นวัตกรรมใหม่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อผู้ป่วย

ตรัง 7 พ.ย.63 – กทปส. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โชว์การทดสอบประสิทธิภาพ นวัตกรรมฟื้นฟูกล้ามเนื้อช่วยผู้ป่วยสูงอายุกายภาพได้ด้วยตัวเอง ปัจจุบันไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ซึ่งโรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะโรคกลุ่มกระดูกและข้อ และโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง ซึ่งลักษณะของอาการดังกล่าว จำเป็นต้องพึ่งพาการรักษาแบบเฉพาะทาง จากข้อมูลพบว่า นักกายภาพบำบัด 1 คน ต้องรักษาผู้ป่วย 23,614 คน ซึ่งประชากรไทยทั้งหมด 72 ล้านคน จะต้องมีนักกายภาพบำบัดถึง 32,180 คน ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงพอ จึงต้องนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเป็นตัวช่วยให้ผู้ป่วยและแพทย์ รศ.ดร.ธนิต เฉลิมยานนนท์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า กองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. ได้สนับสนุนงานวิจัยพัฒนาระบบติดตามและอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้ป่วยในการทำกายภาพบำบัด ผ่านเครือข่ายสื่อสารสำหรับประโยชน์สาธารณะ โดยคณะวิจัย ได้ดำเนินการพัฒนาระบบและอุปกรณ์กายภาพบำบัดทั้งหมด 4 ชนิด  1. นวัตกรรมบริหารหัวไหล่ เป็นระบบประมวลผลภาพ วัดองศาของการเคลื่อนไหวข้อไหล่ เพื่อใช้ในผู้ที่มีปัญหาข้อไหล่ติดหัวไหล่  2. นวัตกรรมฝึกการขยายปอด ระบบประมวลผลภาพ สำหรับติดตามการทำกายภาพบำบัดเพื่อการฟื้นฟูปริมาตรปอด  3. นวัตกรรมบริหารกล้ามเนื้อหายใจ ระบบติดตาม ช่วยบริหาร พร้อมทั้งวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหายใจ  และ 4. นวัตกรรมบริหารข้อเข่า ระบบติดตามและอุปกรณ์ช่วยบริหารข้อเข่า การออกกำลังกายแบบไอโซโทนิก ที่เน้นการยืดเหยียดเข่าโดยมีตุ้มน้ำหนักรัดบริเวณข้อเท้า เชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเซิร์ฟเวอร์ และคลาวด์ เซิร์ฟเวอร์ ผ่านเครือข่ายสื่อสาร ซึ่งเป็นการพัฒนาการบริหารจัดการข้อมูล ที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ผลการทำกายภาพบำบัดจากอุปรณ์ทำกายภาพบำบัดที่พัฒนาขึ้น โดยจะนำไปติดตั้งใช้งานจริงตามโรงพยาบาลและศูนย์ส่งเสริมสุขภาพในรอบพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยเหลือผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยกายภาพบำบัด ผ่านเครือข่ายสื่อสารสำหรับประโยชน์สาธารณะ โดยใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์มาวิเคราะห์และวินิจฉัย เชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายสื่อสาร ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักกายภาพบำบัดสามารถนำข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์เพื่อมาวิเคราะห์และวินิจฉัยต่อไปได้ นอกจากนี้ศูนย์ข้อมูลของโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัย ยังสามารถดึงตรวจสอบข้อมูลของผู้ป่วยจากศูนย์ข้อมูลส่วนกลางได้อีกด้วย ดังนั้นข้อมูลการทำกายถาพบำบัดของผู้ป่วยและผู้สูงอายุ หรือการส่งเสริมสุขภาพของผุ้สูงอายุ ก็จะเป็นประโยชน์ที่สำคัญให้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักกายภาพบำบัดในการออกแบบการรักษาต่อไปได้  ซึ่งผู้ป่วยทำกายภาพบำบัดยังได้เห็นพัฒนาการการฟื้นตัวที่ชัดเจน ทำให้มีขวัญกำลังใจและมีความพยายามในการทำกายภาพบำบัดให้ได้ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการได้ นายนิพนธ์ จงวิชิต ผู้อำนวยการกองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) กล่าวว่า กทปส. เห็นถึงโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมด้านการแพทย์ ที่เอื้อต่อการรักษาและการดูแลผู้ป่วยได้โดยสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่ต้องทำกายภาพบำบัด หรือผู้สูงอายุ ที่อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลหรือไม่สะดวกที่จะเดินทางมายังโรงพยาบาลสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยการใช้เทคโนโลยีผ่านระบบสื่อสารได้ เพื่อลดภาระงานของนักกายภาพบำบัด อีกทั้งยังสามารถติดตามช่วยเหลือผู้ทำกายภาพบำบัด และผู้สูงอายุ โดยที่ผู้สูงอายุสามารถทำกายภาพบำบัดที่ถูกต้องด้วยตนเอง หรือศูนย์ส่งเสริมสุขภาพใกล้บ้าน รวมทั้งยังเห็นถึงความก้าวหน้า นำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารทางไกลมาใช้ประโยชน์ในการรักษา ด้วยระบบ Telemedicine ให้ผู้ป่วยและแพทย์ติดตามอาการ ปนะนำการรักษาผ่านอุปกรณ์การสื่อสาร ลดการเดินทาง ลดโอกาสปะปนคนหมู่มาก ลดโอกาสการระบาดของโรค ที่พร้อมขยายผลการใช้งานสู่พื้นที่ห่างไกลต่อไป ซึ่งทั้งหมดผ่านการจัดสรรงบประมาณแก่นักวิจัย โดย กทปส. พร้อมพิจารณาให้ทุนสนับสนุนกับโครงการ นวัตกรร และงานวิจัยอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อทุกภาคส่วนของไทยให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ระบบเตือนภัยด้วยเครือข่ายวิทยุสื่อสาร

กระบี่ 6 พ.ย.63 – กทปส. เปิดตัวระบบแทรคกิ้งสภาพอากาศอัตโนมัติ ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ VHF สามารถเตือนเหตุภัยพิบัติ และระบุพิกัดในการกู้ภัยได้อย่างแม่นยำ แม้สัญญานอินเตอร์เน็ตในพื้นที่จะใช้การไม่ได้ กองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือกทปส. ร่วมกับสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดตัวต้นแบบสถานีตรวจอากาศอัตโนมัติ ที่จังหวัดกระบี่ เป็นระบบติดตามสภาพอากาศเรียลไทม์ ด้วยคลื่นความถี่และเน็ตไฮสปีด โดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ VHF ซึ่งเดิมสมาคมวิทยาสมัครเล่นฯ ใช้สำหรับการสื่อสารเท่านั้น ปรับปรุงเพิ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ได้เป็นโครงข่ายสื่อสำรองฉุกเฉินไร้สายระบุพิกัดอัจฉริยะ เพื่อการติดตามเฝ้าระวังภัยธรรมชาติและ SAR ที่สามารถสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินแนวทางป้องกันภัยพิบัติ ระบุพิกัดทีมค้นหา และช่วยเกษตรกรวางแผนเพาะปลูกแนวใหม่ได้อย่างแม่นยำ เป็นการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายไร้สายให้มีประสิทธิภาพสูง โดยจุดเด่นของระบบนี้จะสามารถจับและแจ้งเตือนภัยพิบัติ รวมทั้งการระบุพิกัดได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสัญญานอินเตอร์เน็ต ทำให้ในยามฉุกเฉินหรือเกิดพิบัติภัยที่ระบบอินเตอร์เน็ต หรือเครือข่ายโทรศัพท์มือถือล่ม ระบบนี้ก็ยังสามารถทำงานได้ มำให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงพื้นที่ช่วยเหลือ และแจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ ดร.จักรี ห่านทองคํา นายกสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ต้นแบบสถานีตรวจอากาศอัตโนมัติ มีอุปกรณ์สำคัญ 4 ส่วน  1. สถานีรับข้อมูล ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลทางธรรมชาติและข้อมูลประกอบแต่ละจังหวัด 2. อุปกรณ์ตรวจวัด เพื่อส่งข้อมูลต่อไปยังสถานีรับข้อมูล 3.อุปกรณ์ระบบสายอากาศย่าน VHF และ 4. สายนำสัญญาณแหล่งจ่ายพลังงาน พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงส่วนต่าง ๆ  โดยสถานีฯ จะตรวจวัดค่าทุก 10 นาที แล้วส่งข้อมูลมาที่สถานีรับข้อมูล จากนั้นจะส่งต่อข้อมูลมายังศูนย์รวมกลางเพื่อเก็บรวบรวม เพื่อนำข้อมูลมาประมวล ซึ่งระบบจะรายงานข้อมูลทางธรรมชาติที่จำเป็นแบบเรียลไทม์ เช่น อุณหภูมิความชื่นสัมพัทธ์ ความกดอากาศ ปริมาณน้ำฝน ทิศทางลม ค่าฝุ่นในอากาศ หรือ PM2.5 ใช้ในการติดตามเฝ้าระวังและวางแผนป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล ผ่านการสื่อสารในรูปแบบคลื่นความถี่วิทยุย่านความถี่ VHF นอกจากนี้ระบบที่พัฒนาขึ้น สามารถใช้ติดตามค้นหาในพื้นที่ห่างไกล เสริมอุปกรณ์แทรคกิ้งเป็นตัวจับสัญญานเพื่อช่วยปักหมุดค้นหาและแสดงผลแบบเรียลไทม์ ระบุตำแหน่งจำแนกสิ่งต่าง ๆ ได้ทั้งบุคคล รถยนต์ เครื่องบิน เรือ และพาหนะ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะงานกู้ภัยที่ลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังนำมาใช้ในด้านการเกษตรช่วยเกษตรกรวางแผนเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิต ด้วยระบบจะแสดงข้อมูลที่จำเป็นต่อการวางแผนเพาะปลูกเป็นเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming)  ปัจจุบันทางสมาคมฯ ได้ดำเนินการติดตั้งสถานีตรวจอากาศอัตโนมัติ รวม 40 จุด ครอบคลุม 40 จังหวัดทั่วประเทศโดยพร้อมรองรับการใช้งานได้ในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นอีกนวัตกรรมฝีมือคนไทยที่ทำให้คลื่นความถี่เกิดประโยชน์ของสังคมและประเทศได้มากยิ่งขึ้น นายนิพนธ์ จงวิชิต ผู้อำนวยการกองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) กล่าวว่า กทปส. พร้อมเป็นหน่วยงานที่มอบทุนส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด  เกิดการพัฒนาและสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นรูปธรรมทั้งนวัตกรรมและงานวิจัย ที่เกี่ยวข้องในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เศรษฐกิจ และสังคม โดยปี 2563 กทปส. จัดสรรเงินกองทุนมูลค่ากว่า 2,600 ล้านบาท ใน 85 โครงการเพื่อประโยชน์สาธารณะ .-สำนักข่าวไทย

รุดหน้า “ต้นแบบสถานีตรวจอากาศอัตโนมัติ”

กทปส.สรุปผลการจัดสรรเงินกองทุนปี 63 กว่า 2,600 ล้านบาท สู่ 85 โครงการ พร้อมลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าและตรวจสอบการใช้งาน “ต้นแบบสถานีตรวจอากาศอัตโนมัติ” ของสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ

...