ทูตพิเศษอาเซียน

กัมพูชาระบุว่า ทูตพิเศษด้านเมียนมาของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน จะเดินทางเยือนเมียนมาในวันที่ 21-23 มีนาคมนี้ เพื่อวางรากฐานเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสันติภาพที่รัฐบาลทหารเมียนมาถูกหลายฝ่ายกล่าวหาว่าพยายามถ่วงเวลาในขณะที่ยึดอำนาจการปกครองและมุ่งโจมตีฝ่ายตรงข้าม

เนปิดอว์ 21 ก.พ.- รัฐบาลทหารเมียนมาวิจารณ์เสียงเรียกร้องให้ทูตพิเศษว่าด้วยเรื่องเมียนมาของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนพบกับกลุ่มต่อต้านการทำรัฐประหาร ซึ่งเป็นกลุ่มที่รัฐบาลทหารประกาศให้เป็น “กลุ่มก่อการร้าย” กระทรวงต่างประเทศเมียนมาออกแถลงการณ์ว่า กระทรวงเห็นว่าในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว เจตนาบางเรื่องเป็นผลดีต่อการปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ประการ แต่สมาชิกอาเซียน 2 ประเทศกลับเสนอให้ทูตพิเศษอาเซียนติดต่อกับสมาคมผิดกฎหมายและกลุ่มก่อการร้าย ข้อเสนอนี้ไม่เพียงขัดต่อหลักการในกฎบัตรอาเซียน แต่ยังบ่อนทำลายความพยายามของอาเซียนในการต่อต้านการก่อการร้ายด้วย อินโดนีเซียเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จำเป็นต้องให้ทูตพิเศษอาเซียนได้พบกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในเมียนมา ขณะที่มาเลเซียเรียกร้องให้ทูตพิเศษอาเซียนได้พบกับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกรัฐบาลพลเรือนที่ถูกโค่นอำนาจและสมาชิกกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ด้านนายซิน มาร์ อ่อง รัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติทวีตผ่านทวิตเตอร์ขอบคุณนายไซฟุดดิน อับดุลลาห์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียที่สนับสนุนอย่างแข็งขันให้หาทางออกเรื่องเมียนมา นายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาในฐานะทูตพิเศษอาเซียนออกตัวว่า การติดต่อกับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเป็นเรื่องซับซ้อนเพราะรัฐบาลทหารเมียนมาคัดค้าน แต่ทูตพิเศษสามารถทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงได้ และว่าทูตพิเศษคนก่อนหน้าเขาไม่สามารถเข้าเมียนมาได้ เพราะสมาชิกอาเซียนบางประเทศตั้งเงื่อนไขที่รัฐบาลทหารเมียนมามองว่าไม่สามารถยอมรับได้ เช่น การขอพบกับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่กำลังถูกไต่สวนในหลายคดี.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลทหารเมียนมายืนยันในวันนี้ว่า จะไม่อนุญาตให้ทูตพิเศษด้านเมียนมาของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน เข้าพบนางออง ซาน ซู จี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อแรงกดดันเพิ่มสูงขึ้นจากนานาชาติที่ต้องการให้เมียนมาดำเนินการตามแผนฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนที่ตกลงไว้เมื่อเดือนเมษายน