รุกโต้กลับ

เคียฟ 10 ก.ย.- นายรุสเต็ม อูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของยูเครน ขอให้หุ้นส่วนของยูเครนจัดส่งอาวุธหนักให้แก่ยูเครนเพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้ในปฏิบัติการรุกโต้กลับรัสเซียที่มีความยากลำบากและใช้เวลานาน นายอูเมรอฟ ระบุในสุนทรพจน์ที่มีการเผยแพร่เนื้อหาเมื่อวันเสาร์ว่า ยูเครนขอขอบคุณความสนับสนุนทั้งหมดที่หุ้นส่วนจัดส่งให้ แต่เวลานี้ต้องการอาวุธหนักจำนวนเพิ่มมากขึ้นโดยทันที นักรบยูเครนกำลังพลีชีพเพื่อประชาธิปไตยและเสรีภาพ พวกเขาต้องการการสนับสนุนจากหุ้นส่วน และการสนับสนุนนั้นคืออาวุธ ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า การจัดส่งอาวุธที่ล่าช้าเป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการรุกโต้กลับรัสเซียที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน นายอูเมรอฟ วัย 41 ปี เพิ่งดำรงตำแหน่งประธานกองทุนทรัพย์สินรัฐของยูเครนเมื่อปี 2565 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่เมื่อไม่กี่วันก่อน แทนที่นายโอเล็กซี เรซนิคอฟ วัย 57 ปี หลังจากประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมต้องการแนวทางและรูปแบบใหม่ ๆ ในการมีปฏิสัมพันธ์ทั้งกับกองทัพและสังคมโดยรวม สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการทำสงครามที่ดำเนินมานานกว่า 1 ปี 6 เดือน ยูเครนรุกโต้กลับรัสเซียได้อย่างจำกัด เพราะเผชิญกับแนวป้องกันที่รัสเซียเสริมกำลังอย่างแข็งแกร่ง แต่ได้ประกาศชัยชนะเชิงยุทธศาสตร์เมื่อปลายเดือนสิงหาคม เมื่อยึดได้หมู่บ้านทางตอนใต้ที่ยูเครนอ้างจะปูทางไปสู่การรุกคืบลึกเข้าไปในแคว้นไครเมียที่ถูกรัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งในปี 2557.-สำนักข่าวไทย

เคียฟ 17 ส.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนประกาศว่า กองทัพยูเครนจะปลดแอกทุกดินแดนที่อยู่ในความยึดครองของกองกำลังรัสเซีย ไม่ว่าจะใช้เวลานานเพียงใด เพราะเป็นความปรารถนาของชาวยูเครน นายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีที่กรุงเคียฟเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า เป้าหมายของยูเครนคือชัยชนะ เป็นชัยชนะในรูปของการปลดแอกดินแดนที่อยู่ภายในพรมแดนของยูเครนมาตั้งแต่ปี 2534 และไม่สนใจว่าจะต้องใช้เวลานานเพียงใด ตราบใดที่ประชาชนชาวยูเครนมีเป้าหมายเดียวกันนี้ รัฐบาลก็จะจับมือเดินหน้าไปกับประชาชน นายคูเลบากล่าวถึงเสียงวิจารณ์ หลังจากยูเครนเปิดปฏิบัติการรุกโต้กลับตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่เผชิญศึกหนักในการฝ่าฐานที่มั่นของรัสเซียที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาว่า ไม่รู้สึกว่าถูกพันธมิตรตะวันตกกดดันให้ต้องรุกคืบหน้าให้เร็วขึ้น อย่างไรก็ดี ยูเครนยังคงต้องการให้ชาติตะวันตกจัดส่งอาวุธและเครื่องกระสุนให้อย่างสม่ำเสมอเพื่อขับไล่กองกำลังรัสเซียพ้นจากดินแดนยึดครองทั้งหมดในยูเครน.-สำนักข่าวไทย

เคียฟ 6 ก.ค.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนระบุว่า การที่ยูเครนได้รับอาวุธล่าช้า ทำให้แผนการรุกโต้กลับรัสเซียล่าช้า และเปิดโอกาสให้รัสเซียมีเวลาในการเสริมแนวป้องกันในพื้นที่ยึดครองด้วยการฝังทุ่นระเบิด ประธานาธิบดีเซเลนสกีบันทึกเทปการให้สัมภาษณ์ผ่านล่ามกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น (CNN) ที่เมืองโอเดสซาเมื่อวันอังคารและมีการออกอากาศในวันพุธว่า ขณะนี้ปฏิบัติการรุกโต้กลับรัสเซียกำลังชะลอลง เนื่องจากประสบปัญหาในสมรภูมิที่เต็มไปด้วยทุ่นระเบิดทุกแห่ง เขาต้องการเปิดฉากปฏิบัติการให้เร็วกว่าที่เริ่มขึ้นจริงเมื่อต้นเดือนมิถุนายน เพราะทุกคนย่อมรู้ดีว่า ยิ่งเริ่มล่าช้า ยิ่งมีดินแดนของยูเครนถูกฝังทุ่นระเบิดเพิ่มขึ้น เขาเคยแจ้งกับผู้นำสหรัฐและยุโรปก่อนเริ่มการรุกโต้กลับว่า การขาดแคลนอาวุธจะทำให้มีคนบาดเจ็บล้มตายมากขึ้น ผู้นำยูเครนเผยว่า ได้ย้ำหลายครั้งว่ายูเครนต้องการฝูงบินขับไล่เอฟ-16 (F-16) เพื่อให้กองกำลังยูเครนมีศักยภาพทางน่านฟ้าเท่าเทียมกับรัสเซีย เพราะการรุกคืบในสมรภูมิจะทำได้ยาก หากไม่ได้รับการสนับสนุนทางอากาศและอาวุธพิสัยไกล นอกจากนี้เอฟ-16 ยังสามารถนำมาใช้สนับสนุนด้านมนุษยธรรม เพราะจะช่วยปกป้องช่องทางการขนส่งสินค้าทางเรือของยูเครน ทำให้ยูเครนสามารถใช้ช่องทางนี้ได้ต่อไป หากรัสเซียไม่ต่ออายุความริเริ่มธัญพืชทะเลดำที่สหประชาชาติและตุรกีเป็นคนกลางเจรจา ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

เคียฟ 20 มิ.ย.- ยูเครนเผยว่า สามารถผลักดันกองกำลังรัสเซียออกจากหมู่บ้านได้เป็นแห่งที่ 8 ในปฏิบัติการรุกโต้กลับที่ดำเนินมา 2 สัปดาห์แล้ว และกำลังเตรียมแผนการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุด แม้ว่าถูกกองกำลังรัสเซียต้านทานอย่างหนักก็ตาม ฮันนา มาเลียร์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมของยูเครนเผยผ่านเทเลแกรมเมื่อวันจันทร์ว่า กองกำลังยูเครนสามารถยึดคืนหมู่บ้านบริเวณด่านหน้าการสู้รบที่อยู่ใกล้กับเส้นทางตรงไปยังชายฝั่งทะเลอาซอฟมากที่สุด และเป็นส่วนหนึ่งของการรุกคืบเข้าไปในฝั่งของรัสเซียได้มากถึง 7 กิโลเมตรตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยึดคืนพื้นที่ได้ทั้งหมด 113 ตารางกิโลเมตร และเนื่องจากศัตรูไม่ยอมถอยร่นโดยง่าย กองกำลังยูเครนจึงต้องเตรียมตัวสำหรับการปะทะอย่างหนักหน่วง พื้นที่ที่มีการสู้รบรุนแรงที่สุดคือฝั่งตะวันออกและตอนใต้ของยูเครน กองกำลังยูเครนกำลังรุกคืบตามสถานการณ์ที่ควรจะเป็น และยังไม่ใช่การโจมตีครั้งใหญ่ที่สุด ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวในคลิปที่เผยแพร่ทุกคืนว่า กองทัพยูเครนสามารถรุกคืบในบางเขตการสู้รบ ขณะเดียวกันก็ป้องกันการโจมตีหนักหน่วงในเขตการสู้รบอื่น โดยรวมแล้วไม่ได้เสียที่มั่นแต่อย่างใด มีแต่ปลดแอกพื้นที่ที่ถูกยึดครอง เขาจะเจรจากับพันธมิตรตะวันตกต่อไปเพื่อให้ได้อาวุธและเครื่องกระสุนโดยเร็วที่สุด ยูเครนยอมรับว่า ได้ปฏิบัติการรุกโต้กลับด้วยการโจมตีหลายเขตการสู้รบตามแนวด่านหน้าการสู้รบที่มีความยาวถึง 1,000 กิโลเมตร ตั้งเป้าจะยึดคืนพื้นที่ให้ได้ร้อยละ 18 และปกปิดข้อมูลอย่างระมัดระวังด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ยูเครนยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนของการเริ่มโจมตีครั้งใหญ่ ด้านนรัสเซียเผยว่า สามารถสกัดการโจมตีได้หลายครั้ง และเผยแพร่คลิปทหารรัสเซียอ้างว่ายึดรถถังผลิตโดยฝรั่งเศสได้ที่แคว้นเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน แต่ไม่ได้พูดถึงหมู่บ้านที่ยูเครนอ้างว่ายึดคืนได้เป็นแห่งที่ 8 แต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

มอสโก 19 มิ.ย.- รัสเซียรายงานว่า มีการสู้รบอย่างหนักหน่วงเมื่อวันอาทิตย์ที่บริเวณด่านหน้าการสู้รบในยูเครน ขณะที่ผู้นำยูเครนอ้างว่าการรุกโต้กลับกำลังคืบหน้าด้วยดีและกล่าวชมทหารยูเครนที่สามารถขับไล่การรุกคืบของศัตรู เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียเผยผ่านเทเลแกรมว่า ยูเครนยึดคืนหมู่บ้านแห่งหนึ่งในแคว้นซาปอริชเชียที่อยู่ทางตอนใต้ และใช้สนามเพลาะเป็นที่หลบกระสุนปืนใหญ่ของรัสเซีย การรุกลักษณะนี้เป็นผลกับศัตรูแม้ต้องสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ได้ระบุถึงหมู่บ้านดังกล่าวในการแถลงความคืบหน้ารายวัน โดยระบุเพียงว่ากองกำลังรัสเซียสามารถขับไล่กองกำลังยูเครนที่โจมตี 3 เขตของด่านหน้าการสู้รบที่มีความยาวทั้งหมด 1,000 กิโลเมตร ขณะที่กองทัพยูเครนไม่ได้ระบุถึงหมู่บ้านนี้เช่นกัน หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนอ้างว่า สามารถยึดหมู่บ้านใกล้เคียงและหมู่บ้านที่อยู่ถัดไปทางตะวันออกในแคว้นโดเนตสก์ในการเริ่มต้นปฏิบัติการรุกโต้กลับ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวว่า การรุกโต้กลับของยูเครนกำลังคืบหน้าด้วยดี และกล่าวชมทหารยูเครนว่ามีความสามารถอย่างยิ่งในการขับไล่การโจมตีของศัตรู หน่วยข่าวกรองของอังกฤษระบุว่า การสู้รบในขณะนี้กำลังหนักหน่วงอยู่ที่แคว้นซาปอริชเชีย ฝั่งตะวันตกของแคว้นโดเนตส์ และใกล้เมืองบักห์มุต เพราะกองกำลังยูเครนได้ใช้ปฏิบัติการรุกโต้กลับในพื้นที่เหล่านี้ และมีความคืบหน้าเล็กน้อย ขณะที่รัสเซียป้องกันได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครน และทั้ง 2 ฝ่ายต่างสูญเสียอย่างหนัก.-สำนักข่าวไทย