
จับตาสงคราม ลุกลามปิด “ฮอร์มุซ” กระทบเศรษฐกิจไทย
กรุงเทพฯ 23 มิ.ย. – สนค.วิเคราะห์ขัดแย้งตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น จับตาช่องแคบฮอร์มุซ จะถูกปิดหรือไม่ กระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าไทยอย่างกว้างขวาง นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการ “Rising Lion” เมื่อ 13 มิ.ย. 68 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดทอนศักยภาพทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน อิสราเอลยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในอิหร่านอย่างต่อเนื่อง ส่วนอิหร่านก็ยังคงตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธและโดรนเข้าไปในดินแดนอิสราเอล ล่าสุดสถานการณ์ความขัดแย้งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นมาก หลังจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 68 สหรัฐฯ ได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อฐานนิวเคลียร์สำคัญของอิหร่าน 3 แห่ง ในเมืองฟอร์โดว์ นาทานซ์ และอิสฟาฮาน ขณะที่อิหร่านประกาศพร้อมตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง และยังคงยืนกรานว่าจะไม่ยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์ ในขณะเดียวกันรัฐสภาอิหร่านก็ได้ลงมติสนับสนุนให้ปิด ช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ แม้ว่ามติดังกล่าวยังต้องได้รับการอนุมัติจากสภาความมั่นคงสูงสุดแห่งชาติและผู้นำสูงสุดอิหร่านก่อนที่จะดำเนินการ แต่สัญญาณความตึงเครียดดังกล่าวทำให้ช่องแคบที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์นี้กลายเป็นจุดที่ทั่วโลกจับตาอย่างใกล้ชิด ช่องแคบฮอร์มุซเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า ช่องแคบฮอร์มุซตั้งอยู่ระหว่างประเทศโอมานและอิหร่าน ซึ่งเชื่อมต่อระหว่า อ่าวเปอร์เซียกับทะเลอาหรับ […]