ภูมิใจไทย

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย.- ปลัดมหาดไทย หอบดอกไม้ร่วมยินดี “นายกฯ หนู” ขณะที่ “3 อดีตอธิบดี” สมัย มท.หนู ตบเท้าเข้าพรรคภูมิใจไทย เวลา 14.40 น. สำนักงานพรรคภูมิใจไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเดินทางมายังพรรค พร้อมหอบช่อดอกกุหลาบสีชมพูขนาดใหญ่ มาแสดงความยินดีให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในโอกาสที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 โดยมีทีมงานพานายอรรษิษฐ์ ขึ้นลิฟท์โดยสารไปยังด้านบนที่ทำการพรรค นอกจากนี้ยังมีอดีตอธิบดีในสมัยที่ นายอนุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาทิ นายไชยวัฒน์ จุนถิรพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อดีตอธิบดีกรมการปกครอง นายพรพจน์ เพ็ญภาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย อดีตอธิบดีกรมที่ดิน แล้วนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทั้งนี้ อดีตอธิบดีทั้ง 3 คน คือนายไชยวัฒน์ จะเกษียณอายุราชการในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ขณะที่นายพรพจน์ เหลืออายุราชการ […]

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย.-“อนุทิน”ไม่กังวล สส.เพื่อไทย ยื่นถอดถอน พ้นสมาชิกภาพ ปม MOA สวนกลับหากปชน.จับมือสนับสนุน “ชัยเกษม” คงต้องทำมากกว่าข้อตกลง เพราะเคยผิดสัญญามาก่อน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ สส.พรรคเพื่อไทยเข้าชื่อ ถึงประธานสภายื่นให้ศาล รัฐธรรมนูญ วินิจฉัย กรณีที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนร่วมกันทำ MOA ว่าเข้าข่ายครอบงำพรรคการเมือง และก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์หรือไม่ ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามสิทธิ์ตามกฎหมาย ซึ่งข้อเสนอและข้อตกลงที่พรรคภูมิใจไทยมีต่อพรรคประชาชน ไม่ต่างกับพรรคเพื่อไทยได้นำเสนอ ก่อนที่จะมีการลงมติ ให้ตนได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งครั้งนั้นพรรคเพื่อไทยเสนอว่า หากพรรคประชาชนโหวตเลือก นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ก็จะยุบสภาในทันที ซึ่งถ้าหากพรรคประชาชนยอมรับ ก็ถือว่าเป็นข้อตกลง แต่พรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทย คงต้องมีมากกว่า MOA เพราะพรรคเพื่อไทยเคยผิดสัญญามาแล้ว และเรื่องนี้ควรต้องไปถามพรรคเพื่อไทยมากกว่า .-312-สำนักข่าวไทย

กทม. 7 ก.ย.-“อนุทิน” ถึงพรรคภูมิใจไทย รอรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทยคึกคัก สื่อมวลชนเฝ้าติดตาม เตรียมการพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะเป็นเวลา 11.20 น. โดยจัดเตรียมพื้นที่ประกอบพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่พรรคภูมิใจไทย บริเวณชั้น 4 ของที่ทำการพรรค ซึ่งมีการจัดระเบียบสื่อมวลชนให้อยู่เฉพาะบริเวณพื้นที่ที่กำหนด และชั้นสองของที่ทำการพรรคเท่านั้น โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปบันทึกภาพ บริเวณชั้น 4 สถานที่จัดพิธี ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้า มีบรรดาแกนนำพรรคภูมิใจไทย สส. ของพรรค ทยอยเดินทางมาร่วมพิธี ขณะที่ นายอนุทิน เดินทางมาถึงพรรคแล้ว.-สำนักข่าวไทย

5 ก.ย. – สส.เพื่อไทย อภิปรายเรียกร้องให้ “อนุทิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงกรณีมีกระแสใช้เงินหลักพันล้านโหวตนั่งนายกรัฐมนตรี การประชุมสภาผู้แทนราษฎรอยู่ระหว่างการพิจารณาวาระให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยอยู่ระหว่างการอภิปรายของแต่ละฝ่าย เพื่อสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และพรรคเพื่อไทยเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การที่พรรคประชาชนประกาศสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลแต่ไม่ขอร่วมรัฐบาลด้วย การตรวจสอบรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ต้องรับผิดชอบต่อนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยไปดำเนินการอย่างไร แล้วพรรคประชาชนจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร หากพรรคภูมิใจไทยจะออกนโยบายอะไร พรรคประชาชนก็ไม่สามารถทัดทานได้ การแก้รัฐธรรมนูญโดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ 4 เดือนต่อจากนี้การตรวจสอบนโยบายรัฐบาลจะเข้มแข็งหรือไม่ เพราะไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าพรรคภูมิใจไทยจะทำตามข้อตกลงที่วางไว้ พร้อมมองว่านายอนุทินขาดคุณสมบัติเพราะเป็นผู้มีบารมีมากไป ยกตัวอย่างกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทยชะลอการดำเนินการในคดีเขากระโดง เป็นต้น แต่หากเลือกนายชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรี ปัญหาต่างๆ จะไม่เกิดขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทยจะประกาศยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ด้านนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจ เพราะมีข่าวลือมีการใช้เงินถึง 1,500 ล้านบาท ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้น นายอนุทินต้องเคลียร์เรื่องนี้ เพราะมี สส.ของพรรคเพื่อไทยไป 8 […]

รัฐสภา 5 ก.ย.-สภาฯ ถกเลื่อน-ไม่เลื่อน ญัตติโหวตนายกฯ “เพื่อไทย” รีบเรียกตัวเป็น “ฝ่ายค้าน”​ เรียกเสียงฮาทั้งห้องประชุม ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยเมื่อเวลา 09.40 น. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย เสนอให้ที่ประชุมเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระ โดยเลื่อนเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายยกฯ ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้สส.พรรคเพื่อไทยเห็นแย้ง ซึ่งนายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายเห็นแย้งเนื่องจากต้องการให้พิจารณาเรื่องไปตามระเบียบวาระที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันนั้นการเลือกนายกฯ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากดังนั้นสส.ควรมีเวลาพิจารณาให้รอบคอบ ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยว่าเมื่อมีความเห็นแย้งจำเป็นต้องมีการลงมติตัดสิน ทว่าในจังหวะนั้นนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หารือว่าควรเปิดให้ สส. ได้อภิปรายสนับสนุนความเห็นทั้ง 2 ประเด็นซึ่งเป็นตามธรรมเนียมของสภา จากนั้นที่ประชุมจึงเปิดให้สส. อภิปรายสนับสนุนญัตติที่เสนอ ทั้งประเด็นขอเลื่อนวาระและไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนระเบียบวาระ ทั้งนี้ในความเห็นของฝ่ายที่คัดค้านมองว่า วาระเลือกนายกฯเป็นเรื่องสำคัญ และควรให้สส.พิจารณาให้ดี ต่อกรณีที่พรรคการเมืองที่มีบุคคลดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ […]

กรุงเทพฯ 4 ก.ย.-“จิรายุ” ถามพรรคประชาชน ไหนว่ามีจุดยืนเรียกร้องไม่ให้ใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือทางการเมือง หลังปล่อยให้ “ภูมิใจไทย” ทำ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาชนเรียกร้องมาตลอด ว่า “จะไม่ให้ใครเอา ม.112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการเล่นงานใคร” แต่ทำไมยังยืนยิ้มได้ ที่ปล่อยให้ พรรคภูมิใจไทยที่ประกาศจับมือกันไปแจ้งความในลักษณะเช่นนี้ นายจิรายุ ยังกล่าวว่า พรรคประชาชนจะต้องร่วมรับผิดชอบกับการตัดสินใจครั้งนี้อย่างเจ็บปวดเป็นครั้งที่ 2 จากที่ครั้งแรกยังไม่น่าจะเข็ดที่พรรคภูมิใจไทยเคยโหวตคว่ำไม่เอา “หัวหน้าพิธา” แม้แต่เสียงเดียว ในขณะเดียวกัน“พรรคเพื่อไทย”ทุกเสียงให้เกียรติ โหวตเลือกนายพิธา อย่างเต็มกำลัง ทำเป็นลืมไปได้.-316.-สำนักข่าวไทย