นิวซีแลนด์จะเปลี่ยนมาใช้ระบบอยู่ร่วมกับโควิด
เวลลิงตัน 22 พ.ย.- นิวซีแลนด์จะเปลี่ยนมาใช้ระบบการมีชีวิตอยู่ร่วมกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคมนี้ ยุติการใช้มาตรการจำกัดเคร่งครัด และให้ธุรกิจในเมืองใหญ่ที่สุดเปิดทำการอีกครั้ง นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์แถลงวันนี้ว่า ความจริงอันโหดร้ายคือ เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตายังคงอยู่และไม่จากไปไหน แต่นิวซีแลนด์ได้เตรียมพร้อมรับมืออย่างดี เพราะมีอัตราการฉีดวัคซีนสูง และมีมาตรการความปลอดภัยล่าสุด โดยนำสัญญาณไฟจราจรมาจัดลำดับความปลอดภัยของแต่ละพื้นที่ แบ่งเป็นสีแดง ส้ม หรือเขียว ตามระดับการติดเชื้อและการฉีดวัคซีน และการใช้บัตรผ่านโควิด โอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศที่เป็นศูนย์กลางการระบาดของสายพันธุ์เดลตา จะเริ่มด้วยสีแดง ซึ่งต้องบังคับใส่หน้ากากอนามัยและจำกัดจำนวนคนรวมตัวตามสถานที่สาธารณะ เมืองนี้ถูกล็อกดาวน์มานานกว่า 90 วัน และเพิ่งผ่อนคลายมาตรการบางอย่างเมื่อไม่นานมานี้ ผู้นำนิวซีแลนด์เผยด้วยว่า ขณะนี้ชาวนิวซีแลนด์ที่เข้าเกณฑ์ฉีดวัคซีนฉีดครบโดสแล้วร้อยละ 83 และฉีดเข็มแรกแล้วร้อยละ 88 ก่อนหน้านี้รัฐบาลนิวซีแลนด์เผยว่า จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ แล้วเปลี่ยนไปใช้ระบบสัญญาณไฟจราจรเพื่อควบคุมการระบาด เมื่อผู้เข้าเกณฑ์ฉีดวัคซีนฉีดครบโดสแล้วร้อยละ 90 นิวซีแลนด์สามารถควบคุมการระบาดได้ดี จนกระทั่งเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาระบาดในเดือนสิงหาคม ทำให้นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นต้องยกเลิกยุทธศาสตร์กำจัดโควิด และถือว่าเป็นโรคประจำถิ่น (endemic).-สำนักข่าวไทย