื่น ๆ ในภูมิภาค

พนมเปญ 12 ต.ค.- จีนและกัมพูชาลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ (FTA) แล้วในวันนี้ หลังจากใช้เวลาเจรจาไม่ถึงหนึ่งปี เพื่อลดภาษีและเพิ่มการเข้าถึงตลาดระหว่างกัน ครอบคลุมทั้งเรื่องการค้า การท่องเที่ยว และสินค้าเกษตรกรรม พิธีลงนามมีการถ่ายทอดสดออนไลน์ มีนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน และนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาเป็นประธานในพิธี นายปาน สรศักดิ์ รัฐมนตรีพาณิชย์กัมพูชากล่าวในพิธีว่า การลงนามข้อตกลงวันนี้เป็นเครื่องแสดงถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกว่าที่เคยของสองประเทศ และเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาประวัติศาสตร์ในความสัมพันธ์ของกัมพูชาและจีน ข้อตกลงนี้ที่เขาหวังว่าจะมีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้าจะยิ่งเพิ่มพูนความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่รุ่งเรืองผ่านการเข้าถึงตลาดมากขึ้น การเปิดเสรีให้แก่สินค้า บริการและการลงทุน รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อตกลง และยังไม่ชัดเจนว่าจะทำงานร่วมกับเอฟทีเอจีน-อาเซียนที่ลงนามไปตั้งแต่ปี 2545 อย่างไร เพราะกัมพูชาเป็นหนึ่งในสมาชิกอาเซียนหรือสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ข้อตกลงนี้จะเป็นผลดีต่อกัมพูชาที่ถูกสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ตลาดส่งออกสำคัญอีกแห่งหนึ่งระงับการให้สิทธิพิเศษทางการค้าเมื่อปีก่อนด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน ทำให้สิ่งทอและรองเท้า ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาถูกอียูเก็บภาษีอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย