
ศาลอุทธรณ์ไม่รับคำร้องให้ “ทรัมป์” ปลดผู้ว่าเฟด
วอชิงตัน 16 ก.ย.- ศาลอุทธรณ์เขตโคลัมเบียไม่รับคำร้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐที่ต้องการให้ระงับคำสั่งศาลชั้นต้นที่ห้ามประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปลดลิซา คุ้ก สมาชิกในคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) เป็นการชั่วคราว ศาลอุทธรณ์ฯ ตัดสินใจดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้คุ้ก วัย 60-61 ปี ซึ่งเป็นสตรีผิวดำคนแรกที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการเฟดมาตั้งแต่ปี 2565 ในสมัยรัฐบาลโจ ไบเดน ยังคงอยู่ในตำแหน่งก่อนที่เฟดจะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 16-17 กันยายน คาดว่า กระทรวงยุติธรรมจะยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาต่อไป คุ้กยื่นฟ้องนายทรัมป์และเฟดทันทีที่นายทรัมป์สั่งปลดเธอเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ต่อมาจา คอบบ์ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นเขตโคลัมเบียมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 กันยายนว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์อ้างว่าคุ้กฉ้อโกงเรื่องสินเชื่อบ้านก่อนเข้ารับตำแหน่ง ไม่มีมูลเพียงพอที่จะทำให้นายทรัมป์สั่งปลดเธอได้ภายใต้กฎหมายที่ก่อตั้งเฟดในปี 2456 เนื่องจากเธอไม่ได้กระทำผิดขณะอยู่ในตำแหน่ง กฎหมายดังกล่าวมีมาตราที่ปกป้องธนาคารกลางไม่ให้ถูกแทรกแซงทางการเมือง ด้วยการบัญญัติให้ประธานาธิบดีสามารถปลดผู้ว่าการเฟดได้ต่อเมื่อมี “เหตุอันสมควร” แต่ไม่ได้ให้คำนิยามหรือกำหนดกระบวนการในการปลดแต่อย่างใด ที่ผ่านมาไม่เคยมีประธานาธิบดีสั่งปลดผู้ว่าการเฟด และไม่เคยมีการนำกฎหมายนี้มาอ้างในศาล นายทรัมป์และนายวิลเลียม พัลตี ผู้อำนวยการสำนักงานสินเชื่อที่อยู่อาศัยแห่งชาติอ้างว่า คุ้กยื่นขอสินเชื่อบ้านโดยแจ้งข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ 3 แห่งอย่างไม่ถูกต้อง เปิดทางให้เธอได้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและเครดิตภาษี รอยเตอร์อ้างข้อมูลการประเมินสินเชื่อบ้านที่เธอซื้อในรัฐแอตแลนตาว่า เธอแจ้งว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านพักตากอากาศ และอ้างคำตอบของสำนักงานภาษีอสังหาริมทรัพย์ในรัฐมิชิแกนว่า เธอไม่ได้ละเมิดระเบียบการลดหย่อนภาษีกับบ้านที่เธอแจ้งว่าเป็นที่พักอาศัยหลัก คดีนี้จะส่งผลต่อความสามารถของเฟดในการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยอย่างอิสระ โดยไม่ทำตามความปรารถนาของนักการเมือง […]