ฟิลิปปินส์

มะนิลา 7 ต.ค.- นายยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เห็นพ้องกับนายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เรื่องกระชับความสัมพันธ์ทางการทหาร ตามที่ได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ท่ามกลางความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาคที่เพิ่มมากขึ้น ประธานาธิบดีทั้ง 2 ประเทศได้หารือร่วมกันในประเด็นความสัมพันธ์และความมั่นคงหลากหลายประเด็น รวมถึงความตึงเครียดในทะเลจีนใต้และคาบสมุทรเกาหลี ระหว่างหารือกันที่ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในกรุงมะนิลา นอกจากนี้ผู้นำทั้งสองยังได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านหน่วยยามฝั่งและพลังงานนิวเคลียร์ด้วย นายยุนซึ่งเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนแรกที่เยือนฟิลิปปินส์ในรอบทศวรรษเผยในการแถลงข่าวร่วมกันว่า  ทั้งสองประเทศกำลังยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และจะผนึกกำลังด้านความมั่นคงทางทะเล และแบ่งปันข้อมูลข่าวสารเพื่อต่อต้านอาชญากรรม ทั้งนี้หลังจากเยือนฟิลิปปินส์แล้ว ผู้นำเกาหลีใต้จะเดินทางเยือนสิงคโปร์ในวันอังคารและวันพุธ จากนั้นจะเดินทางไปยัง สปป.ลาว เพื่อเข้าการประชุมสุดยอดอาเซียนต่อไป.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ จะเดินทางเยือนฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ก่อนจะเดินทางไปลาว ในสัปดาห์หน้า เพื่อเข้าประชุมสุดยอดผู้นำสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน

มะนิลา 1 ต.ค.- สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์แจ้งว่า ไต้ฝุ่นกระท้อน (Krathon) ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นแล้วในเช้าวันนี้ ทำให้มีฝนตกหนักและลมพัดแรงทางตอนเหนือของประเทศ คลิปที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์บันทึกไว้เมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นลมพัดแรงและฝนตกหนักกระหน่ำเทศบาลบาสโก จังหวัดบาตาเนส สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์โพสต์แถลงการณ์ในเฟซบุ๊กว่า ไต้ฝุ่นกระท้อนที่ฟิลิปปินส์เรียกว่า จูเลียน (Julian) มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมกระโชกสูงสุด 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะอยู่ห่างจากเทศบาลบาสโกไปทางตะวันตก 80 กิโลเมตร เมื่อเวลา 15.00 น.วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ข้อมูลในเว็บไซต์แอคคิวเวเธอร์แจ้งสถานะปัจจุบันของไต้ฝุ่นกระท้อนว่า เป็นไต้ฝุ่นรุนแรง อยู่ห่างจากกรุงไทเปของไต้หวัน 467 กิโลเมตร มีความลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมกระโชกสูงสุด 295 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.-814.-สำนักข่าวไทย

อดีตนายกเทศมนตรีของฟิลิปปินส์ ที่พัวพันกับแก๊งอาชญากรจีน ถูกส่งตัวกลับประเทศแล้ว หลังจากหลบหนีมานานหลายสัปดาห์แล้วถูกจับกุมตัวได้ที่อินโดนีเซีย

มะนิลา 4 ก.ย.- กระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์แถลงในวันนี้ว่า อดีตนายกเทศมนตรีฟิลิปปินส์ที่หลบหนีและถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับแก๊งอาชญากรจีน ถูกจับกุมตัวแล้วที่อินโดนีเซีย แถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ระบุว่า ทางการอินโดนีเซียแจ้งยืนยันว่า ขณะนี้นางอลิซ กัว ถูกควบคุมตัวไว้โดยตำรวจอินโดนีเซีย เธอถูกจับกุมได้ช่วงใกล้เที่ยงคืนวันอังคารในเมืองตังเกอรัง จังหวัดบันเติน ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ติดกับฝั่งตะวันตกของกรุงจาการ์ตา หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในฟิลิปปินส์ รวมถึงคณะกรรมการต่อต้านการฟอกเงิน ได้ร่วมกันยื่นฟ้องนางกัว และพวกจำนวน 35 คนต่อกระทรวงยุติธรรมเมื่อเดือนสิงหาคมในข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินหลายกระทง คณะกรรมการฯ กล่าวหาว่า เธอและพวกฟอกเงินมากกว่า 100 ล้านเปโซ (กว่า 60.55 ล้านบาท) ที่ได้จากการกระทำผิดกฎหมาย สำนักงานต่อต้านอาชญากรรมของฟิลิปปินส์ระบุว่า นางกัวหลบหนีออกนอกประเทศในเดือนกรฎาคม ด้วยการเดินทางไปมาเลเซียและสิงคโปร์ จากนั้นเดินทางต่อไปยังอินโดนีเซียในเดือนสิงหาคมโดยใช้หนังสือเดินทางฟิลิปปินส์ นางกัว หรือที่รู้จักในฐานะพลเมืองจีนชื่อกัว หัวผิง ถูกปลดจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลบัมบัน จังหวัดตาร์ลัก และเป็นที่ต้องการตัวของวุฒิสภาฟิลิปปินส์ เนื่องจากไม่เข้าให้ปากคำกับวุฒิสภาที่เปิดการไต่สวนเมื่อเดือนพฤษภาคม หลังจากทางการบุกค้นกาสิโนแห่งหนึ่งในเทศบาลบัมบันเมื่อเดือนมีนาคม และพบว่าเป็นที่ตั้งของแก๊งหลอกลวงออนไลน์ โดยตั้งอยู่บนที่ดินที่บางส่วนเป็นของนางกัว เธอปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยยืนยันว่า เป็นพลเมืองฟิลิปปินส์ เพราะเกิดในฟิลิปปินส์ แต่ถูกกล่าวหาอย่างประสงค์ร้าย.-814.-สำนักข่าวไทย

พายุโซนร้อน “ยางิ” พัดถล่มฟิลิปปินส์ทำให้มีผู้เสียฃีวิตอย่างน้อย 13 ราย ในขณะที่โรงเรียนและหน่วยงานของรัฐต้องหยุดทำการในเขตกรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียงในวันนี้ เนื่องจากเกรงว่าสภาพอากาศจะเลวร้าย

พายุโซนร้อนยางิ (Yagi) ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายจุดของฟิลิปปินส์ และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน 

จีนและฟิลิปปินส์กล่าวหากันและกันว่า อีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้นำเรือพุ่งเข้าชนเรือของอีกฝ่ายหนึ่งในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้ในวันนี้

มะนิลา 28 ส.ค.- เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ชี้ว่า การสอบสวนอดีตนายกเทศมนตรีบัมบันเรื่องสัญชาติและการทำข้อตกลงธุรกิจ อาจนำมาซึ่งการอุดช่องโหว่กฎหมายที่อนุญาตให้แจ้งเกิดช้า หลังจากเธอถูกต้องสงสัยว่าเป็นสายลับที่เกิดในจีน นายริชาร์ด แอนโทนี ฟาดูญญอน รองอัยการสูงสุดอาวุโสของฟิลิปปินส์กล่าวในการเสวนาที่เมืองเกซอนเมื่อวานนี้ว่า การที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภากำลังไต่สวนนางอลิซ กัว ที่ถูกผู้ตรวจการของรัฐสภาปลดจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลบัมบัน จังหวัดตาร์ลักเมื่อไม่นานมานี้ โทษฐานประพฤติผิดร้ายแรง อาจช่วยอุดช่องโหว่การฉวยประโยชน์จากระบบที่อนุญาตให้แจ้งเกิดล่าช้าได้หลายปี เขามองว่า การแจ้งเกิดช้ายังคงมีความจำเป็น เพื่อให้บุคคลสามารถยื่นขอเอกสารทางการอื่น ๆ แต่ต้องมีมาตรการควบคุมเคร่งครัด ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์เผยว่า รัฐบาลกำลังสอบสวนว่า นางกัวหนีออกนอกประเทศได้อย่างไร หลังจากที่เขาสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางของเธอได้เพียง 1 วัน โดยจะเปิดโปงกลุ่มคนที่ทรยศความไว้วางใจของประชาชนด้วยการช่วยนางกัวหลบหนี นางกัวแจ้งว่า เกิดในปี 2533 แต่เชื่อว่า น่าจะเกิดจริงในปี 2529 โดยแจ้งว่าเกิดที่ฟิลิปปินส์แต่จำสถานที่ไม่ได้ ผลการสอบสวนพบว่า แท้จริงแล้วเธอเกิดในจีน และเดินทางมาฟิลิปปินส์พร้อมกับมารดาที่เป็นนักธุรกิจ เธอไม่ยอมเข้าให้การต่อวุฒิสภาเรื่องพัวพันกับอาชญากรรม หลังจากเมื่อเดือนมีนาคมเจ้าหน้าที่สามารถเปิดโปงแก๊งหลอกลวงออนไลน์อยู่ในกาสิโนที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่เธอเป็นเจ้าของอยู่บางส่วน.-814.-สำนักข่าวไทย  

รัฐมนตรีสาธารณสุขฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ว่า ผู้ป่วยโรคเอ็มพอกซ์ หรือไวรัสฝีดาษวานรรายล่าสุดที่เพิ่งพบเมื่อไม่นานมานี้ เป็นสายพันธุ์เคลด 2 (Clade 2) ซึ่งไม่รุนแรงและใม่ใช่สายพันธ์ใหม่ที่ระบาดอย่างรวดเร็วในทวีปแอฟริกา