ไฟไหม้

อัยการเม็กซิโก กล่าววานนี้ว่า ได้จับกุมผู้อพยพรายหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเริ่มจุดไฟเผาศูนย์กักกันผู้อพยพเข้าเมืองใกล้ชายแดนติดกับสหรัฐ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 39 ราย และบาดเจ็บอีก 10 ราย

เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ว่า เหตุไฟไหม้เรือโดยสารในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 ราย ส่วนอีก 230 ราย สามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย

เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ว่า เกิดเหตุไฟไหม้ในเรือโดยสารทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย และอีก 230 รายได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย

ซิวดัดฮัวเรซ 29 มี.ค.- หลายฝ่ายเรียกร้องความเป็นธรรม หลังเกิดเหตุไฟไหม้ศูนย์กักกันผู้อพยพในเม็กซิโกที่อยู่ใกล้พรมแดนสหรัฐ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้ว 40 คน คาดว่าต้นเพลิงมาจากผู้อพยพที่ต่อต้านการถูกเนรเทศกลับประเทศ เหตุเกิดเมื่อคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นที่ศูนย์กักกันของสถาบันการอพยพแห่งชาติในเมืองซิวดัดฮัวเรซ รัฐชิวาวา ทางเหนือของเม็กซิโกที่มีพรมแดนติดกับรัฐเทกซัสของสหรัฐ ไฟไหม้รุนแรงจนต้องระดมนักดับเพลิงและรถพยาบาลจำนวนมาก ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโกเผยว่า คาดว่าผู้อพยพจุดไฟเพื่อประท้วงเพราะกลัวว่าจะถูกเนรเทศ พวกเขานำเสื่อมาไว้ที่ประตูศูนย์กักกันแล้วจุดไฟ โดยไม่คิดว่าจะนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมที่น่าสลดใจ ด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตตั้งจุดไว้อาลัยชั่วคราว และเรียกร้องความเป็นธรรมว่า ผู้อพยพทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองเพราะไม่ใช่อาชญากร นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น เรียกร้องให้เปิดการสอบสวนเหตุไฟไหม้อย่างละเอียด ขณะที่ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยยูเอ็นแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และร้องขอให้ประเทศในภูมิภาคอเมริการับมือกับคลื่นผู้อพยพอย่างมีมนุษยธรรม เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่า ไฟไหม้เป็นผลพวงจากการที่เม็กซิโกและสหรัฐใช้นโยบายที่เข้มงวดและโหดร้ายกับผู้อพยพ ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนีเอาตัวรอดจากศูนย์กักกันที่ไฟกำลังโหมไหม้ โดยปล่อยให้ผู้อพยพถูกขังไว้ข้างใน ศูนย์แห่งนี้กักกันผู้อพยพชายที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 68 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 40 คน บาดเจ็บ 28 คน ประกอบด้วยผู้เดินทางมาจากกัวเตมาลา ฮอนดูรัส เวเนซุเอลา เอลซัลวาดอร์ โคลอมเบีย และเอกวาดอร์ แต่ละเดือนจะมีคนประมาณ 200,000 คนพยายามข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกเข้าไปในสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพหนีความยากจนและความรุนแรงในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ […]

เวโก 25 มี.ค.- อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี 2567 ครั้งแรก ณ จุดที่เคยเกิดเหตุการณ์ปะทะนองเลือดระหว่างกลุ่มคลั่งลัทธิกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในปี 2536 ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 คน ทรัมป์วัย 76 ปีจะหาเสียงต่อหาผู้สนับสนุนที่คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 15,000 คน ในขณะที่เขาอาจจะถูกตั้งข้อหาเรื่องจ่ายเงินในช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2559 เพื่อปิดปากนักแสดงหนังผู้ใหญ่ไม่ให้เปิดโปงเรื่องความสัมพันธ์ชู้สาว เขาอ้างเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าอาจจะถูกจับกุมและชักชวนคนไปประท้วงหน้าสำนักงานอัยการแขวงแมนฮัตตัน แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ถูกจับกุมแต่อย่างใด กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บางคนเดินทางจากต่างรัฐมายังเมืองเวโก รัฐเทกซัส หลายคนไปยังอนุสรณ์การปิดล้อมเวโกเมื่อวันศุกร์ เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางปิดล้อมกลุ่มอาคารของสาวกลัทธิแบรนช์ดาวิเดียนตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 19 เมษายน 2536 มีสาวกเสียชีวิต 82 คน เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 นาย สาวกส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจและถูกไฟคลอกเพราะเกิดไฟไหม้ที่กลุ่มอาคารดังกล่าว ขณะที่นายเดวิด โคเรช เจ้าลัทธิถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม และมีการวิจารณ์เจ้าหน้าที่ว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุ แมรี ทรัมป์ หลานสาวของทรัมป์ที่เป็นนักเขียนและนักจิตวิทยาทวีตว่า เป็นแผนการของทรัมป์ที่จะใช้เหตุการณ์เมื่อ 30 ปีก่อนย้ำเตือนผู้สนับสนุนเรื่องกลุ่มลัทธิสู้กับเจ้าหน้าที่สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ ทรัมป์ต้องการให้เกิดความโกลาหลรุนแรงที่มีคนเสียชีวิตแบบเดียวกันเพื่อช่วยให้ตนเองรอดจากกระบวนการยุติธรรม เธอขอให้ผู้ติดตามทวิตเตอร์ของเธอที่มีอยู่ 1 ล้าน 6 […]

ยอดผู้เสียชีวิตจากเพลิงไหม้ที่คลังน้ำมันของเปอร์ตามินา บริษัทพลังงานของรัฐบาลอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 33 รายแล้ว และอีก 11 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส