แผนชัยชนะ

นิวยอร์ก 23 ก.ย.- นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครนจะนำแผนชัยชนะเสนอต่อผู้นำสหรัฐ ระหว่างไปเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์กของสหรัฐในสัปดาห์นี้ นายเซเลนสกีจะเข้าพบนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐก่อนที่จะร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เพื่อหารือแผนสันติภาพที่ยูเครนจัดทำขึ้น จากนั้นจะไปเสนอต่อรัฐสภาและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ คือ นางคอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตและนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำยืนยันจากนายทรัมป์ที่มีจุดยืนสนับสนุนรัสเซีย ว่าจะให้เข้าพบหรือไม่   สำหรับเนื้อหาของแผนชัยชนะนั้น ผู้นำยูเครนเปิดเผยคร่าว ๆ ว่า ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ อาวุธสำหรับการรบ สันติภาพผ่านการทูต และความรับผิดชอบของรัสเซียผู้รุกราน คาดว่าผู้นำยูเครนจะพยายามร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม และขอให้ชาติตะวันตกอนุญาตให้ใช้อาวุธพิสัยไกลในการทำสงครามกับรัสเซีย เขากล่าวด้วยว่า แผนสันติภาพนี้แสวงหาชัยชนะร่วมกันเพื่อสันติภาพที่ชอบธรรมอย่างแท้จริง.-812(814).-สำนักข่าวไทย

เคียฟ 28 ส.ค.- นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนจะนำเสนอแผนชัยชนะในการทำสงครามกับรัสเซียต่อนาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนหน้า ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยหลังจากที่ยูเครนรุกเข้าไปในดินแดนรัสเซียมาเกือบครบเดือนว่า จะนำเสนอแผนชัยชนะในการทำสงครามกับรัสเซียต่อประธานาธิบดีไบเดน เพื่อที่ผู้นำสหรัฐจะได้พิจารณา เพราะแผนนี้จะสำเร็จได้ยูเครนจำเป็นต้องพึ่งพาสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องให้นายไบเดนเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะมอบความช่วยเหลือนั้นให้หรือไม่ นอกจากประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบันแล้ว เขาจะมอบแผนชัยชนะนี้ให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเพื่อการพิจารณาด้วย ผู้นำยูเครนกล่าวด้วยว่า ปฏิบัติการของยูเครนที่รุกเข้าไปยึดดินแดนของรัสเซียเองมาเป็นแนวกันชนนั้น เป็นส่วนหนี่งของแผนชัยชนะนี้ด้วย แม้ว่าแผนนี้จะฟังดูแล้วทะเยอทะยานเกินไป แต่เป็นแผนที่สำคัญอย่างยิ่งต่อยูเครน  ยูเครนได้เริ่มตอบโต้การรุกรานของรัสเซียด้วยการส่งทหารราวหมื่นนายเข้าไปในรัสเซียตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม ถือได้ว่ารัสเซียถูกต่างชาติโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพยูเครนประกาศว่า ยึดครองหมู่บ้านและชุมชนของรัสเซียได้เกือบ 100 แห่ง ในพื้นที่ 1,294 ตารางกิโลเมตร แล้วยังจับกุมทหารรัสเซียไปแล้วราว 500 นาย.-812(814).-สำนักข่าวไทย