ผู้นำโลกอาหรับและมุสลิมเสียงแตกเรื่องลงโทษอิสราเอล
ริยาด 12 พ.ย.- ผู้นำโลกอาหรับและโลกมุสลิมประณามการกระทำของกองกำลังอิสราเอลในกาซา แต่เสียงแตกเรื่องมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจและการเมืองต่ออิสราเอล แถลงการณ์ร่วมของที่ประชุมสุดยอดสันนิบาตอาหรับและองค์การความร่วมมืออิสลามหรือโอไอซี (OIC) ที่กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันเสาร์ ไม่ยอมรับการกล่าวอ้างของอิสราเอลว่ากระทำไปเพื่อปกป้องตนเอง เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกมติที่เด็ดขาดและมีผลผูกพัน เพื่อหยุดยั้งการรุกรานของอิสราเอล เรียกร้องให้ยุติการจำหน่ายอาวุธให้แก่อิสราเอล และไม่ยอมรับการแก้ปัญหาทางการเมืองในอนาคตที่จะทำให้ฉนวนกาซายังคงถูกแยกออกจากเขตเวสต์แบงก์ เดิมสันนิบาตอาหรับและโอไอซีจะประชุมสุดยอดแยกกัน นักการทูตอาหรับเผยว่า สาเหตุที่ตัดสินใจประชุมร่วมกัน เนื่องจากสันนิบาตอาหรับไม่สามารถออกแถลงการณ์ได้ สมาชิกบางประเทศอย่างแอลจีเรียและเลบานอน เสนอให้ขู่ว่าจะไม่ลำเลียงน้ำมันให้แก่อิสราเอลและพันธมิตร และเสนอให้ตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการทูต แต่สมาชิกอย่างน้อย 3 ประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรนที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลในปี 2563 ไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แถลงในเวลาต่อมาว่า ผู้นำโลกอาหรับจะต้องยืนหยัดต่อต้านกลุ่มฮามาสที่เป็นส่วนหนึ่งของแกนก่อการร้ายนำโดยอิหร่าน ขณะที่กลุ่มฮามาสแถลงเรียกร้องให้ที่ประชุมผู้นำโลกอาหรับและโลกมุสลิมขับเอกอัครราชทูตอิสราเอล ตั้งคณะกรรมาธิการทางกฎหมายขึ้นไต่สวนอาชญากรสงครามอิสราเอล และตั้งกองทุนฟื้นฟูฉนวนกาซา.-สำนักข่าวไทย