อาเจะห์ 29 พ.ย. – ชาวโรฮีนจาที่หนีจากค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศมายังอินโดนีเซียเผยสาเหตุที่ยอมเสี่ยงชีวิตล่องเรือนาน 12 วันว่า ต้องการหนีจากการถูกลักพาตัว กรรโชกทรัพย์และถูกฆ่า
เฉพาะเดือนพฤศจิกายนนี้เดือนเดียว มีชาวโรฮีนจาล่องเรือมาถึงจังหวัดอาเจะห์ ทางตะวันตกของอินโดนีเซียมากกว่า 1,000 คน มากที่สุดนับจากปี 2558 ชายโรฮีนจาวัย 27 ปีเผยว่า เขาและอีกหลายคนหนีความโหดร้ายในค่ายผู้ลี้ภัยที่อยู่ทั้งในและรอบเมืองค็อกซ์บาซาร์ของบังกลาเทศ ที่ซึ่งมีผู้ลี้ภัยมากกว่า 1 ล้านคน และแก๊งอาชญากรรมมักก่อเหตุลักพาตัวและทรมานเพื่อเรียกค่าไถ่ เขาถูกแก๊งลักพาตัวเรียกค่าไถ่ 500,000 ตากา (ราว 158,600 บาท) เพื่อนำเงินไปซื้อปืน ไม่เช่นนั้นจะถูกฆ่า ในที่สุดหาเงินไถ่ตัวได้ 300,000 ตากา (ราว 95,200 บาท) เมื่อเดือนตุลาคม จึงรีบหาทางหนีพร้อมกับครอบครัว โดยเสี่ยงชีวิตล่องเรือมาถึงอินโดนีเซียในวันที่ 21 พฤศจิกายน
อินโดนีเซียเผยว่า ไม่มีพันธกิจที่จะต้องรับผู้ลี้ภัยจากเมียนมา เพราะไม่ได้เป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ แต่เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ไม่ยอมให้เรือโรฮีนจาขึ้นฝั่ง อินโดนีเซียจึงกลายเป็นทางเลือกเดียว ขณะที่คนท้องถิ่นพยายามลาดตระเวนและผลักดันเรือผู้ลี้ภัยออกไป
กลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์รายงานในปีนี้ว่า แก๊งอาชญากรรมและแก๊งสาขาของกลุ่มติดอาวุธอิสลามสร้างความหวาดกลัวตอนกลางคืนตามค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ โดยที่ทางการบังกลาเทศไม่ได้ดำเนินการเท่าที่ควร ขณะที่กระทรวงกลาโหมบังกลาเทศเผยว่า ระบุตัวได้อย่างน้อย 11 แก๊ง แก๊งเหล่านี้แย่งชิงอำนาจกันและพัวพันกับการค้ายาเสพติดและการค้ามนุษย์ ตำรวจบังกลาเทศเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้มีชาวโรฮีนจาถูกฆ่าตายในค่ายผู้ลี้ภัย 60 คน.-สำนักข่าวไทย