21 ประเทศเอเชียร่วมแก้กฎหมายล้มละลาย
กทม.17 ก.ย.- 21ประเทศในเอเชียระดมสมองร่วมแก้กฎหมายล้มละลาย ในส่วนของไทยกฎหมายล้มละลายอยู่ในอันดับดี แต่เตรียมปรับปรุงเพิ่มในส่วนของธุรกิจSME ชูศาสตร์พระราชาและเศรษฐกิจพอเพียงนำทางป้องกันการล้มละลายยั่งยืน กระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม กลุ่มธนาคารโลกและองค์กรระหว่างประเทศ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านล้มละลายและฟื้นฟูกิจการ จาก 21 ประเทศ ร่วมประชุมการปฏิรูปกฎหมายล้มละลายในเอเชียครั้งที่ 11 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระหว่างวันที่ 16-17 กันยายนนี้ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างศักยภาพของตุลาการเกี่ยวกับพัฒนา การล่าสุดของวงการกฎหมายล้มละลายของประเทศต่างๆจากผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับกฎหมายล้มละลายข้ามชาติ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย โดยเฉพาะการพัฒนากฎหมายล้มละลาย อันจะมีผลโดยตรงต่อการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการรวมนักคิดและผู้ปฏิบัติงานล้มละลายจากเอเชียและทั่วโลกที่จะมาร่วมกันพัฒนาและคิดค้นกฎหมายล้มละลายให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมให้มากขึ้น รวมทั้งจะได้เรียนรู้และดูแนวทางกฎหมายล้มละลายที่ดีของประเทศอื่นๆหรือองค์กรระหว่างประเทศว่าควรเป็นลักษณะไหน อย่างไรก็ตามในส่วนของกฎหมายล้มละลายของประเทศไทยได้รับการประเมินว่า อยู่ในระดับที่ดีแต่ถ้าสามารถพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีกก็ยังมีโอกาสในหลายหลายด้าน โดยกฎหมายล้มละลายของไทยที่ได้นำเสนอได้ดีและได้รับการยอมรับคือการแก้กฎหมายล้มละลายเกี่ยวกับการดูแลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SME ซึ่งได้มีการแก้กฎหมายฉบับนี้ไปแล้วบางส่วน แต่ยังมีจุดที่จะแก้ไขเพิ่มเติมได้อีกโดยกระบวนการแก้ปัญหาปัจจุบันลักษณะคล้ายๆกับการแก้ปัญหาจนเสร็จสิ้นกระบวน การแล้วจึงเอาไปให้ศาลเห็นชอบ แต่ที่จะมีการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมใหม่ มองความจริงของการแก้ปัญหาอาจต้องใช้เวลาโดยปรับปรุงให้มีการยื่นคำร้องขอต่อศาลก่อน ในระหว่างนั้นจะให้เจ้าหนี้กับลูกหนี้เจรจากันไปภายใต้การควบคุมดูแลของศาล ซึ่งก็เป็นลักษณะคล้ายๆกับข้อกฏหมายล้มละลายในหลายประเทศ ซึ่งหากสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ก็จะทำให้ภาพรวมการแก้ปัญหาดีขึ้นและต่างประเทศจะเห็นว่าประเทศไทยเดินหน้าตลอดเวลา และยังทำให้ประเทศต่างๆเห็นว่าเรามีภาพรวมที่ดีแล้วการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เคยมีก็หมดสิ้นไประดับหนึ่งซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ด้าน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทยได้หยิบยกความสำคัญของศาสตร์ของพระราชาและเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมีแนวคิดเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนาเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินงานและถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหาล้มละลายเนื่องจากเป็นแนวทางที่มุ่งตรงกลางเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่สมดุล ซึ่งได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางและได้รับการยอมรับจากประชาคมนานาชาติ โดยมีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ยึดแนวทางนี้ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นปึกแผ่นมั่นคงและแก้ปัญหาตรงจุด […]