![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2023/11/24/1277998/1700814754_419706-tnamcot-685x360.jpg)
ผู้อพยพชาวโรฮีนจาหลายร้อยคนเตรียมลงเรือออกจากบังกลาเทศ
อารกันโปรเจค ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสิทธิชาวโรฮีนจา กล่าววันนี้ว่า เรือที่จะบรรทุกผู้อพยพชาวโรฮีนจาอย่างน้อย 2 ลำ ที่มีผู้โดยสารหลายร้อยคนเตรียมที่จะออกจากบังกลาเทศในสัปดาห์นี้
อารกันโปรเจค ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสิทธิชาวโรฮีนจา กล่าววันนี้ว่า เรือที่จะบรรทุกผู้อพยพชาวโรฮีนจาอย่างน้อย 2 ลำ ที่มีผู้โดยสารหลายร้อยคนเตรียมที่จะออกจากบังกลาเทศในสัปดาห์นี้
อินโดนีเซียจัดที่พักอาศัยชั่วคราวให้ชาวโรฮีนจาที่อพยพทางเรือมาถึงจังหวัดอาเจะห์ รวมกว่า 1,000 คน
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอชซีอาร์ กล่าววันนี้ว่า ผู้อพยพชาวโรฮีนจาประมาณ 200 คน เดินทางด้วยเรือถึงจังหวัดปลายสุดด้านตะวันตกของอินโดนีเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา
หน่วยงานของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น (UN) เผยว่า มีเรือ 3 ลำ บรรทุกผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจารวมมากกว่า 500 คน ขึ้นฝั่งจังหวัดอาเจะห์ที่อยู่ทางตะวันตกสุดของอินโดนีเซีย ในวันนี้
ผู้อพยพโรฮีนจาประมาณ 250 คน บนเรือไม้ที่อยู่กันอย่างแออัด ถูกปฏิเสธจากประชาชนในพื้นที่ทางตะวันตกของอินโดนีเซีย และถูกผลักดันให้กลับไปสู่ท้องทะเลอีกครั้ง
สหรัฐจะจัดสรรเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมให้แก่เมียนมาและบังกลาเทศ เพิ่มอีก 116 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจา
ผู้อพยพชาวโรฮีนจาหลายพันคนชุมนุมประท้วงที่ค่ายพักในบังกลาเทศในวันนี้ เพื่อเรียกร้องขอกลับเมียนมาอย่างปลอดภัย ในวาระครบรอบ 6 ปี ที่เกิดเหตุรุนแรงในเมียนมา และทำให้พวกเขาต้องหนีภัยจากบ้านเรือนมายังบังกลาเทศ
มูลนิธิในเมียนมา เผยว่ามีผู้เสียชีวิต 17 คน จากเหตุเรือบรรทุกผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาหนีออกจากรัฐยะไข่ของเมียนมา แตกกลางทะเลเมื่อไม่กี่วันก่อน
บัวโนสไอเรส 8 มิ.ย.- ชาวโรฮีนจาจำนวนหนึ่งขึ้นศาลในกรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา เพื่อให้การด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกในคดีที่ศาลอาร์เจนตินาเปิดการสอบสวนเรื่องกองทัพเมียนมาก่ออาชญากรรม ประธานองค์การโรฮีนจาพม่ายูเค (Burmese Rohingya Organisation UK) เผยว่า การไต่สวนที่จัดขึ้นแบบปิดเมื่อวันพุธตามเวลาอาร์เจนตินาถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของทุกคนในเมียนมา เพราะมีการขึ้นให้การด้วยตัวเองและมีการแสดงหลักฐานที่มีน้ำหนักต่อศาลได้เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ดี เขาไม่ขอเปิดเผยข้อมูลหรือจำนวนชาวโรฮีนจาที่ขึ้นให้การด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แหล่งข่าวเผยว่า การไต่สวนจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน ระบบตุลาการของอาร์เจนตินาประกาศในปี 2564 ว่า จะเปิดการสอบสวนตามที่ได้รับคำร้องเรื่องทหารเมียนก่ออาชญากรรมกับชาวโรฮีนจา โดยอาศัยหลักการเขตอำนาจศาลสากลที่อนุญาตให้รัฐอ้างเขตอำนาจศาลทางอาญาเหนือผู้ถูกกล่าวหาโดยไม่คำนึงว่าผู้ถูกกล่าวหาก่ออาชญากรรมที่ใดและมีสัญชาติใด อันเป็นอำนาจที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ สตรีโรฮีนจา 6 คนที่ลี้ภัยอยู่ในบังกลาเทศได้ขึ้นศาลอาร์เจนตินาในปีดังกล่าวผ่านทางออนไลน์ ร้องเรียนเรื่องถูกประทุษร้ายทางเพศและมีคนในครอบครัวเสียชีวิตเพราะการกดขี่ของทางการเมียนมา ชาวโรฮีนจาประมาณ 750,000 คนลี้ภัยไปยังบังกลาเทศในปี 2560 หลังจากกองทัพเมียนมาใช้ปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ ขณะนี้ศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไอซีซี (ICC) และศาลโลกกำลังแยกกันสอบสวนกองทัพเมียนมา.-สำนักข่าวไทย
คณะโฆษกของรัฐบาลทหารเมียนมากล่าววันนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาจากพายุไซโคลน “โมคา” เพิ่มเป็น 145 รายแล้ว หลังจากพายุลูกนี้พัดกระหน่ำสร้างความเสียหายแก่เมียนมาเมื่อ 5 วันก่อน
ประชาชนนับแสนคนในเมืองซิตตเว เมืองท่าและเมืองหลักของรัฐยะไข่ของเมียนมา ถูกตัดขาดจากการติดต่อในวันนี้หลังจากที่พายุไซโคลน “โมคา” พัดถล่มทางตะวันตกของเมียนมาและบังกลาเทศ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกัน
เทคนาฟ 14 พ.ค.- สำนักงานอุตุนิยมวิทยาบังกลาเทศแจ้งว่า ไซโคลนโมคา (Mocha) ได้ขึ้นฝั่งพรมแดนบังกลาเทศ-เมียนมาแล้วในวันนี้ ทำให้ต้นไม้ล้มและมีฝนตกในพื้นที่ที่มีผู้ลี้ภัยโรฮีนจาอาศัยอยู่ร่วมล้านคน สำนักงานฯ แจ้งว่า ไซโคลนมีความเร็วลมสูงสุด 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขึ้นฝั่งในพื้นที่ที่อยู่ระหว่างเมืองค็อกซ์บาซาร์ของบังกลาเทศกับเมืองซิตตเว รัฐยะไข่ของเมียนมา ก่อนหน้านี้ศูนย์เตือนภัยไต้ฝุ่นร่วมสหรัฐแจ้งว่า ไซโคลนมีความเร็วลมสูงสุด 140 นอตหรือ 259 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่าเฮอริเคนระดับ 5 ชายชาวโรฮีนจาวัย 28 ปีที่ลี้ภัยอยู่ในบังกลาเทศเผยว่า ที่พักในค่ายผู้ลี้ภัยสร้างด้วยผ้าใบกันน้ำและไม้ไผ่ เพียงแค่ถูกลมพัดเบา ๆ ก็เสียหายแล้ว ส่วนโรงเรียนที่ใช้เป็นที่หลบภัยไซโคลนก็ไม่แข็งแรงมากพอที่จะต้านทานแรงลมได้ ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว ด้านชาวโรฮีนจาที่อยู่ในค่ายผู้พลัดถิ่นในเมืองซิตตเวเผยว่า เริ่มมีลมพัดแรงตั้งแต่เช้าและแรงขึ้นเรื่อย ๆ บ้านพักในค่ายพังเสียหาย หลังคาของที่หลบภัยซึ่งสร้างโดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) ถูกลมพัดปลิวหาย บังกลาเทศเคยถูกไซโคลนซิดร์ (Sidr) พัดถล่มทางตอนใต้ในเดือนพฤศจิกายน 2550 คร่าชีวิตคนไปมากกว่า 9,000 คน สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล ขณะที่เมียนมาเคยถูกไซโคลนนาร์กิส (Nargis) พัดถล่มบริเวณสันดอนแม่น้ำอิรวดีในปี 2551 คร่าชีวิตคนไปมากถึง 138,000 คน.-สำนักข่าวไทย